@สนามบิน
"ท่านจะไปกี่วันครับ" ภวัฐถามเจ้านายพร้อมกับเข็นรถสัมภาระพวกกระเป๋าเดินทางตามหลังเขามา
"ประมาณ 2-3 วันถ้าไม่ติดอะไรนะ จองแค่ตั๋วไปก็พอแล้วตอนกลับค่อยดูอีกที" คราวนี้เขาจะได้ไปคุยงานที่ประเทศญี่ปุ่น เดินทาง 2 คนเหมือนเดิม
...บนเครื่องบิน...
พอขึ้นนั่งเครื่อง ก็คิดถึง ตอนบินครั้งล่าสุด ต้องได้ไปนั่งเบียดกับผู้หญิงที่พูดมากคนหนึ่ง จับใจความไม่ค่อยได้หรอกว่าเธอพูดเรื่องอะไรบ้าง เพราะพูดเยอะซะเหลือเกิน พอคิดมาถึงตรงนั้นเขาก็นั่งขำคนเดียว จนลูกน้องที่นั่งด้านข้างมองมา
@ประเทศญี่ปุ่น
พอถึงโรงแรมก็ยังไม่วายที่จะคิดถึงผู้หญิงพูดมากคนนั้นอีก เราเมาขนาดนั้นเลยเหรอ จนลืมไปว่า มีผู้หญิงติดมาด้วย ยังนึกไปได้ไงว่าเธอเป็นผู้หญิงขายตัว
"ท่านครับได้เวลาเข้าไปคุยงานแล้วครับ"
แล้วเขาก็เข้าไปคุยงาน
[ โรงงานเย็บผ้า ]
"ได้ข่าวว่าท่านประธานไปดูงานประเทศญี่ปุ่น ท่านนี้เก่งมากเลยนะพูดได้หลายภาษาด้วย ใครได้เป็นเมียท่านสบายไปทั้งชาติเลย ทั้งหล่อและรวยมาก" แตงหันไปคุยกับตุ้ม
"แล้วแกคิดว่าเขาจะมาเอาพวกผู้หญิงจน ๆ แบบเราหรอวะ เขาก็ต้องเอาพวกคนรวยด้วยกันสิ พวกเรานี่หมดสิทธิ์แล้วอย่าไปฝันเลย"
"เฮ้ย.. แถวนี้มีคนฝันหวานด้วยว่ะเอาสมองส่วนไหนคิดวะว่าท่านจะมาชายตามองถ้าเป็นหัวหน้าไลน์เราก็ยังว่าไปอีกอย่าง" จอยที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ แอบฟังอีกไลน์พูดกัน ก็เลยพูดแทรกเข้ามา
"กูได้ยินกูก็ขำเหมือนกันเลยจอยเอ้ยหน้าตาก็งั้น ๆ ยังจะมาฝันหวานอีก" วันไลน์ 3 เพื่อนสนิทจอยไลน์ 2 วันไม่ค่อยสนิทกับไลน์ตัวเองหรอกหันไปพูดกับจอย
ผ่องอำไพแค่นั่งฟังพวกเขาคุยกันเธอตั้งหน้าตั้งตาเย็บผ้าต่อไป
...โรงอาหาร... 12:05 น.
"พี่เฟส วันนี้พี่จะทานอะไรคะ เดี๋ยวจอยจะไปเข้าแถวสั่งมาให้" จอยนิสัยชอบเลียขาไปวัน ๆ
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวพวกพี่หากินเองได้ ยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอจอยมัวแต่ยืนคุยเดี๋ยวก็เข้างานไม่ทัน"
"พวกนี้กินอะไรกันบ้างเนี่ยวันนี้กินหลายอย่างเลยนะระวังเงินไม่พอถึงสิ้นเดือนนะ" มนก็เดินมาทักลูกน้องในไลน์กลุ่มของผ่องอำไพกำลังนั่งกินกันอยู่
"วันนี้น้ำเป็นคนเลี้ยงค่ะสงสัยถูกหวยมามั้ง" แตงหันไปพูดกับหัวหน้าไลน์
"ไม่ได้ถูกหวยหรอกค่ะแต่มีคนให้เงินมา" ถ้าเธอบอกว่าคนที่ให้เงินมาคือท่านประธาน สงสัยพวกที่ยืนนินทากันอยู่เมื่อตะกี้ได้กรี๊ดลั่นแน่
"รีบกินแล้วก็รีบเข้าไปทำงานนะ ใครกินเสร็จก่อนก็ทำก่อนได้เลย ไลน์เรายิ่งไม่ทันไลน์อื่น" พอมนพูดกับลูกน้องเสร็จเธอก็เดินไปหาอะไรทาน
"หัวหน้าไลน์ 2 นั้นไงที่เราพูดถึง เป็นญาติท่าน" แตงหันไปกระซิบพูดกับผ่องอำไพ
"แต่ก็ชอบอ่อยท่านเราไม่ชอบเลย"
ผ่องอำไพได้แค่นั่งฟังเพื่อนทั้งสองคนคุยกัน เธอได้แต่คิดว่าคนนั้นแค่อ่อยยังถูกนินทาขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเรามีอะไรกับท่านและตอนนี้นอนอยู่คอนโดของท่านด้วยเราจะโดนขนาดไหนวะเนี่ย
...วันต่อมาที่โรงงาน...
"ไหนบอกจะไปสามวัน ทำไมกลับเร็วจัง" พอเธอได้ยินข่าวว่าเขากลับมาแล้ว หญิงสาวก็นั่งพูดคนเดียวพร้อมกับเย็บผ้าไปด้วย
ที่เธอรู้นะเหรอว่าเขากลับมาแล้ว ก็เพราะว่าหนุ่มฮอตประจำโรงงานนี้ก็คือเขานั่นแหละ ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมด
"คุณมนผมจะเข้ามาดูไลน์คุณเป็นพิเศษนะ ท่านประธานเครียดมาก เพราะว่าตอนนี้ทำไมไลน์นี้ถึงผลิตงานไม่ทันไลน์อื่นเลย" ศรุตผู้จัดการฝ่ายผลิต เพราะไลน์ตัวอย่างทั้ง 5 ไลน์ ต้องทำงานตัวอย่างออกมาถ้ามีไลน์ไหน ทำไม่ทันก็จะถูกจับจ้องเป็นพิเศษ
"ค่ะผู้จัดการ แต่มนก็เร่งให้แล้วนะคะ พนักงานทุกคน ก็ทำงานไม่ได้หยุด แต่ไลน์ของมนงานมันจะเย็บยากหน่อย รายละเอียดมันจะเยอะ เสื้อโค้ทชุดนี้ยอมรับเลยค่ะว่าทำยากมาก"
"ไม่เป็นไรถ้าช้าเราก็ปล่อยโอทีเยอะ ๆ ลองดูสักอาทิตย์ก่อน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ผมก็จะขอให้ไลน์อื่นช่วย เพราะงานของคุณต้องได้รีบส่งไปที่ญี่ปุ่น ท่านก็กลับมาแล้วแต่งานไลน์คุณยังไปไม่ถึงไหนเลย"
"มีอะไรกันเหรอแตง" ผ่องอำไพเห็นเพื่อนพนักงานกำลังคุยกัน
"ผู้จัดการฝ่ายผลิตจะเข้ามาดูงานไลน์เราเป็นพิเศษ"
"อยากจะให้เขาเข้ามานาน ๆ เลย คนนี้ก็ได้ยินข่าวว่าโสดนะ หล่อด้วยถึงจะไม่รวยมากก็เถอะแต่เป็นถึงผู้จัดการเลยนะ" แตงกับตุ้มหันมาพูดให้ผ่องอำไพฟัง
"พวกแกสองคนนี้ก็อ่านกินแต่ผู้ชายตลอดเลยนะ" พอผ่องอำไพพูดขึ้นมาแบบนั้นเพื่อนทั้งสองถึงกับหัวเราะออกมา
"สามคนนี้คุยอะไรกันครับเป็นแบบนี้กันไง งานถึงไม่ทันไลน์อื่นเขา อย่าให้ผมเห็นว่าคุยกันเวลางานแบบนี้อีกนะ ตั้งใจทำงานกันหน่อย" ศรุตเดินมาต่อว่า พอเขาต่อว่าให้ทั้งสามเสร็จ ก่อนที่เขาจะเดินไปเขายังมองมาที่ผ่องอำไพเพราะเธอสะดุดตามาก
"วันนี้ไลน์ของเราจะปล่อยพนักงานออกไปกินข้าวไม่พร้อมกันนะ ให้สลับกันออกไปกิน งานใครที่ยังค้างอยู่ข้างหน้าเยอะก็รีบเข้ามาล่ะให้เวลาคนละ 10 นาที พี่จะเพิ่มโอทีตอนเที่ยงให้ด้วย" ตอนนี้มนเดินมาแจ้งให้ลูกน้องในไลน์ทราบรายละเอียด
"แล้วเราจะได้ ไปกินข้าวพร้อมกันไหมละเนี่ย เราไม่กล้าไปกินคนเดียวนะที่โรงอาหารคนเยอะมาก" ผ่องอำไพพูดกับเพื่อนแต่มนก็ได้ยิน
"พวกเธอน่ะตัวดีเลย ไม่ต้องออกไปกินพร้อมกัน เดี๋ยวไปนั่งคุยกันเสียเวลางานแยกย้ายกันไปกิน"
"ถ้างั้นเราไปก่อนนะเดี๋ยวเราเข้ามาพวกเธอก็ออกไป จะรีบไปรีบมา" แตงเป็นคนออกไปก่อน
ที่บริษัทนี้มีกฎเคร่งครัดมาก ที่ห้ามที่สุดก็คือห้ามนำอาหารเข้ามากินในที่ทำงาน เพราะว่ามันจะเปื้อนเสื้อผ้าของลูกค้า
"เราชื่ออะไรนะ เพิ่งจะออกมากินข้าวเหรอ นี่ก็ใกล้บ่ายโมงแล้ว" ศรุตเดินสวนทางกับผ่องอำไพ ก็เลยจำเธอได้เพราะเธอเป็นคนสะดุดตามาก
"เพิ่งเคลียร์งานกองที่อยู่ตรงหน้าเสร็จค่ะ ก็เลยเพิ่งได้ออกมาทานข้าว ฉันชื่อน้ำค่ะขอตัวนะคะ" พอเธอแนะนำตัวกับผู้จัดการจบผ่องอำไพก็เดินออกมาอีกนิดนึงก็เจอกับภูสิษฐ์
"ทำไมเพิ่งออกมาละน้ำเพื่อนเขาจะเข้าไปกันหมดแล้วนะ" พอดีประธานกับผู้จัดการไปกินข้าวพร้อมกันแต่เดินเข้ามาคนละที
"จะไปกินไม่ทันก็เพราะพวกคุณทักนี่แหละ ก็งานมันเร่ง เพิ่งได้ออกมา ไม่คุยด้วยแล้ว หิว!!" พอศรุตได้ยินคำพูดที่ผ่องอำไพพูดกับประธานเขาถึงกับตกใจหันกลับมามอง
"เราเข้าข้างในกันคุณศรุต" ผ่องอำไพเดินไปแล้วเขาก็หันมาพูดกับผู้จัดการ
ตอนนี้ศรุตคิดว่าคนที่แปลกอีกคนก็คือท่านประธานของเขา ถูกพนักงานพูดขนาดนั้นยังทำเฉยได้
"เดี๋ยวนี้พนักงานเขาไม่เกรงใจท่านประธานแล้วนะครับ"
"ก็มีแค่คนเดียวนี่แหละ ปล่อยเธอไปเถอะ"
...ตอนเย็นของวันเดียวกันนั้น...
>>{"วันนี้มีกินเลี้ยง ดึก ๆผมถึงจะเข้าไปที่คอนโดนะ ถ้าคุณกลับบ้านก่อนก็ไม่ต้องเตรียมอะไรไว้ให้ผมหรอก เข้าไปแล้วก็จะนอนเลย"}
{"ฉันมีโอทีถึงสามทุ่ม คุณจะเข้าไม่เข้าตอนไหนก็แล้วแต่คุณสิ ห้ามโทรมาเวลางานอีกนะ เดี๋ยวฉันโดนด่าอีก"} ตอนนี้ผ่องอำไพแอบรับโทรศัพท์เธอก้มลงไปค่อย ๆ พูดกับเขา เพื่อบังสายตาของเพื่อนในไลน์และหัวหน้า
"ใครโทรมาแฟนน้ำเหรอ"
"น้ำไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ" ตอนนี้ทั้งแตงและตุ้มต่างก็สงสัย
"คนข้างห้อง คนนี้จะสติไม่ค่อยดีหรอก"
"คนสติไม่ดีเหรอ? น่าสงสารเขาจังเลย น้ำก็พูดกับเขาดี ๆ หน่อยสิ"