2

1164 Words
สามชั่วโมงต่อมา... หลังจากที่ประชุมเสร็จ หิรัญล้วงมือถือมาเปิดดูก็เห็นรูปที่คนสนิทส่งเข้ามาในแชตไลน์ จึงรีบกดต่อสายหาอีกฝ่าย เพราะอยากจะรู้ว่าหญิงสาวที่ทำให้หัวใจของตนเต้นผิดจังหวะคือใคร [ได้เรื่องหรือยัง?] [ครับ! เธอชื่อ ยูกิ อาซามิ เป็นน้องสาวของคุณชิโร่] [น้องสาวของชิโร่?] หิรัญเอ่ยทวนอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง [ใช่ครับ! แล้วสาเหตุที่ไม่มีใครรู้ว่าคุณชิโร่มีน้องสาว ก็เพราะว่า อีกฝ่ายหวงคุณยูกิสุดๆ เลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน เข้าเรียนโรงเรียนประจำ ปิดเทอมก็อยู่แต่บ้าน ไม่เคยพาไปออกงานหรือพาไปไหนมาไหนด้วยเลยสักครั้ง] [สวยออกขนาดนั้น เป็นฉันก็หวง] หิรัญบอกอย่างไม่แปลกใจ [โธ่! บอสครับ ผมมองไม่เห็นทางจะไปต่อเลย] คนสนิทเอ่ยเตือนอย่างเป็นกังวล กลัวว่าเรื่องราวจะจบไม่สวย เพราะผู้เป็นนายของตนไม่กินเส้นกับไดอิจิมาแต่ไหนแต่ไร [อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม] หิรัญบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น [แต่ตอนนี้คุณยูกิเธอยังเรียนอยู่นะครับ] [จะจบเมื่อไหร่] [อีกสองปีครับ] [นานจัง!] [นั่นสิครับ เปลี่ยนเป็นนางแบบที่ชื่อแพมหรือมายาดูไหม ผมว่าน่าจะโอเคกว่า] คนสนิทรีบเสนอทางเลือก [มันคนละแบบกัน แกไม่เข้าใจหรอก] [ผมเข้าใจครับ! แบบที่ง่ายกับแบบที่จะมีปัญหาตามมาไม่จบไม่สิ้น เพราะคุณชิโร่คงไม่มีทางยกน้องสาวให้กับบอสแน่] [มันต้องมีสักวิธีแหละน่า] หิรัญกดวางสายของคนสนิทอย่างไม่สนใจคำเตือน แล้วเปิดดูรูปของนางฟ้าคนสวยต่อ พร้อมกับคิดหาวิธีที่จะได้เธอมาเชยชม 2 ปีต่อมา...(ปัจจุบัน) ไดอิจิ บรรจงวิเศษ เป็นประธานใหญ่บริษัท บรรจงวิเศษ กรุ๊ป อายุ 38 ปี สูง 189 ซม. หน้าตาคมเข้มหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ถูกเลขาเก่าหักหลังโดยการยุให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เทขายหุ้นทั้งหมดร่วม 40% ให้กับคู่แข่งทางการค้าอย่าง หิรัญ ซานเตียนโน่ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ต่างประเทศ กระทั่งกลับมาไทย แล้วได้พบปะกันตามงานเลี้ยงต่างๆ ก็ยังไม่วายแซะกันผ่านสื่อไปมาอยู่หลายครั้ง จนใครต่อใครต่างก็เดาได้ว่าไม่กินเส้นกัน [สรุปแกจะรับข้อเสนอไหม?] ปลายสายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง หลังยื่นข้อเสนอให้ขึ้นชกมวยบนเวทีใหญ่ที่มีผู้ชมทั่วทั้งประเทศ หากอีกฝ่ายชนะ จะยอมขายหุ้นคืนให้ [แกพูดว่าอะไรนะ] ไดอิจิถามย้ำอย่างรู้สึกชาไปทั้งหน้า ที่อยู่ๆ คู่อริก็โทร. มาหาพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่ฟังดูแล้วทะแม่งๆ หูชอบกล [ฉันจะขายหุ้น 40% คืนให้โดยมีข้อแม้ว่าแกจะต้องขึ้นชกกับฉันบนสังเวียนและชนะ] [แล้วถ้าฉันแพ้ล่ะ] [ฉันจะยกหุ้นให้ฟรีๆ แต่น้องสาวแกต้องมาอยู่ในความดูแลของฉัน] [ทำไมต้องลากยูกิเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย] ไดอิจิถามกลับอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายบังอาจดึงน้องสาวของตนเข้ามาอยู่ในเกม [แกไม่มีสิทธิ์มาตั้งคำถามกับฉัน] คนที่ถือไพ่เหนือกว่าตอกกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ [ทำไมจะไม่มี