Chapter 4

2399 Words
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา... และนี่ก็เป็นวันครบเจ็ดวันแล้วที่คุนอาทินกรจากไป เขาอุ้มหนูนิดไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาเดินมาถึงหน้าเมรุ เขาวางดอกไม้จันทน์ลงไม่ลืมที่จะให้เด็กน้อยวางด้วย "ทำไมต้องเอาดอกไม้มาวางตรงนี้ด้วยคะ" หนูนิดเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเดินมากุมมือชายหนุ่มไว้มองไปยังดอกไม้เยอะแยะและมีคนหลายหลายที่เธอไม่รู้จักเยอะไปหมด "ไม่รู้สิคะ" "แล้วทำไมถึงมีรูปคุณพ่ออยู่ตรงนี้คะ" เขาไม่รู้จะตอบคำถามยังไงก็เลยเลือกที่จะเงียบแล้วอุ้มเธอขึ้นแล้วพาเดินออกมา หนูนิดกอดคอเขามองไปยังรูปภาพของคุณพ่อด้วยความคิดถึง เธอไม่เจอคุณพ่อเป็นอาทิตย์แล้วจึงมีความสงสัยว่าท่านทำไมถึงไม่มาหาเธอเลย "หนูนิดคิดถึงคุณพ่อค่ะ ไม่ได้เจอเลยไม่รู้ว่าไปไหน" เด็กน้อยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าจนชายหนุ่มอดสงสารไม่ได้ เขาวางเด็กน้อยลงก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของเธอ "คุณพ่อไปอยู่บนสวรรค์แล้วค่ะ วันหนึ่งคนทุกคนก็ต้องไปอยู่บนนั้น แค่จะไปตอนไหนก็เท่านั้น" เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เด็กน้อยมองเขาตาแป๋วภายในใจยังมีคำถามอยู่อีกมากมาย "งั้นหนูนิดไปหาคุณพ่อบนสวรรค์ตอนนี้ได้มั้ยคะ" "ถ้าไปตอนนี้แล้วพี่วินจะอยู่กับใครคะ พี่วินน้อยใจนะที่หนูนิดจะทิ้งพี่วินไปอีกคนหนึ่ง" เขาเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ ไม่รู้จะสรรหาคำอธิบายไหนมาบอกเล่าแล้ว ดราม่าใส่เลยแล้วกันจะได้จบๆ "หนูนิดแค่คิดถึงคุณพ่อ" เด็กน้อยเอ่ยออกมาเสียงอ๋อยก่อนจะเดินมากอดคอเขาแน่น เขาอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มหวาน "เมื่อถึงเวลาก็จะได้ไปเจอเองค่ะ แต่ตอนนี้หนูนิดอยู่กับพี่วินได้มั้ย เรามีกันแค่สองคนนะอย่าพูดแบบนี้อีก" "หนูนิดขอโทษค่ะ หนูนิดจะอยู่กับพี่วินค่ะ" "น่ารักที่สุดเลย กลับกันเถอะค่ะเด็กน้อย บอกลาคุณพ่อที่กำลังจะไปสวรรค์ด้วยค่ะ" เขาอุ้มเด็กน้อยหันไปมองตรงเมรุ หนูนิดโบกมือลาคุณพ่อของเธอ "คุณพ่อไปสวรรค์ก่อนเลยนะคะ หนูนิดยังไม่อยากไปเพราะพี่วินจะเหงา ไว้เจอกันนะคะ" เด็กน้อยเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มโลกสดใส เขาอุ้มเด็กน้อยเดินออกไปจากตรงนั้นปล่อยให้คนอื่นๆจัดการพิธีต่อไป เมื่อเดินมาถึงที่รถ ญาติห่างๆของอาทินกรก็วิ่งมาอยู่ตรงหน้าของเขา ผู้ช่วยของเขาเดินมาบังหน้าไว้ก่อนจะเอ่ยถาม "มีธุระอะไรไม่ทราบครับ" เขาอุ้มหนูนิดไว้แน่นก่อนจะมองหน้าชายตรงหน้าและผู้หญิงอีกคน ที่เหมือนจะทำท่าทางจะมาแย่งหนูนิดไปที่เขารู้ว่าสองคนเป็นญาติเพราะว่าเขามาตั้งแต่รู้ว่าคุณอาเสียชีวิต "พวกเราจะพาหนูนิดไปเลี้ยงดูเองค่ะ ตอนนี้พ่อของเธอก็ไม่อยู่แล้ว เด็กก็ต้องมีคนดูแลค่ะ" "ใช่ๆ พวกเราจะจัดการทุกอย่างเอง ทั้งเรื่องสมบัติบ้านช่องต่างๆ เดี๋ยวพวกเราดูแลเอง" เขามองหน้าสองสามีภรรยาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ พอคนตายปุ๊บก็อยากจะมาดูแลสมบัติเงินทอง แล้วใช้หนูนิดมาอ้าง ดีนะที่ในซองเอกสารมีการเซ็นให้เขามีสิทธิ์ดูแลหนูนิดได้แต่เพียงผู้เดียวจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เขาเชื่อว่าถ้าปล่อยหนูนิดไปอยู่กับคนพวกนี้ ทั้งสมบัติและความเป็นอยู่คงจะลำบากแน่นอน "ไม่จำเป็นครับ คุณอาทินกรยกหนูนิดให้อยู่ในความดูแลของผม ส่วนสมบัติทุกอย่างของเขาเซ็นยกให้ลูกสาวคนเดียวและผมเอาไปฝากไว้ที่ธนาคารแล้ว จนกว่าเธอจะอายุครบสิบแปดปีถึงจะเอาออกมาใช้ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเอาหนูนิดไปดูแลตอนนี้คงต้องออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง กว่าหนูนิดจะโตคงเสียไปเยอะเลยนะ พวกคุณจะยินดีรับเธอไปเลี้ยงเหรอ" เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มเชือดเฉือนคนตรงหน้า ก็เอาสิถ้าคิดว่าจะยอมลำบากเลี้ยงเด็กคนหนึ่งจนอายุสิบแปดก็ลองดู เชื่อสิว่าไม่มีใครยอมแน่นอน "อะไรนะ! พวกเราไม่ได้มีเงินทองมากขนาดนั้นนะ เลี้ยงเด็กก็ต้องมีเงินสิ" "ก็ตอนนี้ไม่มี จะยังรับเลี้ยงอยู่มั้ย" เขาลูบแผ่นหลังเด็กน้อยอย่างเบามือ ดีนะที่หนูนิดเคลิ้มหลับไปแล้วเพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้เธอมาฟังเรื่องอะไรแบบนี้หรอก ทั้งสองคนสะกิดแขนกันก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น เขามองหน้าฟาร์ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ "วุ่นวายจริงๆพวกญาติพี่น้องเนี้ย ดีนะที่ผมไม่มีใครวุ่นวายมาขอรับเลี้ยงดูนะ" ฟาร์หัวเราะขำๆมองเจ้านายที่ทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะอุ้มหนูนิดไปขึ้นรถแล้วพากลับบ้าน และจากวันนั้นทั้งสองคนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอด เช้ามาเขาเป็นคนไปส่งหนูนิดเรียนหนังสือ ตอนเย็นก็ไปรับกลับจากโรงเรียน เขาปรับเปลี่ยนระบบใหม่ทุกอย่างย้ายเธอไปโรงเรียนอินเตอร์ที่ดีที่สุดแถมยังใกล้บริษัทของเขาอีก เด็กน้อยตั้งใจเรียนมากแถมผลการเรียนไม่เคยทำให้ชายหนุ่มผิดหวัง ทุกครั้งที่เกรดเฉลี่ยออกเธอจะได้ไม่เคยต่ำกว่า 3.95 ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เขาพอใจมาก ล่าสุดอยากเรียนภาษาจีนเขาวุ่นหาโรงเรียนพิเศษให้อีก เธอเป็นเด็กขี้อ้อนมากมากจนเขาไม่ยอมห่างไปไหนเลย บางคืนก็มานอนด้วยกลายเป็นเขาเองที่ติดการนอนกอดหนูนิดซะเอง และตอนนี้เด็กน้อยของเขาก็โตเต็มวัยแล้ว เดือนหน้าก็จะถึงวันเกิดอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ เขาจะต้องจัดงานเลี้ยงให้เธอที่บ้านและต้องนั่งเฝ้าไม่ยอมห่างด้วยเพราะปัจจุบันยิ่งโตยิ่งสวยจนเขารู้สึกแปลกประหลาดกับตัวเองว่าทำไมถึงได้หวงน้องหนักมาก "คุณวินคะเฟียสอยากได้กระเป๋าใบใหม่ค่ะ ใบเก่าใช้มาเดือนหนึ่งแล้วมันเบื่อค่ะ" "ซื้อสิอยากได้ก็ไปเลือกเลย ผมรีบต้องไปรับหนูนิดที่โรงเรียน" เฟียสผู้หญิงที่คุยกับเขาตอนนี้คือดาราสาวที่กำลังมาแรงในตอนนี้ เธอเป็นคู่นอนชั่วคราวของเขาจะบอกว่าเขาไม่เคยผ่านผู้หญิงมาเลยมันก็เป็นไปไม่ได้ นี่ก็อายุปาไปสามสิบปีแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยมีคือคนรัก "คุณดูเป็นห่วงน้องสาวมากเกินไปนะคะ" หญิงสาวมีท่าทีไม่พอใจเมื่อชายหนุ่มพูดถึงแต่เด็กคนนั้น พูดถึงเมื่อไหร่สายตามันออกตลอด บ่งบอกเลยว่าไม่ได้คิดแค่น้องสาวธรรมดา และที่ทุกคนทราบดีว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของเขา และคุณวินเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนโต เขาห่วงเด็กคนนี้มากไม่ว่าจะไปที่ไหนจะตามไปเฝ้าตลอดไม่เคยห่าง มันทำให้ผู้หญิงคนอื่นอิจฉาและยิ่งเขาไม่เคยคบหาใครจริงจังเวลาออกงานสังคมทุกครั้งก็ควงแต่น้องสาวนอกไส้ไปด้วยตลอด จนบางคนนินทาสนุกปากว่าคุณวินเขาเลี้ยงต้อย "อย่าพูดจาถึงหนูนิดด้วยน้ำเสียงแบบนั้น ผมไม่ชอบ!" "ก็คุณทำเกินความเป็นพี่ชาย คุณอายุเยอะแล้วนะคะวิน ควรจะแต่งงานได้แล้ว เฟียสไม่ดีตรงไหนคะทำไมคุณถึงไม่ยอมให้สถานะสักที" เธอเริ่มน้อยใจชายหนุ่ม เธอเป็นดาราดังทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ ผู้ชายต่างหมายปองผู้ชายที่ผ่านมาของเธอไม่มีใครเปย์มากเท่าเขาเลยสักคน เธอจึงเลิกแล้วมามีเขาคนเดียว ถึงแม้จะรู้ว่าอยู่ในสถานะไหนก็เถอะ "เราตกลงกันแล้วนะว่าสถานะของคุณคือคู่นอนของผมเท่านั้น กฎที่คุณเข้ามาครั้งแรกพี่ฟาร์จะบอกทุกคนว่าห้ามรักผมเด็ดขาดคุณลืมไปแล้วเหรอ ผมให้ในสิ่งที่คุณอยากได้มาตลอดแค่นี้ไม่พอใจอีกเหรอ" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถ้าเธอยังมีความคิดหวังลมๆแล้งๆในสถานะที่จะได้เป็นเมียของเขา มันก็คงช่วยไม่ได้แล้ว ถึงเวลาที่ต้องให้เธอออกไปจากชีวิตเขาแล้ว "แต่เฟียสรักคุณไปแล้ว" "งั้นก็เลือกของที่อยากได้เลย ผมให้หลายๆใบเลยกระเป๋าที่คุณต้องการ พี่ฟาร์รอจ่ายเงินให้เฟียสด้วย แล้วก็ผมไม่อยากเจอเธออีก ช่วยจัดการด้วย" เขาหันไปมองหน้าเธออีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทันที เฟียสที่ได้ยินคำพูดตัดขาดความสัมพันธ์ก็รีบวิ่งไปหาเขา "ไม่นะคะวิน อย่าทิ้งกันแบบนี้เลยนะ เฟียสไม่เรียกร้องอะไรแล้วก็ได้แต่อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ" เธอร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกแย่ ทั้งๆที่ตอนเข้ามาในชีวิตของเขาตอนนั้นเธอแค่ต้องการของหรูๆเท่านั้น แต่พออยู่ไปเขาคือผู้ชายที่ดีมาก และดูอบอุ่นสุดๆเวลาอยู่กับเด็กนั้น "คุณทำผิดกฎเพราะฉะนั้นออกไปจากชีวิตผมเถอะ" "คุณคิดจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆหรือไง จะนอนกับผู้หญิงคนนั้นคนนี้ไม่จริงจังกับใครสักคนเลยเหรอ คุณสนุกเหรอที่ทำแบบนี้" "ผมไม่ได้สนุกหรอกที่ทำแบบนั้น ผมเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความต้องการเหมือนคนอื่นเท่านั้น และตอนนี้ผมก็ไม่อยากนอนกับผู้หญิงคนไหนแล้ว ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับใครมาสักพักแล้วนะ สำหรับคุณผมอยู่ที่ห้างพอดีเท่านั้นก็เลยยอมมาเจอ อ่อ แล้วที่ถามว่าผมมีคนที่อยากจะจริงจังด้วยมั้ยผมไม่ตอบนะแต่ถ้าบอกมี แน่นอนว่ามันไม่ใช่คุณหรือผู้หญิงคนไหน" เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินออกไป เสียงของหญิงสาวทำให้เขาถึงกับชะงักไป "ก็ใช่สิคะตอนนี้พวกเราคงหมดประโยชน์แล้ว น้องสาวของคุณกำลังจะจบม.6 คงจะอายุสิบแปดปีแล้วสินะถึงได้เทเด็กในสต็อกของคุณออกนะ คุณหวังอะไรอยู่กันแน่" เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ "ผมต้องตอบเหรอ..." เขาหัวเราะขำๆก่อนจะหันไปมองพี่ฟาร์ส่งสายตาให้เขาเป็นเชิงว่าส่งแขก เด็กที่เขาเลี้ยงไว้ต้องได้รับการตรวจสุขภาพก่อนที่จะมานอนกับเขา และเขาจะไปหาเมื่อต้องการเท่านั้น ไม่เคยไปค้างคืนด้วยหรือไปไหนด้วย เว้นแต่พวกเขาอยากจะมีคนรักก็ออกไปได้เลย และเงื่อนไขหลักๆเลยคือห้ามไปยุ่งที่บ้านของเขาและห้ามไปแสดงตัวกับหนูนิดเด็ดขาด "คุณวิน!! กริ๊ดดด!!" เขาไม่สนใจเดินออกไปขึ้นรถแล้วให้คนขับรถขับไปส่งที่โรงเรียนของหนูนิด ตอนนี้เด็กน้อยของเขาโตเป็นสาวเต็มไวแล้ว เขาจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ "คุณป๋าขา วันนี้หนูนิดสอบได้คะแนนท็อปของระดับชั้นด้วย" เด็กน้อยกระโดดกอดเขาแน่น เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะใช้มือโอบรอบเอวเด็กสาวไว้แล้วมองสบตากับเธอ "เก่งมากค่ะ แบบนี้คงจะต้องให้รางวัลซะแล้ว" "รางวัลเหรอคะ" เขายิ้มให้เด็กน้อยอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาเธอเดินไปขึ้นรถเพราะอากาศมันค่อนข้างร้อน "ใช่ค่ะ ป๋าซื้อให้แล้วนะหนูแกะดูสิ" เขาส่งถุงสีขาวใบใหญ่ให้เธอ หนูนิดตาโตก่อนจะเปิดออกมาดูด้วยความสนใจ เขาลูบผมเด็กน้อยอย่างหลงไหล ตอนนี้เขารู้เลยว่าความรู้สึกที่มีต่อหนูนิดในวัยเด็กมันเปลี่ยนไป เขาหวงเธอมาก ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้มาใกล้ และอายุปาเข้าสามสิบแต่ยังไม่เคยรักใคร คงเพราะภายในใจมีคนอยู่ในนี้อยู่แล้ว ถึงใครจะบอกว่าเขาเลวก็ไม่เถียงเพราะเขาคือผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยร้ายกับแค่คนเดียวเท่านั้นคือหนูนิด "โทรศัพท์รุ่นใหม่ คุณป๋า! หนูนิดบอกแล้วไงคะว่าเครื่องเดิมยังใช้ได้อยู่" "ก็ป๋าอยากได้รางวัลจากหนูไง" เขาเอ่ยเสียงอ้อน หนูนิดยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มชายหนุ่มอย่างที่เคยทำเป็นปกติ "ไม่ต้องซื้ออะไรมาแล้วนะ ถ้าอยากได้รางวัลก็บอกดีๆจะหอมทุกวันเลย หอมจนแก้มช้ำไปเลย" "พูดแล้วนะหนูนิดของป๋า" เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะดึงเด็กน้อยมาโอบรอบเอวไว้หลวมๆ "ค่ะ หนูนิดพูดคำไหนคือคำนั้น" หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงหวานก่อนจะเปิดโทรศัพท์เครื่องใหม่ดูอย่างตื่นเต้น ถึงปากจะบอกว่าไม่อยากได้ก็เถอะ แต่ถ้าคุณป๋าของเธอให้อะไรมาก็ชอบทั้งนั้นแหละ "ใส่ซิมก่อนมั้ยคะ ป๋าช่วย" "ต้องจิ้มใช่มั้ยคะ" ทั้งสองคนช่วยกันย้ายโทรศัพท์ใหม่ วินมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กน้อยคนนี้ 'คงถึงเวลาแล้วสินะที่เขาควรจะให้พี่ฟาร์จัดการเรื่องผู้หญิงคนอื่นให้เรียบร้อย'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD