“สวัสดีจ้ะไอโกะ มาๆ ขอนมกอดหน่อยค่ะ” อ่อนรับไหว้แล้วหันไปเรียกเด็กสาวขี้อายให้เข้ามาหา
“คิดถึงนะคะ” ไอโกะเข้าไปกอดน้ำตาคลอหน่วย
ไดอิจิที่หันไปสั่งงานลูกน้องคนสนิทเสร็จ พอหันกลับมาก็เห็นสามสาวต่างวัยกำลังจะดราม่า จึงแกล้งกระแอมขึ้นขัดซะก่อนที่น้ำตาจะท่วมบ้าน
“อะ...ฮึ่ม! ไปกินข้าวกันเถอะครับ”
“ค่ะ / จ้ะ” อาซามิกับนมอ่อน ขานรับพร้อมกัน
“เอ่อ...หนูขอตัวไปพักก่อนนะคะ เวียนๆ หัว ยังไงไม่รู้” ไอโกะบอกก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำที่หางตาออกอย่างรวดเร็ว
“อ้าว! ไม่กินข้าวด้วยกันก่อน” อาซามิขมวดคิ้วถามอย่างมึนงง
“เราเพิ่งจะทานบนเครื่องไปเมื่อชั่วโมงก่อนน่ะ ยังไม่หิวจ้ะ” คนที่เก็บหลายสิ่งหลายอย่างเอาไว้ในใจบอกพลางส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้กับทุกคน
“โอเค! งั้นก็ไปพักก่อน ค่ำๆ เจอกันจ้ะ” อาซามิเข้าใจว่าเพื่อนรักคงไม่อยากจะรับประทานอาหารร่วมกับพี่ชายจอมขี้เก๊กของเธอ จึงไม่อยากจะฝืนใจของอีกฝ่าย เพราะบางครั้งพี่ชายของเธอก็มักจะดุไอโกะเรื่องนู่นนั่นนี่จนเกินเหตุ
“อืม” ไอโกะพยักหน้ารับ ก่อนจะก้มหัวลงนิดๆ ให้กับนมอ่อน และประมุขคนปัจจุบันของบ้าน “ขอตัวก่อนนะคะ”
ไอดิจิเหลือบมองตามแผ่นหลังบางที่เดินจากไป ก่อนจะหันไปชวนน้องสาวและนมอ่อนคุยเรื่องอื่น เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีในใจ
พอรับประทานอาหารและพูดคุยกับพี่ชายเสร็จ อาซามิก็เอ่ยขอตัวขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องนอน เพราะรอบค่ำมีงานเลี้ยงต้อนรับที่พี่ชายเตรียมจัดเอาไว้รับขวัญ โดยเชิญ ญาติ คนสนิทและคนในแวดวงธุรกิจมาร่วมงาน แต่กระนั้น...ก็ไม่ลืมแอบกระซิบบอกสาวใช้ให้จัดอาหารใส่ถาดไปให้กับเพื่อนรักที่ห้องนอน
ด้านไดอิจิที่เข้าไปนั่งในห้องทำงานได้ครู่หนึ่ง ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าจะบอกกับน้องสาวยังไงให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ ยิ่งพอเวลาล่วงเลยใกล้ถึงวันขึ้นชก ใจมันก็ร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก
ขณะเดียวกันก็ตั้งใจว่าจะแอบวางยาหิรัญตอนขึ้นชก แม้ว่าในชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะทำอะไรที่สกปรก แต่เพื่อน้องสาวและบริษัทที่บิดาสร้างมา เขาก็ไม่มีทางเลือก หากเป็นการชกที่ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน เขายินดีชกแบบขาวสะอาดโดยไม่แคร์ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่เดิมพันครั้งนี้มันสูงเกินไป และเขาเสี่ยงที่จะแพ้ไม่ได้แม้แต่เปอร์เซ็นเดียว
เวลา 19: 29 น. งานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ เฉพาะภายในถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางคนสนิทราวๆ ห้าสิบกว่าคนที่พากันเดินทางมาแสดงความยินดี หลังน้องสาวสุดรักสุดหวงของไดอิจิคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยดังของต่างประเทศกลับมาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
“ยินดีด้วยนะหลานรัก” บันลือหอบกล่องของขวัญมามอบให้กับหลานสาวคนสวย แม้จะไม่ได้อยากมาเพราะเพิ่งจะทะเลาะกับไดอิจิไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่งานนี้มีผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจมาเยอะ รวมไปถึงเจ้าพ่อสื่อคนดังอย่างภูเบส ที่ได้ข่าวจากวงในว่ากำลังจะมาทาบทามอาซามิไปขึ้นปกนิตยสาร M-Z หากเป็นเช่นนั้นจริง หลานสาวอาจจะได้แจ้งเกิดในวงการบังเทิง และตนซึ่งเป็นลุงก็จะพลอยมีชื่อเสียงไปด้วยในฐานะญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว
“ขอบคุณค่ะคุณลุง” อาซามิยกมือไหว้ แล้วรับกล่องกระดาษขนาดใหญ่ไปส่งให้สาวใช้เอาไปเก็บที่โต๊ะวางของ
“เชิญด้านในครับ” ไดอิจิมาบอกพร้อมกับผายมือเชิญด้วยสีหน้านิ่งๆ
บันลือหน้าตึงขึ้นมานิดๆ หลังเห็นหลานชายตัวดีเดินมาสมทบ จึงหันไปเอ่ยกับหลานสาว “เดี๋ยวแวะไปหาลุงที่โต๊ะนะยูกิ”
“ค่ะ” อาซามิยิ้มรับพร้อมกับจ้องมองผู้เป็นลุงเดินจากไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาถามพี่ชาย “มีอะไรกันหรือเปล่าคะ”
“ทะเลาะกันนิดหน่อย แต่อย่าใส่ใจเลย เราไปทาน...” ไดอิจิเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ก็เหลือบไปเห็นคนสนิทเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“บอสครับเสี่ญรัญมา” คมสันรีบรายงาน หลังเห็นเสี่ยใหญ่ก้าวออกมาจากรถสปอร์ตคันหรูป้ายแดง
“อะไรกันวะ?” ไดอิจิอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าอีกฝ่ายจะหน้าด้านกล้ามางานที่ไม่มีใครเชิญ
อาซามิหันไปมองพี่ชายกับคนสนิทอย่างมึนงง ก่อนจะตกใจนิดๆ ที่ได้ยินน้ำเสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง
“สวัสดีครับ” หิรัญส่งยิ้มหวานไปให้นางฟ้าคนสวย โดยไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงและสายตาขวางๆ ของคู่อริ
“สวัสดีค่ะ” อาซามิยกมือไหว้อย่างรู้สึกเขินกับความหล่อเหลาคมเข้มของหนุ่มตรงหน้า ที่รูปร่างสูง ดูภูมิฐาน ราวกับ...เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ก็ไม่ปาน