Area 10 : ความตื่นกลัว และ ความเจ็บใจ (2/2)

2765 Words
หลังจากเตรียมการเรียบร้อยพร้อมออกเดินทางกลับ ทั้งซามูร์ น้ำค้าง และชาลรี ได้แวะมาหาหัวหน้าเผ่าลาฟี่กับซาเดียซะก่อน เพื่อกล่าวอำลาและขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือทุกอย่างจนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หากว่าโอกาสหน้าขาดเหลือสิ่งใดก็ขอให้บอกกันอย่างมิต้องเกรงใจ ทั้งสามร่ำลากันเสร็จแล้วก็ได้พากันออกเดินทางสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยป่าต้นสน เพื่อใช้เป็นเส้นทางลัดเดินผ่านกลับไปยังเผ่ากรีนเคิร์ก แทนเส้นทางอันตรายที่มีแต่สารพัดต้นไม้ขึ้นรกครึ้มขึ้นจนเป็นป่าดิบ การเดินทางครั้งนี้ ลาฟี่กับซาเดียยังใจดีให้หยิบยืมม้ามาใช้ในการเดินทางกลับกรีนเคิร์ก เพื่อใช้ทุ่นเวลาและระยะทางได้เยอะเลย จนรู้สึกเกรงใจและขอบคุณในเวลาเดียวกัน เมื่อเข้าสู่เส้นทางหุบเหวก่อนที่จะมุ่งเข้าสู่เขตรอยต่อของเส้นทางป่ารกชัฏ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นคุระที่น้ำค้างใช้เป็นเส้นทางหนีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ก็แสดงว่าใกล้จะถึงเผ่ากรีนเคิร์กแล้ว แต่ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อสัญชาตญาณของสัตว์ที่มักจะรู้ล่วงหน้าหากว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายที่ใกล้จะเกิดขึ้น ม้าที่เป็นดุจยานพาหนะย่อมจะรับรู้ถึงภัยอันตรายได้ก่อนเสมอ ดังนั้น ม้าของชาลรีจึงเกิดการพยศขึ้นมาฉับพลัน ทำให้ชาลรีควบคุมเอาไม่อยู่ กระทั่งได้วิ่งเตลิดออกนอกลู่เส้นทางไปไกลแล้ว "ชาลรี!" ซามูร์ตะโกนไล่หลังทั้งคนทั้งม้าที่ได้วิ่งลาลับสายตาออกไปไกลแล้ว ครานี้เมื่อตนเองหยุดนิ่งไม่ได้บังคับให้ม้าวิ่งต่อ จึงถูกกองโจรที่ใช้โคลนพอกหน้าอำพลางหน้าตาเข้ามารุมล้อม พร้อมทั้งส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องราวกับกำลังข่มขวัญใส่กัน จึงทำให้คนที่นั่งคู่มาด้วยกันหวาดกลัวขึ้นมาฉับพลัน น้ำค้างรีบหลบหน้าเหล่ากองโจรและซุกตัวไปกับคนตัวโตตรงหน้า เพื่อหลีกหนีความกลัวตรงเบื้องหน้าไปซะ ภาพในหัวฉายซ้ำเรื่องราวความเลวร้ายที่เพิ่งประสบพบเจอมาเมื่อคืนก่อนนี้ มันได้เริ่มกรอย้อนกลับมาเองราวกับม้วนหนังได้เปิดสวิตซ์เล่นซ้ำเองโดยอัตโนมัติเลย "ซามูร์ เรารีบไปกันเถอะ ข้ากลัว" น้ำเสียงสั่นเครือที่ถูกเปล่งออกมาอย่างยากลำบากจากริ้มฝีปากสั่นเทา ยิ่งทำให้ซามูร์กังวลใจตามไปด้วย มือใหญ่รีบขยับดึงบังเ**ยนฟาดให้ม้ารีบออกตัววิ่งทันที แต่ม้าที่เกิดอาการตื่นตกใจอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งทำให้มันขวัญหนีดีฝ่อกระเจิดกระเจิงได้ง่ายดายเช่นกัน มันจึงวิ่งสะบัดดีดตัวให้ทิ้งร่างของคนที่กำลังควบคุมกันอยู่ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นไปทั้งคู่เสียแล้ว ซามูร์รีบคว้าตัวคนในอ้อมกอดเอาไว้แน่น แล้วยอมให้ตัวเองเป็นฝ่ายกระแทกพื้นเสียเองและพร้อมรองรับน้ำหนักตัวคนที่จะตกลงมาทับใส่กันอีกที อึก!! "เจ้าเป็นอะไรมั้ย น้ำค้าง.." ซามูร์รีบก้มมองคนที่ถูกกอดเอาไว้แน่น น้ำค้างส่ายหัวเป็นคำตอบทันที มือเรียวรีบประคองใบหน้าตึงเครียดให้หันมามองกัน "เราจะทำยังไงดี พวกมันเป็นใคร" เสียงแหบแห้งด้วยความกลัวทำให้ซามูร์คว้าตัวน้ำค้างเข้ามากอดเอาไว้ "ต้องวิ่งแล้วล่ะ เจ้าวิ่งไหวไหม" "อื้อ น่าจะ" เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ซามูร์จึงไม่รีรออีกต่อไป รีบคว้าข้อมือเล็กให้ออกวิ่งไปพร้อมกัน แต่แล้วข้อเท้าของน้ำค้างที่ยังไม่ทันจะหายดี จึงเกิดการซวนเซแทบจะล้มพับลงไปคลุกพื้นแล้วต้องถูกร่างสูงลากไปต่อแน่ หากแต่ว่าซามูร์ตั้งตัวได้ทันจึงรีบรั้งแขนอีกคนเอาไว้ได้ทันซะก่อน เสียงฝีเท้านับสิบมาพร้อมกับเสียงจากเครื่องเป่าบรรเลงเพลงข่มขวัญดังตามไล่หลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อไม่มีเวลาให้ซามูร์คิด ท่อนแขนมัดกล้ามรีบคว้าตัวน้ำค้างยกขึ้นพาดบ่าแล้วเร่งฝีเท้าออกวิ่งต่อแทน แต่แล้ว กลับกลายเป็นว่าทั้งคู่ถูกวิ่งไล่ต้อนให้จนมุม พวกชนเผ่าดูไม่เป็นมิตรก็ได้รุดตัวขยับเข้ามารุมล้อมกันเป็นวงมากกว่าสิบคน เสียงหัวเราะเกรียวกราว ราวกับได้เจอของเล่นชิ้นงาม จนต้องส่งเสียงถูกอกถูกใจออกมาอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ แววตาคู่คมจดจ้องอย่างไม่ไว้ใจและรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จนต้องสั่งจิตของตนว่าห้ามยอมปล่อยร่างของน้ำค้างลงพื้นอย่างเด็ดขาด ฝ่ามืออีกข้างขยับใกล้เข้าไปกระชับกับดาบเล่มยาวที่ผูกแขวนแนบกับลำตัวเอาไว้เสมอ "ชิ ชิ ชิ เอาตัวมันมา!!" หนึ่งในสิบที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มสั่งงาน ทันทีที่สิ้นคำสั่งของมัน ซามูร์ชักดาบออกมาจากฝักปะทะพวกที่จู่โจมพุ่งตัวเข้ามาหาทันทีเช่นกัน กองโจรสองนายที่พุ่งตัวเข้ามาหาก่อนเพราะหวังว่าจะจัดการกับคนตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่กลับผิดคาดกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ซึ่งตอนนี้เพียงเสี้ยววินาทีที่โจรรู้ตัวว่าคิดผิดไปแล้ว บริเวณรอยต่อของช่วงหัวกับลำคอก็ได้กระเด็นหลุดออกจากกัน แล้วกระดอนลงสู่พื้นเบื้องล่างจมกองเลือดไปเสียแล้ว "หน๊อยยยย" พวกกองโจรเกิดโทสะทันทีเมื่อเห็นพวกพ้องตายไปต่อหน้าต่อตาทีเดียวถึงสองคน หัวหน้ากลุ่มป้องปากตะโกนป่าวประกาศกึกก้องจนเสียงสะท้อนไปทั่วผืนป่าแห่งนี้ ทำให้ลูกน้องฮึกเหิมบุกเข้าไปรุมทึ้งเป้าหมายพร้อมๆ กันในทีเดียว ซามูร์หมุนซ้ายทีขวาทีเพื่อปะทะอาวุธกับกองโจร แม้นจะไม่ถนัดถนี่เพราะต้องแบกร่างของน้ำค้างเอาไว้ด้วย แต่ก็ไม่อาจจะละทิ้งคนบนบ่าได้เลย เคร้ง! ชั๊ว!! "ซามูร์ ฮึก ทิ้งข้าเถอะ เจ้าหนีไปซะ ฮึก ซามูร์" คนโดนแบกหวาดกลัวจนปล่อยโฮออกมาด้วยความสติแตก อีกทั้งยังคิดว่าตัวเองนั้นกำลังเป็นตัวถ่วงในการต่อสู้ของซามูร์ด้วย ขืนอีกคนยังแบกตนเอาไว้แบบนี้ ไหนยังจะต้องปะทะดาบกับกองโจรมากมายพวกนี้ด้วยอีก เราสองคนอาจจะต้องตายกันทั้งคู่เป็นแน่ ฉับ! และน้ำค้างคิดว่าหากจะต้องมีคนเสียสละในความตายครั้งนี้ คนที่สมควรตายที่สุดก็คือตัวเขาเองไม่ใช่ซามูร์ ผู้ที่ต้องคอยช่วยเหลือตนเองมาจนนับครั้งไม่ถ้วน ฉึบ! ซามูร์ถูกคนร้องไห้ดึงความสนใจไปชั่วขณะจนทำให้ถูกฟันเข้าที่ขาหนึ่งข้างอย่างจัง "ฮึก ซามูร์ หนีไปเถอะ หนีไปคนเดียวเถอะนะ ฮื้อ ได้โปรด" น้ำค้างยังคงร้องไห้ไม่หยุดหย่อนและพยายามจะให้ซามูร์ทิ้งภาระแบบตนเองแล้วหนีเอาตัวรอดไปซะ "หุบปาก!!" ดวงตาวาวโรจน์ ใบหน้าถมึงทึงตวาดเสียงลั่นออกมาใส่น้ำค้าง ทั้งที่ไม่เคยทำใส่กันมาก่อนเลยสักครั้ง ทำเอาน้ำค้างตกใจมากและยอมสงบปากสงบคำลงไปในที่สุด เคร้ง!! เมื่อเรี่ยวแรงที่ต้องแบกรับภาระทั้งด้านซ้ายและขวา อีกทั้งกลุ่มโจรที่สลับกันเข้ามาปะทะด้วยอาวุธต่างๆ อย่างไม่จบสิ้น ในมือพวกมันมีสารพัดอาวุธ ทั้งง้าวด้ามยาว ทั้งขวาน ทั้งดาบ จึงทำให้ซามูร์กัดฟันตั้งรับสู้สุดใจ แม้มันดูสับสนไปหมด ซึ่งทำเอาคนที่ต้องประมือด้วยนั้นมีอาการดวงตาเริ่มพร่ามัวไปเหมือนกัน พรึบ!! ทว่าในท้ายที่สุด..คนที่ถูกแบกอยู่บนบ่าก็ถูกชิงตัวไปแล้วจนได้ "ชิ ชิ ชิ ได้ตัวมาแล้ว ชิ ชิ ชิ" หัวหน้ากลุ่มหัวเราะปากกว้างเสียงดัง ราวกับมีชัยเหนือกว่าที่สามารถฉกชิงสิ่งของสำคัญของคนตรงหน้ามาได้สักที ตุ้ม! ตุ้ม! ลั้ล..ล้า.. อีกทั้งพวกกลุ่มกองโจรยังได้เต้นรำทำเพลง เริ่มตีกลองรัวใส่กันเสมือนกับว่ากำลังเย้ยหยันสะใจและสุขสมใจกันขั้นสุด เมื่อได้ช่วงชิงสิ่งของสำคัญมาได้แล้วอย่างสาแก่ใจนัก "ไอพวกระยำ พวกมึงต้องการอะไร?! เงินรึ? กูมีเยอะเลย มาเอาไปสิ!" น้ำเสียงแข็งกระด้างของคนที่มีใบหน้าตกตะลึงไปเมื่อครู่ ทำให้หัวหน้ากลุ่มโจรรู้ได้ทันทีว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดกับคนตรงหน้านี้มากกว่ากัน แต่ใบหน้าตึงเครียดกลับสามารถรีบเปลี่ยนท่าทีทำเป็นแข็งกร้าวแล้วพลิกสถานการณ์ทำเป็นพูดชักจูงถึงเรื่องทรัพย์สินของมีค่ามาแลกด้วยทันที เป็นคนที่ไหวพริบดี และชาญฉลาดไม่เบาเลย! ลูกน้องกองโจรมักจะมีหลากหลายสันดาน คนที่ละโมบโลภมากก็มีอยู่ในกลุ่มเช่นกัน พวกนี้จึงยอมเสี่ยงที่จะโผล่หัวออกมาแล้วรีบวิ่งกรูเข้าหาหลุมพลาง หวังจะหยิบห่อเงินกลับมา ทว่ายังไม่ทันจะได้ยื่นมือออกไปหยิบถุงเงินได้เลย กลับถูกซามูร์ตวัดปลายดาบฟันท่อนแขนขาดทันที อ๊ากกกกกกก!!! "ไอ้บัดซบเอ๊ย มึงหลอกพวกกู" คนที่ถูกลวงให้เข้ามาจนต้องแขนขาดล้มตัวลงไปนอนดิ้นพล่านร้องเจ็บปวดเจียนตาย รีบกดบาดแผลฉกรรจ์ที่หยาดโลหิตสีแดงข้นได้พุ่งกระฉูดออกมาไม่หยุด สามคนที่เหลือจากในกลุ่มโจรโลภมาก จึงเป็นฝ่ายวิ่งจู่โจมเข้าไปปะทะกับซามูร์ด้วยความโมโหกลับคืนทันควันเหมือนกัน เมื่อครั้งนี้ซามูร์ถูกรุมล้อมปะทะเข้ามาพร้อมกันในคราวเดียว ตราบใดที่มนุษย์เป็นผู้ที่มีเพียงสองขาและสองแขน ย่อมต้องเป็นผู้เสียเปรียบต่อการต่อสู้ปานถูกหมาหมู่รุมเช่นนี้อยู่แล้ว คนรับอาวุธจนเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยของบาดแผลจึงได้ทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างฝืนต้านแรงไม่ไหว หลังจากถูกแทงเข้าที่หน้าท้องและถูกฟันเข้าที่แผ่นหลังกับท่อนขาอีกข้างพร้อมๆ กันอย่างหลบเลี่ยงการปะทะไม่ได้เลย "ม่ายย!! อึก ม่ายย!! ซามูร์..ฮึก ซามูร์..." น้ำค้างเบิกตาโพลงเมื่อได้พบเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็นที่สุด พร้อมตะโกนกรีดร้องดังลั่นออกมาจนสุดเสียง ร่างเล็กทุรนทุรายดีดดิ้นออกจากการถูกยื้อยุดจับกุมตัวจากพวกโจรเอาไว้ เพื่อที่จะคลานเข้ามาหาซามูร์ที่ทรุดตัวนั่งลงซมกองเลือดข้นสีแดงฉานตรงกลางลานนั่น ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันและกันก่อนที่จะพยายามขยับตัวเข้ามาหากันให้ได้มากที่สุด หากจะต้องตายอยู่ตรงนี้ ก็ต้องตายไปพร้อมๆ กันเลย ระยะห่างกันเพียงแค่ปลายนิ้วที่ใกล้จะเอื้อมถึงและได้แตะสัมผัสซึ่งกันและกันอยู่แล้ว อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น พรืดดด!! ทว่าน้ำค้างกลับถูกลากข้อเท้าแล้วกระชากตัวให้กลับไปอยู่ในมือของกลุ่มกองโจรชั่วอีกครั้ง ที่พวกมันต่างพากันเปล่งเสียงหัวเราะร่ากันออกมา เสมือนกับกำลังเพ่งดูหนังดรามาสนุกๆ สักเรื่องกันอยู่เลยด้วยซ้ำไป ชิ ชิ ชิ "ม้ายยยย ไอ้เหี้x แม่งบัดซบ" ใบหน้าบิดเบี้ยวร่ำไห้ราวกับทำนบแตก ยิ่งส่งผลให้กลุ่มโจรหัวเราะชอบใจออกมาจนสนั่นไปทั่วผืนป่าแห่งนี้ ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม! ทำนองเพลงอันครื้นเครงของพวกกองโจรได้เริ่มต้นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งหมดจะได้เวลาที่จะต้องร่ำลาจากกันจริงๆ แล้ว หัวหน้ากลุ่มโจรได้เดินเข้าไปพูดจาถากถางใส่คนบาดเจ็บเจียนตายที่นั่งหายใจโรยรินอยู่กลางลาน ถุด! ทว่ามันกลับริอ่านถ่มเลือดใส่หน้ากัน จนทำเอาหัวหน้าโจรเกิดอาการเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้งทันที ใบหน้าพิโรจน์ที่ถูกถ่มเลือดใส่เต็มคราบเหมือนกับโดนหยามเหยียดใส่กันเยี่ยงนี้ ไอ้หัวหน้ากลุ่มโจรอำมหิตจึงได้ประเคนฝ่าเท้าถีบร่างที่นั่งคุกเข่าอยู่ มันกระทบกระแทกตรงจุดเดิมอยู่ซ้ำๆ เข้าที่บริเวณหน้าอกของคนที่บังอาจหยามหน้ากันเข้าอย่างจัง จนซามูร์ถึงกับล้มหงายหลังลงไปนอนกองอยู่กับพื้นอย่างต้านแรงถีบเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เพียงแค่นี้ไอ้โจรสารเลวยังคงไม่รู้สึกหนำใจพอ จึงได้ขากถุยน้ำลายโสโครกใส่กลับคืนลงบนใบหน้าที่กำลังแค่นยิ้มออกมาใส่กันอยู่ จนดูเหมือนกับว่าคนถูกกระทำการอุบาทว์ใส่กันอยู่นี่ ไม่ได้รู้สึกรู้สาหรือเกรงกลัวอะไรด้วยเลยสักนิด ราวกับกำลังเย้ยหยันใส่หน้ามันอยู่ดี ทำเอามันโมโหเกรี้ยวกราดอย่างหนักจนตัวสั่นไปหมด แล้วต้องประโคมรัวหน้าแข้งใส่ร่างบอบช้ำแบบเต็มคาราเบลไปอีกชุด ก่อนที่มันจะยอมผละตัวออกห่างเพราะเหนื่อยหอบแล้วจึงเดินมาทางน้ำค้างแทน "ไม่นะ! ไม่นะ ไอ้พวกเวรตะไล!! ซามูร์ ฮึก ซามูร์.." ทว่าความบัดซบเวรตะไลในสายตาของน้ำค้างยังคงไม่จบสิ้นเพียงแค่นั้น เพราะยังมีหนึ่งในลูกน้องของไอ้หัวหน้ากลุ่มโจรพอกโคลนที่มันยืนรอลูกพี่ของมันจัดการจนอ่วมสะใจแล้ว พวกมันถึงได้ทิ้งท้ายโดยการจรดปลายดาบแหลมคมลงบนหน้าอกตึงแน่น แล้วกรีดสลักฝังลึกฝากรอยตราสัญลักษณ์ของกลุ่มกองโจรของพวกมันเอาไว้ให้ได้ดูต่างหน้าอีกด้วย "ซามูร์!!" กลุ่มโจรพอกโคลนบนใบหน้าที่ชอบดักปล้นกลางป่ารกครึ้มได้ออกตัวเคลื่อนขบวนกันอีกครั้ง ทั้งยังลากทึ้งคนที่แรงเยอะเอาแต่ดีดดิ้นและไม่ละความพยายามขืนตัวเอาไว้ แล้วยังเสียงดีแหกปากกรีดร้องส่งเสียงกึกก้องกังวานไปทั่วป่าเขียวขจี ใบหน้านองน้ำตาได้ถูกลากตัวติดไม้ติดมือมือกลับไปยังฐานลับของพวกมันอีกด้วย "ซามูร์!! ฮึก..ซามูร์" ใบหน้านองน้ำตาพยายามเพ่งมองไปทางคนที่นอนจมกองเลือดด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ แต่ทว่าตัวเองนั้นก็ไม่สามารถขยับตัวได้เลยเช่นกัน ซ้ำยังถูกลากตัวให้ห่างจากซามูร์ไกลออกไปเรื่อยๆ จนลับสายตาแล้ว "ซามูร์!!" น้ำค้างแหกปากลั่นป่าแบบที่ไม่สนใจว่าสัตว์ป่าชนิดใดจะแตกตื่นหรือไม่ ตราบใดที่ยังเหลือแค่เพียงปากที่สามารถขยับได้ น้ำค้างก็จะทำ "ซามูร์!!!!!" เสียงกรีดร้องตะโกนก้องปาวๆ ดังขึ้นได้อีกเพียงไม่นาน ก็พลันต้องเงียบสนิทลงไปได้สักที หลังจากที่ได้ยินเสียงของกำปั้นทุบดัง อั๊ก! ลงไปกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของคนที่ยังเอาแต่แหกปากร้องลั่นป่ามาตลอดทางอยู่ได้ จนพวกกองโจรทนฟังความน่ารำคาญใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงจัดการหุบปากคนเสียงดีได้อย่างสงบหูลงไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน บัดนี้พื้นที่ป่ารกชัฏแห่งนี้ จึงเหลือเพียงแค่เสียงพรรเลงเพลงกับเสียงของกลองที่กำลังรัวตีอย่างครื้นเครงได้ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ แล้ว และในท้ายที่สุดมันจึงเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่าที่มาพร้อมกับเสียงของสายลมพัดผ่านมาใส่ร่างคนเจ็บก็แค่นั้น ฟิ้ว.. ม่านตาที่ถูกหยาดสีแดงสดปกคลุมจนแทบจะมองอะไรไม่เห็นเลย พยายามหรี่ตามองตามคนที่ตนเองอยากจะปกป้องให้ถึงที่สุด แต่ทว่าตอนนี้ ร่างนั้นกลับโดนลากให้ห่างออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ จนลาลับสายตามองไม่เห็นอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าซามูร์เจ็บใจถึงเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถฝืนขยับร่างกายอันบอบช้ำให้ลุกขึ้นยืนให้ไหวได้เลยสักนิด คนเจ็บใจทำได้เพียงแค่ต้องนอนกัดฟันกรอด ฝ่ามือใหญ่ที่ทำได้แค่เพียงกำหมัดจนแน่นแล้วทุบกำปั้นลงพื้นดิน เพื่อระบายความโกรธแค้นชิงชังได้เพียงเท่านั้น น้ำค้าง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD