bc

คลั่งรักคุณป๋าขา :: ป๋าวิน&หนูนิด

book_age16+
1.1K
FOLLOW
4.0K
READ
family
sweet
bxg
lighthearted
like
intro-logo
Blurb

ป๋าวิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอายุ30ปี เขาอยู่ตัวคนเดียวอายุตั้งแต่14ขวบเนื่องจากครอบครัวประสบอุบัติเหตุรถยนต์ และจากนั้นเขาก็ตั้งใจเรียนรู้งานในบริษัทเพราะเขาคือทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ โดยมีคนสนิทของคุณพ่อคนที่ไว้ใจได้ที่สุดคอยสอนงานให้ จนเมื่อชายหนุ่มอายุครบ18ปี คนสนิทของคุณพ่อที่คอยสอนงานเขาตลอดก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย และก่อนตายเขาได้ฝากฝังชายหนุ่มครั้งสุดท้าย

"ช่วยดูแลลูกสาวของผมด้วย เธอไม่เหลือใครแล้ว"

เขารับเอกสารข้อมูลของเด็กน้อยมาไว้ในมือก่อนจะมองผู้มีพระคุณสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา เขาเดินทางไปโรงเรียนอนุบาลรับเด็กน้อยคนนั้นมาที่บ้าน จากข้อมูลเธอชื่อหนูนิดอายุ6ขวบ เป็นลูกสาวคนเดียวของอาทินกร ส่วนแม่ของเธอน่าจะทิ้งทั้งสองคนไปนานแล้ว

"ต่อไปนี้หนูนิดจะอยู่ที่นี่ในฐานะน้องสาวของพี่นะคะ"

"ค่ะพี่วิน"

12ปีต่อมา...

ยิ่งผ่านไปนานวันเด็กสาวยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆแถมสวยมากอีกต่างหาก จากพี่ชายผู้ใจดีกลับกลายเป็นพี่ชายจอมหวงน้องสาวไปซะแล้ว แถมเธอยังเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาอีก มันทำให้เวลาไปไหนเขากลายเป็นเสี่ยเลี้ยงต้อยไปซะแล้ว แต่เขาก็ไม่แคร์คำนินทาหรอก

"คุณป๋าหนูนิดจะไปวันเกิดเพื่อนค่ะ"

"ป๋าไปด้วยค่ะ"

"หือ.. ไปด้วยเหรอคะ"

"ถ้าไม่ให้ป๋าไปงั้นหนูก็อยู่บ้านค่ะ"

หนูนิดยิ้มออกมาแห้งๆไม่ว่าอะไร พักหลังไปไหนก็มีเขาคอยตามตลอดปลีกตัวไปไหนแทบไม่ได้เลย จนวันหนึ่ง...

"เธอก็โตแล้วนะ วันหนึ่งคุณวินเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกที่น่ารัก เธอจะกลายเป็นหมาหัวเน่านะ เป็นฉันออกไปจากที่นี่นานแล้วนะไม่อยู่เป็นภาระเขาแบบนี้หรอก ก็แค่เด็กที่เขาเก็บมาเลี้ยง"

คำพูดแทงใจดำของผู้หญิงที่รายล้อมคุณป๋าของเธอ วันหนึ่งเมื่อเส้นบางๆมันขาดลง ความรู้สึกน้อยใจถาโถมเข้ามาสารพัด

"หนูนิดจะไปเองค่ะ หนูนิดไม่อยากอยู่เป็นภาระของคุณป๋าอีกแล้ว"

หญิงสาวตัดสินใจหอบกระเป๋าออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง มันเป็นวันที่เธอกำลังจะบอกเขาว่าสามารถสอบชิงทุนได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้คงไม่ต้องอีกแล้ว

"มีความสุขมากๆนะคะคุณป๋า หนูนิดรักคุณป๋ามากที่สุดเลย ฮึก!"

"ตามหาหนูนิดให้เจอ ยังไงก็ต้องเจอ!!!"

chap-preview
Free preview
Chapter 1
เอี๊ยด! โครม! 'หมอเสียใจด้วยนะครับ พวกเขามาช้าไปนิดเดียว' เฮือก! แฮ่กๆๆๆ ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมาตอนดึก ใบหน้าเปียกซึมไปด้วยเหงื่อทั่วหน้า เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรูปภาพสองรูป ภาพแรกเป็นผู้ชายใส่สูทดูดี ภาพที่สองเป็นภาพผู้หญิงสวมชุดไทยใบหน้ายิ้มหวาน เขามองท่านทั้งสองคนก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ "ตอนนี้พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างนะ แต่ไม่ต้องย้อนมาถามผมหรอกนะว่าสบายดีรึเปล่า ผมขอตอบเลยนะว่าเหนื่อยมากจริงๆ ผมในวัยอายุสิบแปดปีต้องมารับผิดชอบทุกอย่างในบริษัทที่มีแต่คนคอยสบประมาทตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมผ่านมาได้แล้วนะ หกปีที่พ่อกับแม่จากไป หกปีที่ผมต้องใช้ชีวิตคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว วัยที่กำลังจะมีเพื่อนได้เที่ยวเล่นเหมือนคนอื่น แต่ก็ต้องเลิกฝันเพราะภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ผมต้องขอบคุณอาทินกรคนสนิทของคุณพ่อ เขาเป็นคนดีมากและเขาคือผู้มีพระคุณคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของผม" เขาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอน จะให้นอนอีกครั้งก็คงจะนอนไม่หลับแล้ว ไปหาอะไรเย็นๆดื่มแก้เบื่อดีกว่า พรุ่งนี้ก็จะต้องไปรายงานตัวเรียนมหาวิทยาลัยอีก ทั้งเรียนทั้งทำงานไม่มีเวลาเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ แถมบ้านนี้ก็เงียบเหงา มีแต่แม่บ้าน คนสวนเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขา วินเปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มคั่นสดออกมาเทใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมด เขาเทลงไปอีกแก้วแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องหยิบโทรศัพท์เข้ามาดู "วันนี้ผมขอลานะครับคุณวิน หมอนัดอีกแล้ว" เขาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย รู้สึกว่าช่วงนี้อาทินกรจะไปโรงพยาบาลบ่อยเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่วยอะไรร้ายแรงรึเปล่าพอถามก็ไม่ยอมตอบวันนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นอะไรด้วยการตามไปถึงโรงพยาบาล "พรุ่งนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่าคุณเป็นอะไร" หลังจากนั้นเขาก็นั่งอ่านไฟล์งานจนถึงเช้าแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโดยมีแม่บ้านเตรียมให้ "คุณวินรับอาหารเช้าเลยมั้ยคะ" "เอามาเลยครับป้านมแจ่ม ขอกาแฟเพิ่มด้วยนะครับผมรู้สึกง่วงอีกแล้ว" "ตื่นมาทำงานดึกอีกแล้วใช่มั้ยคะ" เขาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มหวาน ป้านมแจ่มเป็นแม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่ อยู่ตั้งแต่พ่อกับแม่ยังอยู่เขาถือว่าเป็นญาติคนหนึ่งเลยละ ส่วนญาติพี่น้องของพ่อกับแม่ พวกเขาอยู่ต่างจังหวัดและตัวเขาเองไม่ได้สนิทสนมมากนักก็เลยไม่ได้ไปมาหาสู่ เลยทำให้เขาตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง แต่อยู่แบบนี้ก็ดี "ครับ มันนอนไม่ค่อยหลับ" "ฝันร้ายนะสิคะ คุณวินเลิกคิดมากเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นลองหาอะไรมาเลี้ยงดูมั้ยคะจะได้ไม่เหงา" เขาไม่ค่อยชอบเลี้ยงสัตว์เท่าไหร่ติดรำคาญมากกว่า เลี่ยงได้เลี่ยงเลย "ผมไม่ชอบนะครับมันชอบมาใกล้เซ้าซี้น่ารำคาญ" "นี่ถ้าวันหนึ่งคนที่คุณวินรักเขาอยากเลี้ยงขึ้นมาจะทำยังไงคะเนี้ย" ป้านมแจ่มเอ่ยแซวขำๆ ถ้าวันหนึ่งคุณวินมีแฟนขึ้นมาแล้วเธอชอบเลี้ยงสัตว์คงจะไม่ยอมไม่ได้หรอกนะ "ก็ต้องดูอีกทีครับ แต่ผมคงไม่เอาใครมาผูกมัดตัวเองหรอก ภาระผมเยอะเวลาแทบไม่มี อยู่คนเดียวก็สบายใจดีครับ" "ถ้ามีขึ้นมาคุณวินจะมีเวลาเองค่ะ" ป้านมแจ่มยิ้มกว้างออกมาก่อนจะวางแก้วน้ำเย็นลงแล้วเดินไปชงกาแฟต่อ เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะจัดการทานข้าวตรงหน้าให้เรียบร้อยจะได้รีบไปโรงพยาบาล @โรงพยาบาล เขาให้เลขาของอาทินกรสืบมาเรียบร้อยแล้วว่าเขามาที่โรงพยาบาลอะไร และตอนนี้เขาเจอตัวแล้วกำลังจะเข้าห้องตรวจพอดี "คุณอาทินกร" เขาชะงักไปก่อนจะหันไปมองตามเสียงเรียก ใบหน้าเศร้าเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายจะตามมาถึงที่นี่ ความลับที่เก็บไว้มาสักพักกำลังจะถูกเปิดเผย "คุณวิน!! มาทำอะไรที่นี่" "ผมอยากรู้ว่าคุณอาเป็นอะไรทำไมถึงต้องมาที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ตกลงว่าป่วยเป็นอะไรครับทำไมถึงต้องมาบ่อยขนาดนี้" เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ใจจริงก็อยากจะระบายกับใครสักคนแต่ไม่อยากให้เป็นเจ้านายเลย เพราะเขาภาระเยอะทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทุกอย่างต้องพึ่งพาตัวเองอยู่ตลอด เขาไม่อยากจะเอาความเครียดมาสุ่มอกของเขาแต่ตอนนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว "รอผมอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวผมจะมาคุยด้วย" วินพยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งรอหน้าห้องตรวจ ส่วนทินกรก็รีบไปพบหมอแล้วรับยาก่อนทั้งสองคนจะพากันไปนั่งร้านกาแฟหาที่คุยกันเงียบๆ "ตกลงคุณอาเป็นอะไรครับ ผมช่วยได้นะไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา หมอเก่งๆ ผมช่วยได้ทุกอย่าง ชีวิตนี้เหลือแต่คุณอาคนเดียว คุณเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของผม มีอะไรบอกผมนะครับ" เขาเอ่ยออกมาแกมขอร้อง ที่เขามาในวันนี้เพราะเป็นห่วงจริงๆ ถ้าเขาเป็นอะไรร้ายแรงขึ้นมาจะทำยังไง "อาเป็นมะเร็งตับนะ" เขาเอ่ยออกมาเสียงสั่น ภายในใจรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ใช่ว่าเขากลัวความตายแต่ที่เขากลัวเพราะว่าเขายังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเขาเป็นอะไปเธอจะอยู่ยังไง "อะ..อะไรนะครับ! แล้วหมอว่าไงบ้างรักษาได้มั้ย ผมหาโรงพยาบาลใหม่ให้ดีกว่าเอาที่ดีที่สุดเลย ถ้าหมอที่ไทยไม่เก่งพอผมจะให้คุณอาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ผมจะออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง" เขาเริ่มรู้สึกแย่มากที่ตลอดเวลาเอาแต่ขอให้คุณอาช่วยทุกอย่างจนลืมไถ่ถามสุขภาพ เขาส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยออกมา "มันไม่ทันแล้ว อาเป็นหนักแล้วหมอให้ทำใจรอเวลาเท่านั้น" "มันต้องมีทางสิครับอา อย่าถอดใจสิ" "มันไม่มีทางแล้วครับคุณวิน ตอนนี้ผมไม่ได้กลัวความตายเลย แต่ผมมีลูกสาวอยู่เธอเพิ่งเรียนอนุบาลอายุกำลังจะหกขวบ ถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมาเธอจะอยู่ยังไง" เขากุมขมับอย่างเครียดหนัก แม่ของลูกก็หายไปจากชีวิตของทั้งสองคนไปนานมากแล้ว ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน เขากลัวเหลือเกินกลัวว่าเธอจะต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็ก เขากลัวไปหมด "คุณอามีลูกสาวเหรอครับ ทำไมผมไม่เคยรู้" "ผมไม่อยากจะเอาอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของผมมาให้คุณวินปวดหัวนะก็เลยไม่เคยพูด ถ้าตอนนี้ผมไม่อยู่แล้วหนูนิดคงต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า" เขาพอมีสมบัติมากอยู่ที่จะให้ลูกเลี้ยงดูตัวเองได้สบาย แต่เธอยังเด็กมากที่จะดูแลตัวเองได้ในเวลานี้ "พาผมไปหาหนูนิดได้มั้ยครับ" เขาเงยหน้ามองเจ้านายด้วยแววตาที่บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดจะทำอะไร แต่จะขอให้เขาช่วยดูแลเกรงจะรบกวนเกินไปรึเปล่า "อยากเจอเธอเหรอครับ" "ครับ ผมอยากทำความคุ้นเคยกับหนูนิดไว้ อย่างน้อยถ้าโรคที่คุณอาเป็นมันไม่มีทางรักษาได้ งั้นผมจะตอบแทนบุญคุณของอาเป็นอย่างอื่น" "คุณวิน! การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ" "ผมมีเงินมากมาย ป้านมแจ่มก็อยู่ อีกอย่างที่บ้านผมมีแค่ผมคนเดียว การมีเด็กน้อยอีกคนมาอยู่ด้วยถือเป็นเรื่องไม่เหงานะครับ" เขายิ้มออกมาบางๆ ไหนๆก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว งั้นเขาจะเป็นคนดูแลหนูนิดแทนคุณอาจนกว่าเธอจะโตพอที่จะดูแลตัวเองได้  "คุณวิน ฮึก! ผม..." "ไปกันเถอะครับวันนี้ไปรับหนูนิดที่โรงเรียนกันดีกว่า" เขาชวนคุณอาไปที่โรงเรียนอนุบาล ซึ่งก็เป็นโรงเรียนที่ไม่ได้แพงอะไรมาก น่าจะใกล้บ้านมากกว่าและที่โรงเรียนรับเลี้ยงพิเศษตอนเย็น คงเพราะคุณอามาช่วยงานดึกตลอด พอรู้แบบนี้แล้วอดสงสารเด็กน้อยไม่ได้ "หนูนิดคุณพ่อมารับค่ะ" เด็กน้อยสะพายกระเป๋าวิ่งออกมาก่อนจะยิ้มอย่างดีใจแล้วกระโดดกอดคอผู้เป็นพ่อ "คุณพ่อสวัสดีค่ะ มารับหนูนิดไวจังเลย" "ไม่ดีใจหรือไงคะ" "ดีใจค่ะ" เด็กน้อยยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาสงสัย "ใครคะ.." เด็กน้อยเอียงคอถามอย่างสงสัย วินยิ้มออกมาอย่างถูกใจเด็กน้อย ทำไมน่ารักอะไรอย่างนี้นะ พูดเก่ง ยิ้มเก่ง ทำอะไรก็ดีไปหมด "พี่ชื่อพี่วินค่ะ หนูนิดอยากไปกินไอศกรีมกับพี่วินมั้ยเดี๋ยววันนี้พี่วินพาไป" เขายื่นมือไปให้เด็กน้อยจับ หนูนิดหันไปมองคุณพ่อไม่กล้าตอบรับ เธอไม่เคยรู้จักเขาแต่มีความสนใจที่จะทานไอศกรีม "ไปสิลูก พี่วินเขาใจดีนะ" "จริงเหรอคะ งั้นหนูนิดไปกับพี่วินค่ะ" เด็กน้อยจับมือชายหนุ่มไว้ก่อนจะยิ้มแก้มปริออกมาอย่างดีใจที่จะได้ไปทานไอศกรีม วินยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะอุ้มเด็กสาวมาไว้ในอ้อมกอดแล้วพาเดินไปยังรถของตัวเอง "อยากได้ชุดสวยด้วยมั้ยคะ พี่วินซื้อให้" เด็กน้อยตาโตกอดคอชายหนุ่มแล้วเอียงคอถาม "ชุดสวยเหรอคะ ชุดนางฟ้ารึเปล่าที่มีปีกนางฟ้าด้วย" "หนูนิดอยากได้เหรอคะ" "ใช่ค่ะเห็นในทีวีสวยมากเลยค่ะ" "งั้นไปซื้อกันนะคะ" เขายิ้มออกมาก่อนจะพาเด็กน้อยขึ้นรถ ทินกรมองตามทั้งสองคนไปก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ อย่างน้อยถ้าเขาจากโลกใบนี้ไป ลูกสาวของเขายังมีคนที่ดีและเขาไว้ใจให้ดูแลเธอได้

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook