พอทุกคนเข้ามาพร้อมกันที่ห้องประชุม เขาก็เริ่มประชุมงานที่ติดขัด
"ตรงที่เข้าปกเสื้อมันจะยากหน่อยนะให้เพิ่มจักรและคนเย็บอีก แล้วตรงจักรลาผมอยากจะให้เพิ่มอีกสักสองคน และตรงของน้ำก็เพิ่มคนไปช่วยอีกหนึ่งคนนะ"
"แต่ท่านคะของน้ำยังพอเย็บทันนะคะ แกก็เย็บเร็วอยู่นะ" มนรีบเสนอขึ้น
"ผมบอกให้เพิ่มก็เพิ่มไป แล้วไม่ต้องย้ายตำแหน่งอีกแล้วนะ ใครทำจุดไหนก็ให้ทำจุดนั้น ถ้าย้ายคนบ่อย ๆ งานก็จะไม่เดิน วันนี้โอทีก็ไม่ต้องทำดึกนะ เห็นพนักงานเหนื่อยกัน" เขาหันไปพูดกับมน
"ถ้าเราไม่เร่งโอทีงานก็จะไม่เสร็จนะครับท่าน" ผู้จัดการพูดแย้งขึ้น
"งั้นก็ดึงไลน์ 5 มาช่วยสักสองวัน เปิดโอทีวันอาทิตย์ด้วย"
"แต่งานของไลน์ 5 ก็เร่งนะคะท่าน เรากลัวว่างานของเราจะส่งไม่ทัน" ลำดวนหัวหน้าไลน์ 5 พูดขึ้นบ้าง
"ของพวกคุณยังพอหยวน ๆ กันได้ แต่ของไลน์ 3 ต้องรีบส่งออก เอาเป็นว่าทำตามที่ผมพูดแล้วกัน เลิกประชุมได้"
พอทุกคนออกจากห้องภูสิษฐ์ก็เรียกมนให้อยู่ต่อก่อน
"คุณมนผมขอคุยอะไรด้วยหน่อย"
"คะ?"
"เรื่องของน้ำ ไม่ต้องไปว่าอะไรให้เธอหรอก คนเรามีสิทธิ์ออกความคิดเห็น อย่าไปปิดกั้นความคิดเห็นของลูกน้องเข้าใจตรงกันนะครับ" เพราะตอนที่เขาเดินออกมาเขาก็ได้ยินมนหมายหัวผ่องอำไพไว้
"ค่ะ" มนถึงกับเกาหัวหยิก ๆ
"อะไรวะงงเลย แทนที่จะให้ไลน์ 3 ทำโอทีดึก ๆ มาลดโอทีอีก แล้วยังดึงไลน์ 5 เข้าไปช่วย" พอออกมาข้างนอกลำดวนเริ่มจะโวยวาย
(ที่เขาต้องให้ลดโอทีเพราะเขาเป็นห่วงเธอ กลับมาจากทำงานแต่ละครั้งเหนื่อยแทบจะลุกเดินไม่ไหว)
"ทุกคนพักเที่ยงได้ตามปกตินะ แล้วบ่ายโมงเจอกัน" พอมนออกมาจากห้องประชุมก็เรียกลูกน้องมาคุย
"อ้าว.. งานเราไม่เร่งแล้วเหรอพี่"
"เร่งสิ.. วันอาทิตย์ก็ได้เปิดโอทีนะ เตรียมตัวทำโอทีด้วย แต่วันนี้เลิกแค่ทุ่มหนึ่ง" มนก็ไม่เข้าใจกับท่านประธานเหมือนกัน งานเร่งขนาดนี้แทนที่จะเพิ่มโอทีแต่กลับลดโอที
แต่มันก็ทำให้พนักงานทุกคนดีใจที่จะได้รีบกลับบ้าน เพราะกว่าจะกลับถึงบ้านแต่ละทีสี่ทุ่มห้าทุ่ม
"พูดเบา ๆ กันหน่อยครับ เร่งงานให้ผมด้วยนะ" พอศรุตได้ยินเสียงของพนักงานแซวกันก็รีบเดินเข้ามาต่อว่า
แล้วเขาก็เดินมาหยุดที่หน้าจักรเย็บผ้าของผ่องอำไพ
"วันนี้เลิกงานเร็วคุณมีนัดที่ไหนไหม บ้านคุณอยู่ไกลไหมเดี๋ยวผมไปส่ง" เขาพูดเบา ๆ กับผ่องอำไพ หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้จัดการฝ่ายผลิต เธอได้แต่คิดว่า ไอ้หมอนี่มาแปลก ๆ อีกคนแล้ว
"พี่สาวจะแวะมารับค่ะ"
"บอกพี่สาวว่าไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวผมจะไปส่ง คุณอยู่เขตไหนเหรอ"
แล้วผ่องอำไพก็บอกว่าอยู่ที่ไหน
"ทางผ่านของผมพอดีเลย เดี๋ยวผมจะไปส่งนะ"
"ไม่ต้องลำบากผู้จัดการหรอกค่ะ"
"เอาตามที่ผมพูดแล้วกัน" แล้วศรุตก็เดินออกไป
"ผู้จัดการพูดอะไรกับแกอยู่นานสองนานเลยวะ" แตงกับตุ้มหันมากระซิบถามผ่องอำไพเบา ๆ
"อย่าบอกนะว่าเขาจะจีบแกยัยน้ำ"
"คงไม่ใช่หรอกมั้ง ฉันยิ่งไม่ชอบคุยกับพวกผู้ใหญ่อยู่"
...หลังเลิกงาน...
"กลับบ้านกันน้ำ ขึ้นรถ"
19:20 น. เพื่อน ๆ ต่างก็เดินไปหารถตัวเองหมดแล้ว ผ่องอำไพแยกตัวออกมายืนรอสุนันทาที่เดิม ศรุตก็มองตาม แล้วก็ขับรถมาจอดตรงหน้าเธอ
"แต่น้ำไม่ได้บอกพี่สาวไว้นะคะ"
"โทรไปบอกก็ได้นะ"
ตอนนี้เธอได้แต่คิดว่า ยังไงวันนี้ต้องได้ไปกับเขาแล้วล่ะ ถ้าไม่งั้นเขาคงจะตื้อเธออยู่แบบนี้ แล้วของอำไพก็เดินไปขึ้นรถของศรุต
"น้ำมีแฟนหรือยังครับ" พอขึ้นรถศรุตก็เข้าประเด็นเลย
"ยังไม่มีค่ะ" [*หรือไง? ยังไม่มีมั้ง!..] ความคิดของเธอตอนนี้กำลังสับสน เพราะเธอก็ยังไม่รู้สถานะตัวเองเหมือนกันว่าเขาจะเอายังไงกับเธอกันแน่
"ดีเลย ผมกลัวว่าถ้าไปส่งถึงห้องแล้วจะเจอแฟนน้ำ"
จริงด้วยถ้าไปเจอเขาอยู่ตรงลานจอดรถทำไงดี คงไม่เป็นไรมั้งสองคนนี้เขาก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว
พอขับรถมาไม่นานเท่าไหร่ก็เจอคอนโดที่เขายกให้เธอ
"จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะไม่ต้องเข้าไปข้างในหรอกค่ะ" ผ่องอำไพให้ศรุตจอดก่อนถึงคอนโด
"แล้วคุณพักที่ไหน" เขามองออกมานอกกระจกรถ ก็มีแต่คอนโดตึกสูงสามสีตึกเรียงกัน
"พักแถวนี้ล่ะค่ะ"
พูดจบผ่องอำไพก็ลงรถของศรุตแล้วเดินเข้าคอนโด ศรุตมองตามแบบงงๆ คอนโดแต่ละห้องคงไม่ต่ำกว่าสิบล้านแน่ ๆ มีครบวงจรทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ
"โชคดีที่บ่เจอ" เธอหมายถึงไม่เจอภูสิษฐ์ เพราะเธอก็ขี้เกียจอธิบายให้เขาฟังเหมือนกัน
"สงสัยยังบ่กลับ" พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็ไม่เจอเขาอีก
..เช้าวันต่อมา..
"แล้วไปนอนไหน" พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าเธอก็รีบเดินออกมาดูที่ห้องของเขาก็ไม่เจอ
"ดีคือกัน บ่ต้องมาเลยนะ!!" (ดีเหมือนกันไม่ต้องกลับมาเลยนะ)
แล้วผ่องอำไพก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมารอสุนันทาอยู่ข้างล่าง
"พี่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยก็เลยไม่ได้มารับส่งเลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ แล้วพี่เป็นอะไรมากไหมค่ะ"
"พี่ไม่เป็นไรหรอก แต่รถเป็นเยอะเลย ท่านก็เลยเปลี่ยนคันใหม่ให้" แล้วสุนันทาก็ขับรถมาส่งที่เดิม
[ บริษัท ]
"น้ำไปก่อนนะคะ ใกล้เลิกงานเดี๋ยวโทรหาค่ะ"
พอผ่องอำไพเดินเข้ามาที่ไลน์ผลิตเพื่อน ๆ ก็มองแบบสงสัย
"น้ำมีข่าวออกมาว่าแกขึ้นรถไปกับผู้จัดการ จริงไหม?"
ตายแล้ววงานเข้า หรือจะยืนคุยกันนานจนคนมองเห็นว่ะ
"ถ้าเขาจีบแก แกก็เล่นเลยสิว่ะ หล่ออยู่นะ"
"ไม่ได้จีบหรอก แค่ทางผ่านเขานะ ก็เลยไปส่ง"
แล้วข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วบริษัท
"พี่ภูคะ" นรินทรลูกของน้าสาวทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด คนนี้หวงพี่ชายมาก บรรดาผู้หญิงทั้งหลายส่วนมากที่ต้องเลิกก็มาจากฝีมือของนาง
"นรินมีอะไร พี่มีงานต้องทำเยอะเลยนะ"
"ไม่เห็นพี่กลับไปนอนบ้านหลายวัน พี่นอนที่คอนโดไหนค่ะ" เพราะคอนโดของเขาไม่ได้มีแค่ที่นั่นที่เดียว เขามีผู้หญิงกี่คนเขาก็ซื้อไว้ตามจำนวนของผู้หญิงเขา
"เมื่อคืนพี่ก็กลับ แต่เราน่ะไปเที่ยวดึกไม่เจอพี่เอง"
"จริงเหรอคะ คืนนี้เราไปทานข้าวกันนะพี่"
"พี่ดูก่อนนะ พี่ไปล่ะ" พอเขาเสร็จธุระจากน้องสาวชายหนุ่มก็เดินออกมา
"คุยอะไรกันอยู่ครับ" ภูสิษฐ์เดินผ่านฝ่ายบุคคลเห็นกำลังคุยกันสนุกเลย
"ท่านประธาน เอ่อ.. ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่มีข่าวว่าคุณศรุตกำลังจีบเด็กใหม่ไลน์ 3" หัวหน้าฝ่ายบุคคลเป็นคนรายงาน
"เด็กใหม่ไลน์ 3 งั้นเหรอ?"