แกลากน้องสาวของฉันเข้ามาเกี่ยวทำไม] ไดอิจิถามอย่างโมโห แม้ลึกๆ จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสนใจน้องสาวอยู่ แต่มันบ้ามาก! ที่จะยอมทุ่มเงินหลายร้อยล้านเพื่อกว้านซื้อหุ้นในบริษัทของตน [สรุปแกจะตกลงไหม? หรือว่ากลัวจะต่อยแพ้ฉัน] คนที่กำลังจะโดนต้อนให้จนมุม รีบเบี่ยงประเด็น [ไอ้รัญ อย่างฉันเนี่ยนะจะกลัวแก ที่ฉันอยากรู้คือ...] [งั้นก็ตกลงตามนี้] ปลายสายเอ่ยจบก็วางสายไปทันที “ไอ้เชี่ย” ไดอิจิสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เกิดมาไม่เคยเจอะเจอใคร ไร้มารยาทขนาดนี้มาก่อน พูดกันยังไม่เคลียร์ก็วางสายใส่หน้าคนอื่นไปดื้อๆ “เสี่ยรัญว่าไงบ้างครับบอส” คมสันอยากรู้ว่าเสี่ยใหญ่เจรจาอะไรกับเจ้านายของตน “มันจะขายหุ้น 40% คืนให้ ถ้าฉันต่อยมันชนะ” ไดอิจิบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเครียดหนัก กับปัญหาครั้งใหญ่ของชีวิตที่กำลังเผชิญหน้า “แล้วถ้าบอสแพ้...” คมสันถามค้างไว้อย่างรอประเมินสถานการณ์ “มันยกหุ้นให้ฟรีๆ” ไดอิจิบอกพลางกลอกตา “งั้นก็ดีน่ะสิครับ” คมสันบอกอย่างดีใจ “ดีกับผีน่ะสิ มันจะให้ยูกิไปอยู่กับมันด้วย” ไดอิจิระเบิดออกมาอย่างแค้นเคืองใจ กับเหตุผลที่แท้จริงของคู่อริ “...” คมสันได้ฟังก็นึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน ที่หิรัญได้เจอกับน้องสาวของเจ้านาย ‘บ้าจริง! นี่เสี่ยแอบชอบคุณยูกิตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่าวะ’ “พ่อมันก็ดูเป็นคนดี ทำธุรกิจโปร่งใสมาตลอด แต่ทำไมไอ้เชี่ยนี่ถึงได้ชาติชั่วนักก็ไม่รู้ ผู้หญิงอื่นมีตั้งเยอะแยะ มาสนใจน้องสาวฉันทำไม” “ทางเดียวที่มีก็คือ...บอสจะต้องชนะเสี่ยรัญให้ได้ครับ” “อืม! เรื่องนั้นไม่ยากหรอก แต่แกก็รู้ว่าถ้าไอ้รัญได้สนใจอะไรแล้ว มันจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ” ไดอิจิรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก หากสู้กันซึ่งๆ หน้า ตนไม่กลัว เชื่อว่าสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อยู่แล้ว “ผมจะให้บอดี้การ์ดตามติดคุณยูกิแบบไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ” คมสันบอกเสียงเข้ม “ดี! แล้วไอ้หนอนบ่อนไส้นั่นล่ะ ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน” ไดอิจิถามหา ‘สมิธ’ เลขาตัวดีที่ขายความลับในบริษัทของตน แถมยังยุแยงให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เทขายหุ้นให้หิรัญ “เห็นว่าแอบพาเมียน้อยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นครับบอส” คมสันบอกอย่างแค้นใจแทนผู้เป็นนาย “หึ! งั้นต้องเตรียมต้อนรับมันสักหน่อยแล้วสิ” ไดอิจิยกยิ้มมุมปากขึ้นนิดที่อีกฝ่ายเลือกสถานที่ตายได้เหมาะเจาะ “สั่งมาได้เลยครับบอส ผมจะตามไปจัดการมันเอง” คมสันเตรียม รับคำสั่ง แต่ทว่า...อยู่ๆ ก็มีรถแล่นเข้ามาจอดและเหยียบเบรกเสียงดังสนั่น บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนขับได้เป็นอย่างดี “ใครมาวะ” ไดอิจิขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย คมสันที่ชะโงกหน้าไปดู ทันทีที่เห็นว่าใครก้าวออกมาจากรถ ก็รีบรายงานผู้เป็นนาย “คุณบันลือมาครับบอส”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD