ฉันกับวายุรีบผละตัวออกจากกัน จู่ๆ คุณป๋าเดินมากระชากคอเสื้อวายุ แล้วจ้องตาเขม่ง นี่คุณป๋าเป็นอะไรของเขาเนี่ย
คุณป๋า “ลุงถามทำไมไม่ตอบ”
ฉัน “คุณป๋า ใจ เย็นๆ ก่อนนะคะ” ฉันอยากจะลุกขึ้นไปห้ามมากแต่ข้อเท้าฉันมันเจ็บมากเลยตอนนี้ ได้แต่นั่งห้ามอยู่ที่เตียง
วายุ “คือ พี่ดาวข้อเท้าแพงผมก็เลยอุ้มมาส่งที่ห้องก็แค่นั้น”
คุณป๋าชำเลืองตามองมาที่ฉัน แล้วก็ปล่อยคอเสื้อวายุ ก่อนจะเดินมาทางฉัน คุณป๋านั่งคุกเข่าลงตรงหน้าฉันแล้วก็จับข้อเท้าฉันดู
ฉัน “โอ๊ย จะ เจ็บค่ะ”
คุณป๋าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองฉัน
คุณป๋า “เจ็บมากหรอ?”
ฉันพยักหน้าตอบคุณป๋า
คุณป๋า “โทรตามหมอรึยัง?” คุณป๋าหันหน้าไปถามวายุ
วายุ “ไอ้พายุโทรแล้วครับ”
คุณป๋า “อื้ม...ออกไปก่อน” คุณป๋าบอกกับวายุ
หลังจากที่วายุออกไป คุณป๋าก็เอาแต่จ้องหน้าฉัน จนฉันต้องเบือนหน้าหนีสายตาของคุณป๋าไปทางอื่น รู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้าแบบบอกไม่ถูกเลย
คุณป๋า “ไปทำไมมา ถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”
ฉัน “คะ คือ หนูไปยิงปืนเล่นมาค่ะ”
คุณป๋า “กับใคร?” คุณป๋าพูดเสียงเข้ม
ฉัน “กับ วายุ พายุ ค่ะ” ฉันก้มหน้าตอบ
คุณป๋า “ป๋าบอกว่าไงลืมแล้วว่างั้น คำพูดของป๋ามันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม” คุณป๋าถามเสียงแข็งพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจออกมา
ฉัน “ไม่ใช่นะคะ มันไม่ใช่แบบนั้น” ฉันรีบพูดปฏิเสธ
ฉัน “คือหนู หนูขอโทษค่ะ ต่อไปหนูฟังคำที่คุณป๋าพูด”
คุณป๋าถอนหายใจออกมา ยาวๆ
คุณป๋า “เอาเถอะ ยังไงหนูก็โตแล้วป๋าคงจะบังคับหนูไม่ได้”
คุณป๋า “อีกสองวันเราต้องเดินทางกลับประเทศไทย”
ฉัน “ทำไมกลับเร็วจังละคะ?”
คุณป๋า “ทำไม ไม่อยากกลับรึไง” คุณป๋าดูอารมณ์เสียขึ้นมาทันที แต่ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่ด้วยฉันแค่ถามเอง
คุณป๋า “ถ้าอยากอยู่ที่นี่มากก็อยู่ไป ป๋าไม่ห้าม”
ฉัน “หนูแค่ถามเอง ไม่ได้แปลว่าอยากอยู่ที่นี่สักหน่อย ทำไมคุณป๋าต้องโกรธหนูด้วย”
น้อยใจนะ คือพูดอะไรไปคุณป๋ามักจะอารมณ์เสียใส่ตลอดเลย
แม่บ้าน “คุณหมอมาแล้วค่ะ”
หมอเดินเข้ามา หมอดูท่าทางจะอายุน้อยอยู่เลยนะ ขนาดใส่แมสยังดูออกเลยว่าหน้าตาต้องดีมากแน่ๆ
หมอ “ออกไปรอด้านนอกก่อนนะครับ” หมอบอกคุณป๋า
คุณป๋า “ออกทำไม ที่นี่บ้านผมไม่ใช่โรงพยาบาลคุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม จะรักษาก็รักษาไป ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้”
หมอส่ายหัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก คุณหมอเปิดกล่องอะไรสักอย่างออกมา แล้วก็ใส่ถุงมือ
ฉัน “เบาๆ นะคะคุณหมอ”
หมอ “ครับ”
คุณหมอเงยหน้ามามองหน้าฉัน สายตาฉันกับคุณหมอประสานกัน จ้องกันอยู่สักพัก คือไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เหมือนโดนมนต์สะกดให้มองเลย ตาของคุณหมอมีเสน่ห์มาก
คุณป๋า “จะมองกันอีกนานไหม”
คุณป๋าประกาศเสียงกร้าว ก่อนจะลุกขึ้นมายืน ใกล้ๆ กับคุณหมอ ทำให้คุณหมอรักษาไม่สะดวกเลย
ฉัน “คุณป๋าไปนั่งสิคะ มายืนแบบนี้มันเกะกะหมอ”
คุณป๋า “ไม่”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา ฉันว่าบางทีคุณป๋าก็เหมือนเด็กนะ
ตัดมาวันกลับไทย ตอนนี้ขาฉันหายดีแล้ว หลังจากลาอาโซพลอยกับวายุ พายุ เสร็จ ฉันกับคุณป๋าแล้วก็พี่ที ก็ขึ้นเครื่องบินเจ็ทกลับประเทศไทย
ณ ประเทศไทย
พอมาถึงก็แยกย้ายกันนอนเลยเพราะมันค่อนข้างจะดึกแล้ว
เช้าวันต่อมา วันนี้คุณย่าโทรหาฉันตั้งแต่ตอนเช้า บอกให้ฉันเข้าไปหาที่บ้าน
ฉัน “พี่ทีคะ คุณป๋าออกไปทำงานแล้วหรอคะ?”
พี่ที “ครับ”
ฉัน “อ้อค่ะ งั้นเราไปบ้านคุณย่ากันเถอะสายแล้ว”
พี่ที “ครับ คุณหนู”
ณ บ้านของคุณย่า ที่บ้านมีคุณย่าอยู่กับแม่บ้านแล้วก็พวกลูกน้องของคุณปู่ ส่วนคุณปู่ไปต่างประเทศ
ณ ห้องรับแขก
ฉัน “สวัสดีค่ะคุณย่า”
คุณย่า “นั่งก่อนสิ”
ฉันนั่งตามที่คุณย่าบอก
คุณย่า “เพียงดาวหนูมีแฟนรึยัง?”
ฉัน “หือ ยะ ยังค่ะ หนูยังไม่คิดเรื่องนี้” พอเจอคุณย่าถามแบบนี้รู้สึกเขินมากเวลาตอบ ช่วงนี้เป็นอะไรกันมีแค่คนถามเรื่องมีแฟน
คุณย่า “หลานโตแล้วนะเพียงดาว อายุก็23แล้ว ทำไมยังไม่มีแฟนอีก?”
ฉัน “คุณป๋าบอกว่าให้เรียนจบก่อนแล้วถึงจะมีแฟนได้ค่ะ” คุณย่าถอนหายใจออกมา ยาวๆ แล้วก็ส่ายหัวไปมา
คุณย่า “อย่าไปเชื่อตากันมากเลย รายนั้นอายุสิบสี่ก็มีสาวเพียบแล้ว”
คุณย่า “ย่าขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะ ที่ย่าให้หลานมาวันนี้ เพราะย่าอยากให้หลานทำความรู้จักกับคนคนหนึ่ง เขาเป็นลูกชายของเพื่อนคุณปู่ เขาเป็นถึงคุณหมอเชียวนะ แถมยังเป็นลูกชายของมาเฟียตระกูลใหญ่อีกด้วย”
คุณย่า “ตอนนี้เขากำลังเดินทางมาที่ไทย จะมาทานข้าวเย็นที่นี่ กับพ่อของเขา ย่าเลยอยากให้หลานได้รู้จักกับผู้ชาย ดีๆ ที่เพียบพร้อม”
ฉัน “ค่ะ” ฉันไม่ได้คิดอะไรมากมายกับคำที่คุณย่าบอก ทำความรู้จักไว้ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้มีเพื่อนแบบคนอื่นเขาบ้าง
ตกเย็น..
ฉันนั่งคุยกับคุณย่าไปเรื่อยเปื่อยจนเย็น จู่ๆ คุณป๋าก็มาโผล่ที่บ้านของคุณย่าเฉยเลย แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่คุณป๋าจะมาที่นี่ก็คุณป๋าเป็นลูกคุณย่านี่น่า
คุณป๋า “ม๊า เรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ ผมมีงานที่ต้องไปเคลียร์อีกเยอะเลย ทำไมไม่เรียกไอ้ปืนบ้าง อะไรก็ผม” พอมาถึงคุณป๋าก็เอาแต่บนพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ
คุณย่า “ม๊าจะเรียกให้แกมาหานี่ไม่ได้เลยรึไงตากัน งานที่แกว่าคือไปหาอีพวกเด็กที่แกเลี้ยงละสิไม่ว่า”
คุณป๋า “แล้วม๊ามีอะไร แล้วเพียงดาวหนูมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” คุณป๋าหันมาถามฉัน
ฉัน “เมื่อเช้าค่ะ”
คุณป๋า “มาทำไม?”
คุณย่า “เอ๊ะไอ้ลูกคนนี้หนิ หลานฉันจะมาหามันไม่ได้เลยรึไง ต้องอยู่บ้านแกตลอดเลยรึไงตากัน”
แม่บ้าน “นายหญิงคะคุณเยี่ยนหราน กับคุณ ลู่เฟย มาถึงแล้วค่ะ”
คุณย่า “อื้ม พาเขาไปที่ห้องรับแขกเดี๋ยวฉันจะตามไป”
แม่บ้าน “ค่ะ”
หลังจากแม่บ้านเดินไป
คุณป๋า “ใครอ่ะม๊า แล้วเขามาทำไม?” คุณป๋าขมวดคิ้วถามคุณย่าอย่างแปลกใจ
คุณย่า “นี่แหละเหตุผลที่ม๊าให้แกมาในวันนี้” เมื่อพูดจบ จากนั้นคุณย่าก็เดินนำฉันกับคุณป๋าไปที่ห้องรับแขก พอถึงห้องรับแขกเราก็กล่าวทักทายแขกที่มาเยือน
ฉัน “เอ๊ะ คุณคือคุณหมอคนนั้นหนิ” ฉันทักขึ้น คุณลู่เฟยคือคุณหมอที่ไปรักษาฉันวันนั้น เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่ยิ้มกลับมาให้ฉัน ตอนเขาไม่ได้อยู่ในชุดหมอเขาดูดีมาก
คุณย่า “แม้ เคยเจอกันแล้วหรอ ดีจังเลยนะคะคุณเยี่ยนหราน”
คุณเยี่ยนหราน “นั้นสิครับ พรหมลิขิตจริงๆ”
คุณเยี่ยวหราน “คือผมขอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกันนะครับ”
คุณย่า “เชิญค่ะ”
บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท ฉันสังเกตเห็นคุณป๋านั่งจ้องหน้าพี่ลู่เฟยตลอดเลย
คุณเยี่ยนหราน “ที่ผมมาวันนี้ ผมอยากจะมาทาบทามหลานสาวของคุณหญิงให้กับลูกชายของผม”
คุณป๋า “ห๊ะ ว่าไงนะ” คุณป๋าพูดออกมาเสียงดังลั่น พร้อมกับยืนขึ้นทันที แล้วก็มองมาที่ฉัน