บทที่ 8

1296 Words
ได้ยินแบบนั้นภูสิษฐ์ก็ได้แค่เก็บความสงสัยไว้ อาจจะไม่ใช้น้ำก็ได้ เพราะเขาก็สั่งให้เพิ่มคนงานเข้าไลน์ 3 อีกตั้งหลายคน หิวข้าวแล้วเมื่อไรจะเที่ยง ..ผ่องอำไพมองดูนาฬิกาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่เที่ยงสักที เพราะเมื่อเช้าเธอรีบก็เลยไม่ได้กินอะไรมา "ตอนเที่ยงไปกินด้วยกันนะน้ำ" พอเวลาใกล้เที่ยงศรุตก็เดินมาหาผ่องอำไพอีกที "ไม่ไปค่ะ น้ำจะกินกับเพื่อนๆ" เธอปฏิเสธเขาโดยไม่คิดเลย และเธอก็เริ่มจะสงสัยว่าผู้จัดการต้องมาจีบเราแน่เลย ความคิดของหญิงสาวถ้าเธอไม่สามารถทำให้พ่อกับน้องๆ สบายได้ เธอก็จะยังไม่มีใครเพราะถ้ามีผู้ชายเข้ามาในชีวิตมันก็จะยุ่งยาก พอคิดถึงพ่อกับน้อง ๆ เธอลืมไปเลยว่าตั้งแต่กลับมาจากเกาหลียังไม่ได้ติดต่อไปหาพ่อเลย ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงแย่แล้ว "ทำไมเเก ปฏิเสธผู้จัดการวะ แกนี้แน่จริงๆ เลยว่ะ นับถือ ๆ" เพื่อน ๆ ทั้งสองต่างก็ ตกใจกับสิ่งที่ผ่องอำไพพูดกับผู้จัดการไป หลังเลิกงาน.. "จะกลับบ้านแล้วเหรอน้ำ เดี๋ยวผมไปส่ง" ศรุตยังไม่วายที่จะตามตื๊อผ่องอำไพ "ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่สาวจอดรถรออยู่ตรงนั้นแล้ว" แล้วผ่องอำไพก็เดินไปขึ้นรถกับสุนันทา ศรุตมองตาม มีคอนโดหรู แถมมีรถราคาแพงมาจอดรับอีก เธอเป็นใครกันแน่ ศรุตยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ "ผู้ชายคนนั้นเป็นใครทำไมหน้าคุ้น ๆ" สุนันทาถามผ่องอำไพตอนที่เธอมาขึ้นรถแล้ว "ผู้จัดการที่ทำงานค่ะ" "ทำไมเขาถึงคุยกับน้ำนานจัง" "เขาถามทางค่ะ" เธอคิดว่าถ้าบอกสุนันทาไป เรื่องนี้คงจะถึงหูของเขาแน่ [คอนโด] >>{"พ่อสบายดีไหมคะ แล้วน้อง ๆ ล่ะเป็นไงบ้าง"} พอถึงห้องผ่องอำไพก็รีบโทรหาพ่อทันที {"อิหล่าอยู่เกาหลีเป็นจังใด มีงานมีการยัง ที่นาเฮาบักกำนันมันกะยึดไปแล้วละ มันยังสิมาเอาบ้านอีก"} (ลูกอยู่ที่เกาหลีเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมที่นาของเรากำนันมันมายึดไปแล้วตอนนี้มันกำลังจะมายึดบ้านของเรา) >>{"พ่อถ้าหนูมีเงินแล้วหนูจะรีบกลับไปไถ่ที่นาเราคืนนะ"} พอผ่องอำไพได้ยินแบบนั้นถึงกับน้ำตาซึม ถึงพ่อของเธอจะทำนาไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังให้คนเช่าพอมีข้าวกิน ตอนนี้เธอเป็นห่วงพ่อมาก ท่านก็เดินไม่ค่อยได้ ต้องใช้ไม้เท้าสี่ขาช่วยเดิน น้องคนโตก็กำลังเรียน ม.5 คนเล็ก ม.3 ต้องใช้เงินมากก็เลยได้เอาที่ทางไปจำนอง เอาเงินมารักษาพ่อด้วย "หรือเราจะขอยืมเงินเขาดี มันเยอะขนาดนั้นใครจะให้เรายืม" พอพูดจบหญิงสาวก็มองดูนาฬิกาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขายังไม่เห็นกลับมาที่คอนโดเลย ในใจของเธอคิดว่าเขาคงจะไปอยู่กับผู้หญิงที่เขาเก็บไว้อีกหลายคน [โรงงานเย็บผ้า] "สวัสดีวันหยุดจ้าาา" แต่ก็ต้องได้ทำโอทีอยู่ดี "เหนื่อยอีกแล้วว.." เพื่อน ๆ เจอหน้ากันตรงทางเข้าก็ทักทายกันหน่อย วันนี้มีแค่สองไลน์ที่ทำโอทีวันหยุด ไลน์ 3 และ 5 "น้ำแกเป็นอะไร ทำไมดูเหงา ๆ ไม่ค่อยคุยเหมือนทุกวันเลย" "เรื่องที่บ้านนะ" "ที่หนองคายนะเหรอ" "อืมม" "ที่บ้านทำไมครับน้องน้ำ" พอศรุตได้ยินก็เดินมาถาม "เปล่าค่ะ คุณช่วยน้ำไม่ได้หรอก" "ไม่พูดมาจะรู้ได้ไงว่าช่วยได้หรือไม่ได้" "คุณมีเงินให้น้ำยืมสักสองล้านไหมละคะ" ความคิดของเธอสองล้านยังไม่รู้จะพอหรือเปล่า "ถ้าจะเยอะขนาดนั้นไม่มีหรอกครับ" "มัวแต่คุยกันแล้วงานจะเสร็จไหมวันนี้" พอทั้งสองได้ยินเสียงที่คุ้นหูรีบหันไปดู "ท่านประธานมาทำไมครับ วันหยุดท่านไม่เคยมานี่ครับ" "ผมก็ไม่เคยเห็นคุณมาสักทีนะคุณศรุต" เขาหันไปพูดกับศรุตแบบไม่พอใจ "แล้วจะมาคุยอะไรกันตรงนี้" ผ่องอำไพก้มลงไปเย็บผ้าและก็พูดคนเดียวเบา ๆ ธรรมดาวันหยุดแบบนี้จะทำงานแบบชิลด์ ๆ แต่วันนี้ไม่ชิวแล้วทั้งประธานและผู้จัดการมายืนคุมเอง [ คอนโด ] เย็นวันเดียวกัน >>{"คืนนี้คุณกลับคอนโดไหมค่ะ"} {"ทำไม"} เขาคุยโทรศัพท์กับเธอแบบไม่ค่อยพอใจเพราะเขายังนึกโมโหที่ผู้จัดการมาพูดคุยแบบสนิทสนมกับเธอ >>{"น้ำมีอะไรอยากจะพูดค่ะ"} {"ได้..เดี๋ยวเข้าไป"} ที่จริงเขาคิดว่าจะกลับมานอนที่บ้านสักหลาย ๆ คืน เพราะน้าเขาก็เป็นห่วง แต่พอได้ยินเธอโทรมาตามแบบนั้นชายหนุ่มถึงกับรีบออกจากบ้านไป "ฉันไม่เห็นคุณกลับมาค้างคอนโดหลายคืนแล้ว คุณไปค้างที่ไหนมาเหรอ" พอเธอเห็นเขาเปิดประตูคอนโดเข้ามาก็เลยถามดู "โทรตามมีเรื่องอะไรเข้าเรื่องเลยดีกว่า" เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร อยู่ดี ๆ ก็นึกโมโหเธอไปด้วย "รอคุณอารมณ์ดีก่อน ค่อยพูดกันก็ได้ค่ะ" ผ่องอำไพกลับคิดไปอีกแบบ เขาคงจะโมโหที่เธอโทรไปขัดจังหวะเขาหรือเปล่า "ถ้าไม่พูดงั้นผมกลับนะ" เขาพูดพร้อมกับจะเดินไปที่ประตู "เดี๋ยวก่อนค่ะ" เธอรีบเรียกเขาไว้ เพราะถ้าเขาออกไปไม่รู้วันไหนจะติดต่อเขาได้อีกที แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หันหน้ากลับมา เธอก็เลยเดินไปจับชายเสื้อของเขากระตุกเล็กน้อย "ฉันน.. คือ.. ฉัน.." "มีอะไร" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแบบช้า ๆ "ฉันอยากจะขอยืมเงินคุณสามล้าน" "สามล้าน? จะเอาไปทำอะไร" เขาถึงกลับทวนคำพูดของเธอ "ไถ่ที่นาคืนให้พ่อ" "เงินสามล้านไม่ใช่น้อย ๆ เธอจะเอาอะไรมาค้ำประกัน" "คะ?!" "ก็เธอบอกจะยืมเงินตั้ง 3 ล้าน ใครเขาจะให้ยืมกันฟรี ๆ" ที่จริงเขาเสียไปกับผู้หญิงคนอื่นเยอะกว่านี้มาก แต่เขาแค่อยากจะแกล้งถามเธอดู "ฉันไม่มีทรัพย์สินอะไรค้ำประกันคุณหรอก มีแค่ตัว จะเอาอะไรไปค้ำประกันได้" "ตกลง! งั้นเอาตัวเธอค้ำแล้วกัน" "อะไรนะคะ??" พอเขาพูดออกมาแบบนั้นผ่องอำไพถึงกับตกใจ ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวเหมือนจะตกใจ เขาก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ๆ "เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ก็ในเมื่อเธอบอกว่ามีแค่ตัว ก็เอาตัวของเธอค้ำประกันไว้ไง" "คุณจะทำอะไร ถอยออกไปนะ!" เสียงของหญิงสาวเริ่มสั่น เพราะเขาก้มลงมาใกล้ริมฝีปากของเธอมาก "ถอยก็ได้ ถ้างั้นสามล้านโมฆะ" แล้วเขาก็เริ่มถอยออกไป แบบช้า ๆ แต่สายตาก็ยังจ้องมองที่หญิงสาวเหมือนกับจะกลืนกินเธอเข้าไป "คุณจะให้ฉันจริง ๆ ใช่ไหม" "จริงสิ เงินแค่นั้นสำหรับผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่วันนี้คงจะยังโอนไม่ได้ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้" "ฉันอยากจะขอคุณอีกเรื่องนึง" "ได้สิ ว่ามา"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD