บทที่ 6

1321 Words
"ช่วงนี้งานหนักมากเลยเหรอ เห็นเลิกดึกมาหลายวันแล้ว" สุนันทาถามผ่องอำไพตอนที่ขับรถมารับเธอที่หน้าโรงงาน "ก็ต้องได้ทำแบบนี้เป็นอาทิตย์ค่ะ ลำบากพี่แย่เลยใช่ไหมคะ" "ไม่ลำบากหรอกค่ะ หน้าที่ของพี่อยู่แล้ว" "เขามีผู้หญิงหลายคนเลยใช่ไหมพี่" ตอนนี้ความคิดของผ่องอำไพคือ หน้าที่ของสุนันทาต้องดูแลผู้หญิงของเขา และผู้หญิงของเขาต้องมีหลายคนแน่เลยถึงมีคนดูแลแบบนี้ "พี่พูดเรื่องนี้ไม่ได้หรอก น้ำต้องเข้าใจพี่หน่อย" สุนันทาเป็นคนเก็บความลับของเจ้านายได้ดีที่สุดแล้วเข้าถึงไว้ใจเธอ ขณะที่สุนันทากำลังหาคำตอบให้ผ่องอำไพอยู่นั้น ตอนนี้เธอก็ได้นอนหลับอยู่เบาะหลังไปแล้ว "น้ำๆๆ คงเหนื่อยจากงานมากเลยสิท่า" พอสุนันทาขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด เธอก็ปลุกผ่องอำไพยังไงก็ไม่ตื่น "คุณสุ เพิ่งกลับมาถึงเหรอ" ชายหนุ่มจอดรถได้ เขาก็รีบเดินมาดู เพราะเหมือนกับสุนันทากำลังทำอะไรอยู่ "เธอคงจะเหนื่อยงานมากเลยค่ะ ทำไมคนนี้ท่านถึงปล่อยให้ทำงานเองล่ะคะ" สุนันทาเห็นเขาเดินมาก็เลยถามเพราะว่าผู้หญิงของเขาแต่ละคนจะอยู่กินสบายกันทุกคน เรื่องช้อปปิ้งไม่ต้องพูดถึงจัดหนักกันทุกนาง "คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าลองไม่ให้ทำงานดูสิ สงสัยอาละวาดแน่เลย" ภูสิษฐ์ดื่มมาพอสมควรแต่ก็ไม่ถึงกับเมามาก "ให้ผมอุ้มขึ้นไปส่งข้างบนไหมครับท่าน" ผู้ช่วยของเขารีบเดินมาดู "ไม่ต้อง! เดี๋ยวฉันพาขึ้นไปเอง พวกนายกลับไปได้แล้ว" ชายหนุ่มก้มลงไปในรถคันนั้น แล้วช้อนเอาร่างบางของหญิงสาวขึ้นมา เบา ๆ "นี่ทำงานเหนื่อยมากเลยเหรอ ทำไมหลับลึกได้ขนาดนี้" พอชายหนุ่มพาหญิงสาวมาวางลงที่เตียง แล้วเขาก็ถอดเสื้อผ้าเธอออกเพื่อที่จะเช็ดตัวให้เธอได้นอนสบายตัวหน่อย พอเขาเช็ดตัวให้เธอเสร็จเขาก็ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเธอไว้โดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าให้ ...เช้าวันต่อมา... "เอ้าา เสื้อผ้าไปใส? บักผีบ้านั้นแน่นอนเลย" (เสื้อผ้าฉันไปไหนฝีมือไอ้บ้านั่นแน่เลย) เธอรีบหาผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มร่างกายแล้วเดินออกมาหาเขา "นายทำอะไรฉัน!" "ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" เขากำลังยกกาแฟขึ้นดื่มเกือบสำลักกาแฟออกมา เมื่อได้ยินเสียงเธอโวยวาย "แล้วเสื้อผ้าฉันใครถอด?" "แค่เช็ดตัวให้เฉย ๆ กลัวนอนไม่สบาย" "วันหลังไม่ต้องเช็ดนะ นอนไม่สบายมันก็เรื่องของฉัน" ตอนนี้เธอโมโหมาก แต่เธอก็ไม่พูดอะไรต่อต้องรีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปทำงานอีก "ทำไมยังไม่ไปอีก" ภูสิษฐ์ลงมาก็เจอผ่องอำไพนั่งรอรถ "พี่สุยังไม่มารับเลย" ภูสิษฐ์ก็เลยโทรหาสุนันทา "มาขึ้นรถวันนี้ไปกับผม" "แล้วพี่สุไปไหนทำไมไม่มารับล่ะ" "รถเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย" "ไม่ไปหรอก คุณไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะนั่งแท็กซี่ไป" "ตามใจ" ภูสิษฐ์ก็ขับรถออกไป บางวันเขาจะขับรถไปเอง [ โรงงานเย็บผ้า ] "ทำไมแกมาสายวะ" พอแตงเห็นผ่องอำไพเดินมาเธอก็เลยทัก "ไม่มีรถมา ดีนะที่รูดบัตรทันถ้าไม่งั้นสงสัยโดนแน่เลย" แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่เคยเห็นตอนผ่องอำไพลงรถสักที นึกว่าเขานั่งรถเมล์มาทำงาน "มาสายนะเราน้ำ วันหลังก็ตื่นให้มันเช้า ๆ จะได้ไม่สายแบบนี้ แล้วรูดบัตรทันไหมล่ะ ถ้าไม่ทันพี่จะได้ไปคุยกับฝ่ายบุคคลให้" พอหัวหน้าไลน์เห็นเธอมาก็เดินเข้ามาทักอีกคน "พอดีเป๊ะเลยพี่" "วันนี้ท่านประธาน จะออกมาดูไลน์สามโดยเฉพาะเลยนะทุกคนเตรียมตัวไว้ล่ะ" ศรุตเดินเข้ามาแจ้งพนักงานทางไลน์ "สงสัยเราจะโดนอีกแล้วล่ะถ้างานนี้เราทำไม่ทันคงต้องได้ให้ไลน์อื่นช่วย แล้วเขาจะว่าเรายังไงก็ไม่รู้ รีบ ๆ เร่งให้พี่หน่อยนะ ถ้าใครจะเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะเดี๋ยวพี่จะไปนั่งเย็บรอ" ตอนนี้สิ่งที่มนกลัวที่สุดก็คือถูกฝ่ายบริหารตำหนิ "เหนื่อยอีกแล้วหนอเราตั้งแต่เช้ายันค่ำ..นายเขาสั่งให้ทำจำต้องก้มหน้าทน~" แตงถึงกับร้องเพลงล้อเลียน "แกร้องผิดป่าววะ" "มัวแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ วันนี้ใครทำให้ถูกท่านประธานตำหนิ พี่จะหมายหัวไว้เป็นรายบุคคลเลย!!" "งานเร่งมากเลยนะพี่มนเฟสก็เห็นใจพี่อยู่หรอก แต่งานไลน์นี้ก็เร่งเหมือนกัน ยังดีหน่อยที่เรายังส่งงานทัน" เพราะไลน์อยู่ใกล้กันเวลาคุยอะไรก็จะได้ยินไปทั่ว แล้วสักพักทีมผู้บริหารก็เดินมา "สวัสค่ะพี่ภู" เฟสก็รีบเดินมาไลน์ 3 ทันที "วันนี้พี่จะมาดูไลน์สามโดยเฉพาะ ไลน์เราส่งงานทันไม่มีปัญหาหรอก" ภูสิษฐ์ หันไปพูดกับเฟส "เฟสรู้ค่ะ เฟสแค่เดินมาทักทายพี่เฉย ๆ พี่ไปญี่ปุ่นมามีอะไรมาฝากเฟสบ้างไหม" เฟสทำเป็นมาพูดยืนคุยกับเขาเพราะอยากจะทำให้ทุกคนอิจฉา "พี่ไม่ได้ไปเที่ยว ถ้าพี่ไปคราวหน้าเดี๋ยวพี่หามาฝากนะ งานเร่งจริง ๆ พี่ก็เลยต้องได้รีบกลับ" แล้วเขาก็เดินดูแต่ละเครื่องที่เย็บผ้าแต่ละขั้นตอนว่ามันติดขัดตรงไหนจะได้แก้ไขถูก แล้วก็มาหยุดอยู่ที่หน้าของผ่องอำไพ "เอาอีกแล้ว" ตุ้มพูดเบา ๆ กับแตงเพราะสองคนเขาจะนั่งใกล้กันกว่า "เป็นไงบ้างเราติดขัดตรงไหนไหม" ผ่องอำไพก็ไม่ตอบเธอก้มหน้าก้มตาเย็บผ้าอย่างเดียวไม่เงยหน้ามองเขาเลยด้วยซ้ำ "น้ำ!! ท่านถาม" มนเริ่มจะตำหนิลูกน้อง ผ่องอำไพก็เลยมองดูหน้าภูสิษฐ์แล้วก็ถอนหายใจ "ท่านประธาน..ทีหลังไม่ต้องมาถามฉันหรอกฉันพูดกับคนใหญ่คนโตไม่เป็น แถมพูดไม่เพราะด้วยเดี๋ยวฉันก็โดนหัวหน้าด่าอีก" ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นตะลึงกับคำพูดของผ่องอำไพ พอเธอพูดจบเธอก็ก้มหน้าเย็บผ้าต่อไป ทั้งผู้จัดการทั้งหัวหน้าแผนกและหัวหน้าไลน์ ก็ยืนอยู่ตรงนั้นทั้งหมด ภูสิษฐ์ก็ไม่พูดอะไรได้แค่ยิ้ม ๆ แล้วก็เดินไปเครื่องต่อไป "เราต้องได้คุยกันแล้วนะ" มนพูดกับผ่องอำไพเบา ๆ ก่อนที่จะเดินตามหลังทีมผู้บริหารไป "ก็บอกแล้ว ว่าอย่ามาคุยด้วย" ตอนนี้ผ่องอำไพเริ่มจะเสียวสันหลังขึ้นมาแล้ว "ท่านถามอะไร แกก็ตอบแบบนั้น" เพื่อน ๆ ก็เริ่มจะเป็นห่วง "แต่เราก็ไม่เห็นท่านโกรธเลยนะ แถมยังยิ้มอีก" "ยิ้มน่ะสิได้แกล้งฉันได้!" ผ่องอำไพพูดเบา ๆ เพื่อน ๆ ไม่ได้ยินที่เธอพูดหรอก "ผมรู้แล้วละว่ามันช้าตรงไหน เดี๋ยวทุกคนเข้าประชุมกับผมหน่อยนะ" พอชายหนุ่มพาทีมบริหารเดินจน ถึงท้ายไลน์แล้วเขาก็ยืนคุยกับทีมบริหารอยู่ตรงนั้นแป๊บนึง แล้วทั้งหมดก็พากันเดินเข้าไปที่ห้องประชุม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD