“ภรรยาหมอหล่อคนดังหนึ่งในผู้บริหารบริษัทร่วมทุนระดับประเทศ กำลังเที่ยวทะเลฉ่ำอยู่เลยจ้า เอ…แล้วนั่น ไม่รู้ว่าไปกับใครนะ ไม่เห็นเหมือนคุณหมอ สามีสุดหล่อเลยนี่นา”
เสียงอ่านโพสต์หนึ่งในข่าวประจำวันของสื่อสังคมมีเดียดังกรอกอยู่ที่ข้างหูของปริญญ์ แต่ไม่ได้ทำให้เขาเสียสมาธิแต่อย่างใด ปริญญ์ยังคงสั่งงานกับเลขาอยู่เป็นระยะ เวลาล่วงผ่านไปร่วมสี่สิบนาทีได้ จนเลขาออกจากห้องแล้ว ถึงได้เห็นปริญญ์ลุกจากเก้าอี้ของเขา
เทวัญเองที่คาบข่าวนั้นมาฟ้อง ตะโกนถามเสียงดังคับห้องทันที “ไปไหนครับบอส”
“พรุ่งนี้วันหยุด กูจะไปไหนก็ได้เปล่าวะ”
ปริญญ์บอกเทวัญที่แวะมาขอยืมเงินเขา แต่เขายังไม่อนุมัติจ่ายให้มันไป เลี่ยงไปยังรถส่วนตัวของเขาแทน
“ตกลงมึงจะเอายังไงกับหลักฐานที่กูหามาให้ จะฟ้องหย่าเลยไหม กูจะได้ให้น้องทนายเขาช่วย”
ปริญญ์ตวัดตามองเทวัญด้วยอาการไม่พอใจทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘หย่า’
“ไม่ต้อง ถ้าจะหย่า กูจัดการเองได้”
“มึงพูดแบบนี้เหมือนคนไม่อยากหย่าเลยนะเว๊ยปิน” เทวัญถามเสียงฉุน เพราะรู้จักปริญญ์มาตั้งแต่เด็ก เรียนอนุบาลวัดมาด้วยกัน โตมาด้วยกัน เพิ่งจะแยกกันตอนที่ปริญญ์สอบติดแพทย์ แต่ตนไปทำงานที่บาร์โฮสแล้วจับสาวม่ายได้เงินมาก้อนใหญ่มาทำธุรกิจ แต่ก็เหมือนไม่รอด แต่ได้ปริญญ์คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด “มึงคิดดูนะปิน มึงหาเงินมาเท่าไร เมียมึงก็มาขอตอดเอาไปตลอด ไม่เอาไปปรนเปรอไอ้หมอสายเกานั่น แม่งก็เอาไปถลุงที่คลินิกของยัยหมอปีกุนจนหมด แบบนี้มึงจะให้เขาเกาะมึงกินไปจนวันตายเลยหรือไง อย่าลืมนะเว้ยเฮ้ยว่าเขาทำอะไรไว้กับมึงบ้าง”
“หยุดพูดได้แล้ว กูรู้หมดแล้ว”
“รู้แล้ว แต่มึงก็ยังเอาเงินไปปรนเปรอให้ดาใช้อยู่ตลอด ๆ นี่มึงยังรักดาอยู่อีกหรือวะ เขาหลอกใช้มึง ให้จ่ายค่ายา จ่ายค่าหมอให้แม่เขาตอนนั้น แล้วก็เฉดหัวมึงทิ้ง มึงยังตามไปง้อให้เขากลับมารักมึงอีก มาแต่งงานกับมึงอีก แบบนี้ไม่ใช่โง่ธรรมดาแล้วนะเว้ย เขาเรียกว่า โง๊ โง่”
ปริญญ์ไม่พูดตอบโต้อะไรออกไปแม้แต่คำเดียว ใบหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกเพื่อนรักตอกย้ำความเจ็บปวดให้รับรู้อีกครั้ง เขาเดินเลี่ยงไปที่รถ แต่แล้วเอแคลร์ที่อดทนรอคอยอยู่เป็นนานสองนานตรงโซนต้อนรับก็วิ่งพรวดตรงเข้ามาหา พร้อมร้องเรียกเขาไปด้วย
“พี่ปิน”
ปริญญ์หยุดเดิน แต่ไม่ได้หันไปมองที่หญิงสาว เอแคลร์ตามเข้ามายืนกอดแขนของเขาไว้แน่น แหงนหน้าขึ้นถาม “จะไปไหนคะ”
“เรื่องของพี่”
ได้ยินคำตอบแล้วหญิงสาวแทบหลุดอาการ อยากทำตัวเอาแต่ใจ แต่นึกได้ว่าปริญญ์ไม่ชอบ ได้แต่บอกตัวเองว่าทำใจให้สงบเอาไว้ ยิ้มในหน้า แต่ในอกในใจเดือดพล่านเลยทีเดียว
“ได้ค่ะเรื่องของพี่ปินก็ได้ แต่ถ้าจะไปไหน ให้เอไปด้วยนะคะ”
เอแคลร์ตามเข้าไปนั่งในรถ ชวนปริญญ์คุยตลอดทาง แต่ได้ความเงียบและใบหน้าที่ตึงจนเหมือนหนังกลอง ถูกขึงจนน่ากลัวว่าจะขาดกลางทางเข้าจนได้
ไม่นานรถถึงได้ขับไปจอดภายในโรงแรมติดชายทะเลแห่งหนึ่ง ปริญญ์ลงจากรถทันที เขากวาดสายตามองหา จนเห็นภรรยาของเขาเดินอยู่กับเพื่อนของเธอ ตรงตามที่คนของเขาติดตามดูและรายงานอยู่ตลอดเป็นระยะ ๆ ก็ตรงปรี่เข้าไปยื้อแขน เพื่อเอากลับไปขึ้นรถ
จินดาพรรณตกใจในทีแรกที่เห็นสามี แล้วมองปรามไปทางกอบกุลว่าเดี๋ยวจัดการเอง เลยปล่อยให้สามีกึ่งลากกึ่งจูงมือ ตรงที่รถของเขา และที่บนรถคันนั้น ก็มีเอแคลร์นั่งอยู่ที่ตอนหลังด้วยอีกคนจินดาพรรณเชิดคอขึ้นตรง มองท้าทายไปยังเอแคลร์และสามี เปิดปากถามเสียงหยัน
“วันนี้อยากควบสองหรือไงคะคุณสามี…ไหวด้วยหรือ”
เสียงถามเชิงดูถูกพร้อมด้วยสายตาสบประมาทถูกส่งไปยังปริญญ์ เขามองหมิ่นตอบกลับมาแล้วว่า “จะถามอะไรใครน่ะ ดูตัวเองก่อน ว่าถ้าเอาขึ้นมาจริง ๆ จะไหวอย่างที่ปากเก่งอยู่นี่หรือเปล่า”
จินดาพรรณหันไปยังเอแคลร์ จงใจว่าทั้งชายและหญิงคู่นี้ไปพร้อมกันด้วยเลย “สกปรกดีนะ เธอยอมให้ผู้ชายแบบนี้เอาเธอได้ไง ไม่คิดจะเลือกหน่อยหรือ”
ปริญญ์ไม่ทนฟัง เขาตามเข้ามานั่งเบียดเธอแล้วสั่งคนขับรถ
“โต ส่งที่โรงแรมซีวิว”
“ครับ” คนของเขาตอบรับเสียงเข้ม พารถตรงไปยังจุดหมายในทันที เอแคลร์ขยับตัวออกห่างจากภรรยาของปริญญ์ ถามเสียงลนปนไม่พอใจ
“พี่ปินคะ นี่มันอะไรกันคะ ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย”
“เอบอกพี่เองไม่ใช่หรือว่าอยากพักที่นั่นสักครั้ง”
“แต่เออยากพักกับพี่ปินสองคนนี่คะ”
ปริญญ์ไม่ตอบว่าอะไร นั่งเงียบด้วยกันสามคนที่ตอนหลังของรถอยู่ร่วมสามสิบนาทีกว่าที่โต คนขับรถของปริญญ์จะพารถไปจอดตรงหน้าโรงแรมติดชายหาดที่ชื่อซีวิว
“ลงไป” ปริญญ์สั่งเสียงห้วน เอแคลร์มองมาที่เธอ แล้วช้อนตามองออดอ้อนไปยังปริญญ์ “พี่ปินคะ”
ปริญญ์สั่งอีกที น้ำเสียงหงุดหงิดกว่าเดิม “พี่บอกให้ลงไป”
“อย่าทะเลาะกันเลย ฉันลงเองดีกว่า”
จินดาพรรณบอกพร้อมกับขยับตัวจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เพื่อลงจากรถ แต่ถูกมือของปริญญ์ดึงเอาไว้ก่อน เขาส่งสายตามองกดดันไปยังเอแคลร์
เอแคลร์เลยจำใจต้องลงจากรถ หญิงสาวหน้าสวยหวานยืนมองเข้ามาในรถ คาดหวังว่าปริญญ์จะตามลงมาด้วย แต่เขาทำเพียงเปิดกระจกแล้วกวักมือเรียกพนักงานให้เข้ามารับเอแคลร์ไปส่งยังที่พัก
เอแคลร์เข้ามาเกาะข้างรถถามปริญญ์ “ทำไมไม่ลงมาด้วยกันละคะพี่ปิน”
“พี่จะไปนอนที่บ้าน”
ปริญญ์บอกจบ สั่งโตให้พารถตรงไปยังบ้านพักริมหาดที่เขาซื้อไว้นานแล้ว เคยมาครั้งเดียวและไม่เคยมาพักที่นี่อีกเลย
จินดาพรรณใจเต้นแรงกับการกระทำของสามี แต่แล้วกลับนิ่งเงียบ ใบหน้าเฉยเมย ไม่อยากวางใจว่าเขาจะทำอะไรให้เธอต้องปวดใจอีกหรือไม่
“ลงมาสิ หรือต้องอุ้ม”