Area 10 : ความตื่นกลัว และ ความเจ็บใจ (1/2)

2313 Words
ช่วงรุ่งสางซามูร์รู้สึกตัวก่อน ดวงตาคมเปิดขึ้นสิ่งแรกที่ตกกระทบเข้ากับสายตาก็คือใบหน้าของคนที่ตนเองวิ่งโร่ออกตามหาซะแทบบ้าคลั่ง นิ้วยาวเกลี่ยเส้นผมดำขลับไม่ให้ปรกใบหน้าบดบังเปลือกตาสีไข่ที่ยังคงพับปิดสนิทอยู่ "อื้อออ" คนตื่นยากขยับตัวเข้าไปชิดกับแผงอกแน่นโดยอัตโนมัติอย่างหาความอบอุ่นอันคุ้นชิน มุมปากที่เคยยกขึ้นยาก ทว่าบัดนี้กลับยกขึ้นสูงได้อย่างง่ายดาย ซามูร์นอนจ้องมองใบหน้าหวานเหมาะเจาะกับแพรขนตายาวพริ้มเพราที่ดูสวย จนไม่น่าเชื่อว่าคนตรงหน้านี้จะเป็นผู้ชายเช่นกัน ท่อนแขนกำยำดึงคนหลับเข้ามากระชับกอดอยู่ภายใต้ผ้าห่มขนสัตว์ผืนเล็ก ซามูร์เพิ่งรู้สึกพึงใจในความคับแคบของแคร่ไม้กับผ้าห่มผืนเล็กผืนนี้ ก็วันนี้นี่เอง คนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่เพียงลำพังจึงได้คล้อยหลับลึกตามคนตัวเล็กในอ้อมกอดลงไปอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู จึงทำให้ทั้งคู่รู้สึกตัวและจำต้องผละตัวออกจากกัน น้ำค้างขยี้ตาจนกลัวว่าจะระคายเคืองแล้วทำให้เกิดตาแดงไปซะก่อน ส่วนซามูร์ลุกขึ้นเดินดุ่มๆ ออกไปทางประตูตามเสียงคนเคาะเรียกรบกวนเวลานอนยามเช้า "ซามูร์ พลทหารส่วนตัวของหัวหน้าเผ่ากรีนเคิร์กมาขอพบเจ้า อ่อไม่สิ พวกนั้นแจ้งประสงค์ไว้ว่าให้บอกกับเจ้าว่าต้องพาตัวน้ำค้างกลับกรีนเคิร์กโดยด่วน" ชาลรีเรียบเรียงคำพูดใหม่ เพื่อส่งสารบอกต่อคนตรงหน้าให้เข้าใจได้ง่าย ซามูร์มุ่นคิ้วนิ่วหน้าทันที ก่อนจะบอกกับชาลรีว่าไปห้องพักรับรองแขกก่อน เดี๋ยวจะรีบตามไป เมื่อบอกกล่าวชาลรีเรียบร้อยแล้ว ซามูร์เดินตรงไปหาคนที่ยังเอาแต่นั่งเหม่อลอยราวกับนอนไม่พอ หรืออาจเป็นเพราะยังเห็นร่องรอยของความเสียหายด้านนอกจนสะเทือนใจขึ้นมาอีก "น้ำค้าง เดี๋ยวเราต้องไปพบพลทหารของเก็งเคอร์" "ห๊า มาอีกแล้วเหรอ" น้ำค้างเบ้หน้า แต่ก็ต้องยอมลุกขึ้นแต่โดยดี เมื่อโดนมือใหญ่ดึงรั้งให้ลุกขึ้นเดินตามกันออกมาด้วย เมื่อคืนหลังจากเผ่าคองกี้ถูกกลุ่มโจรโพกผ้าบุกรุกอย่างหนัก ทำเอากองกำลังของเผ่าคองกี้รับมือกับกองโจรไม่ไหว แล้วจำต้องส่งม้าเร็วไปขอความช่วยเหลือจากเผ่าต่าง ๆ ให้มาช่วยรบแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน ซามูร์จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เช้านี้เก็งเคอร์จะต้องทราบข่าวและเรียกตัวกลับด่วนเช่นนี้ แม้นว่าจะไม่อยากพาตัวคนด้านข้างกลับไปที่นั่นสักเท่าไหร่ แต่ก็ยากที่จะต่อรองได้แล้ว เพราะเมื่อเหตุผลที่ว่าน้ำค้างยังบาดเจ็บไม่สะดวกในการเดินทางกลับไป จึงต้องปัดตกไปด้วย ซึ่งมันฟังดูไม่สมเหตุผลเพียงพอกับการยืดเยื้อเอาไว้ได้แล้ว นอกจากนี้ยังถูกพลทหารได้แจ้งมาด้วยว่าหากขืนยังอยู่ที่นี่อาจจะไม่ปลอดภัย ราวกับว่ารู้ทันจนต้องเอ่ยดักคอขึ้นมาแทนก่อน และก่อนประโยคสุดท้ายที่พลทหารจะพูดออกมา ซามูร์กลับรีบเอื้อมมือไปปิดใบหูของคนเด๋อด๋าอย่างมิดชิดจนเหมือนกับคนหูดับไปชั่วขณะเลย "ซามูร์ ปิดหูข้าทำไมอะ คุยอะไรกันอยู่ บอกข้าด้วยสิ" ซามูร์นิ่งเฉยตามสไตล์ปล่อยให้อีกคนแหวใส่เหมือนทุกครั้งที่ขัดใจ หลังจากการเจรจากับพลทหารของเก็งเคอร์เสร็จสิ้นแล้ว ว่าหากพ่อเฒ่าของเผ่าคองกี้ตรวจซ้ำอาการของน้ำค้างแล้วดีขึ้นจริง จะรีบเตรียมตัวออกเดินทางกลับไปยังกรีนเคิร์กกันในทันที เหล่าทหารจึงต้องยอมกลับกันไปก่อน เพราะแววตาขึงขังจริงจังของซามูร์ที่มองกันอยู่นั้น ทำให้ไม่มีพลทหารคนไหนกล้าเอ่ยขัดอีกต่อไป อาหารเช้ามื้อนี้เป็นอาหารที่น้ำค้างเอ่ยปากชมเปาะบอกว่าอร่อยมาก แบบที่ซามูร์ยังต้องแปลกใจกับคำชมที่ดูเหมือนมันจะเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย ซึ่งอาหารมื้อนี้มันเป็นเพียงแค่เมล็ดข้าวโพดที่นำมาคลุกเคล้ากับแป้งแล้วปั้นเป็นก้อนก่อนนำไปย่างบนแผ่นหิน กับมีซุปผักรวมใส่น้ำแกงเผ็ดแค่นี้เอง แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนวาน เจ้าตัวไม่ยอมกินอะไรเสียมากกว่า เช้านี้ท้องจึงประท้วงอยากอาหารขึ้นมาได้เยอะกว่าเดิมก็อาจจะเป็นไปได้ ซามูร์จึงขอคิดเช่นนี้แทนก่อน เพื่อคลายความวิตกกังวลใจที่มันแวบเข้ามาในหัวทิ้งออกไปซะก่อน ช่วงตอนที่ตั้งล้อมวงกินข้าวเข้าด้วยกัน คนรู้สึกผิดถึงกับต้องรีบเอ่ยปากขอโทษขอโพยหัวหน้าเผ่าและชาวบ้านคองกี้อย่างละอายแก่ใจที่แลดูเหมือนกับว่าตนเองนั้นเห็นแก่ตัวมากที่ไม่ได้ออกมาช่วยเหลือกันเลย แต่ทุกคนกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร แค่ช่วยปกป้องการปล้นสะดมและยังช่วยชาวบ้านที่ถูกระราน จากการถูกพวกโจรโพกผ้าทำร้ายเอาไว้ได้ขนาดนี้ ก็ต้องรู้สึกขอบคุณมากแล้ว หลังจบมื้ออาหารเช้า ซามูร์จึงพาน้ำค้างไปอาบน้ำที่สระมรกตด้วยกัน ทั้งที่เมื่อคืนซามูร์กะว่าจะพาน้ำค้างเข้านอนให้หลับซะก่อน แล้วตนเองค่อยไปทำธุระส่วนตัวพร้อมกับช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ที่ไหนได้ เขาเองก็ดันเผลอหลับไปเช่นกัน "ซามูร์.. ข้านึกว่าเจ้าจะแอบหนีมาอาบน้ำล้างตัวตั้งแต่เมื่อคืน ตอนที่ข้าหลับแล้วซะอีก" ฝ่ามือเล็กที่ได้พกชิ้นผ้าติดมือมาด้วยกำลังช่วยเช็ดและขัดถูไปตามเนื้อตัวของซามูร์ ที่เต็มไปด้วยคราบเลือดแห้งกรังที่ถูกกระเซ็นใส่มาเต็มตัวไปหมด "ข้าไม่อยากทิ้งเจ้าไว้คนเดียว" "ซามูร์.." น้ำค้างกำลังจะเคลิ้มกับคำตอบที่แสนจะห่วงใยอยู่แท้ๆ เชียว "แต่ข้าก็ดันเผลอหลับไปก่อนด้วย" คนนั่งพิงขอบสระตอบออกมา พร้อมกับสายตาที่เอาแต่โฟกัสอยู่กับใบหน้าจิ้มลิ้ม ที่กำลังขะมักเขม้นกับการช่วยขัดคราบเลือดแห้งติดกรังที่มีอยู่ตามลำคอให้อย่างเบามือ ฮึ้ย หมดกันความหวานที่กูเสือกมโนเองไปไกลแล้ว ไอ้หมอนี่แม่งซื่อจัดๆ เลย คำตอบแรกก็เกือบจะเท่ดีอยู่แล้วเชียว หึหึ แต่ทว่าซามูร์คนซื่อตรงหน้ากลับตอบออกมาตามตรงซะจนทำเอาน้ำค้างคอตก แล้วต้องกระตุกยิ้มที่มุมปากแทน "นะ..นี่ ซามูร์.." ใบหน้ายิ้มแห้งเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นตกใจ จนต้องเงยหน้าขึ้นมองคนที่จู่ๆ ก็คว้าท่อนแขนของตนเองให้ร่างกายได้ขยับตัวเข้าไปใกล้ชิดกัน จนมันดูแนบชิดติดกันเกินความจำเป็นไปแล้วกับท่าทางล่อแหลมแบบนี้ จนแทบจะเรียกได้ว่านั่งเกยตักกันอยู่รอมร่อแล้ว "น้ำค้าง..ข้า.." ดวงตาคมอ่านยากกำลังสั่นไหว ทว่าใบหน้าเรียบนิ่งแน่วแน่เอาแต่จับจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตอย่างไม่ลดละ "ซามูร์เป็นอะไร" คนรอฟังคำตอบมองหน้าซามูร์ด้วยแววตาเลิ่กลั่ก อย่างไม่เข้าใจในการกระทำของซามูร์สักเท่าไหร่ ทว่าซามูร์กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก นอกจากทิ้งหน้าผากซบลงบนลาดไหล่เล็กของน้ำค้างแทน ทำเอาร่างกายของน้ำค้างสตั๊นไปชั่วขณะเลย แต่ทว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่กำลังเต้นระส่ำแทบไม่เป็นจังหวะอยู่ตรงช่วงหน้าอกทางด้านซ้ายเกิดขึ้นมาแทน น้ำค้างรู้สึกหายใจลำบากขึ้นมาทันที ซึ่งไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันเรียกว่าอะไร เจ้าตัวพยายามยกหัวซามูร์ออกจากไหล่ของตนและกลบเกลื่อนด้วยคำพูด "ซามูร์หันหลังหน่อย ข้าถูหลังให้เจ้าบ้างดีกว่า" ริมฝีปากบางละล่ำละลักพูดออกมา พร้อมกับใช้มือเล็กๆ ดุนดันช่วงไหล่กว้างของอีกคนให้หันหลังมาหากันแทน ซามูร์ผู้ว่าง่าย ยอมทำตามเจตจำนงของอีกคนแต่โดยดี มือเรียวค่อยๆ ขยับเช็ดรอยเลือดที่เกาะอยู่ตรงแผ่นหลังช่วงล่างออกให้อย่างบรรจงจดจ่อ แต่ในเมื่อเช็ดแบบเบามือแล้วกลับเช็ดไม่ออกสักที นิ้วเรียวจึงต้องออกแรงเช็ดด้วยน้ำหนักมือที่มากขึ้นกว่าเดิม จนได้ยินเสียงร้องซี๊ดหลุดออกมาจากปากคนโดนขัดเนื้อตัวอยู่ตรงหน้า "นะ..นี่เจ้ามีแผลด้วย ซามูร์ เจ้าถูกฟันมาด้วยรึเนี่ย" น้ำค้างเปล่งเสียงสั่นเครือออกมาทันที ที่ได้เห็นรอยแผลตามเนื้อตัวของซามูร์ประจักษ์ต่อสายตาอย่างชัดเจนแล้ว มือเรียวขยับไปจับรอยแผล แถมยังพบเห็นว่าข้างลำตัวของคนตรงหน้าขึ้นจ้ำช้ำม่วงอีกหลายจุดเลยด้วย "โอ๊ะ น้ำค้าง" น้ำค้างเผลอออกแรงกดลงไปจนคนเจ็บต้องร้องโอดโอยออกมา น้ำค้างรีบเดินไปอยู่ด้านหน้าของคนเจ็บแทน แถมยังบริภาษใส่อีกต่างหาก "ทีข้าเป็นนิดเดียว เจ้ายังรีบไปหายามาทาให้ข้าเลยนะ แต่พอเจ้าเป็นเองเยอะขนาดนี้แล้ว ข้ากลับไม่รู้อะไรด้วยเลย" น้ำค้างโหมดคนขี้แยกลับมาแล้ว พูดไปสะอื้นไปจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง "ข้าไม่เป็นไร นิดเดียวเอง" หลังซามูร์ตอบกลับมาแบบนี้ จึงได้รับกำปั้นเล็กๆ ทุบลงบนท่อนแขนไปอีกสองสามที ซามูร์คว้ามือน้อยๆ ที่ตีสะเปะสะปะมากอบกุมไว้ เมื่อต่างคนต่างจ้องมองสอดประสานสายตากันอยู่เนิ่นนาน จนต้องขับเคลื่อนใบหน้าให้ขยับเข้ามาใกล้ชิดกันและกันโดยปริยายอีกจนได้ ลมหายใจของทั้งคู่รินรดเป่าใส่กันให้รู้สึกจั๊กจี้ได้เพียงไม่นาน ต่างฝ่ายต่างขยับปรับมุมให้องศาของใบหน้าได้เคลื่อนเข้าหากันอย่างแนบชิดง่ายขึ้นยิ่งกว่าเดิม แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็ได้จรดเข้าหากันจนไร้ซึ่งช่องว่างอีกครั้งทันที เสียงลมหายใจหอบสลับกับเสียงอื้ออึงในลำคอของน้ำค้าง ที่ถูกรุกล้ำบุกเข้ามาป้อนเรียวลิ้นชื้นแฉะอยู่ในโพรงปากเอาไว้จนต้านทานสู้กลับไม่ไหวแล้ว ฝ่ามือเรียวจึงตบตีลงบนไหล่กว้างของคนที่เอาแต่ตะกรุมตะกรามไม่ยอมปล่อยให้ปากเขาเป็นอิสระเสียที อ่ะ..อื้ออ น้ำค้างหอบหายใจถี่รีบโกยอากาศเข้าปอดทันทีที่ถูกผละออก เจ้าตัวจึงส่งสายตาอาฆาตไปให้คนที่ยังคงมองจ้องหน้ากันอย่างไม่ยอมละสายตา แถมยังจะพยายามขยับตามเข้ามาประกบซ้ำสองอีก ทั้งที่ตนเองยังโกยออกซิเจนเข้าปอดไม่ทันเลย แฮ่ก แฮ่ก ฝ่ามือใหญ่สามารถรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างที่ขยันผลักดันกันเอาไว้ได้ภายในมือเดียว ซามูร์ไม่สามารถอดใจรอคนที่กำลังเหนื่อยหอบในอ้อมแขนได้อีกต่อไปแล้ว ริมฝีปากแดงก่ำที่เผยออ้าออก รีบกอบโกยเอาอากาศเข้าไป พร้อมกับใบหน้าขึ้นสี ที่ดูราวกับกำลังเย้ายวนเชิญชวนกันอยู่ จนรู้สึกว่าต้องตามไปรังแกต่อให้สมดังใจที่กำลังเรียกร้องกันอยู่เช่นกัน สายตาวาววับไม่ยอมย่อท้อในการไล่ตามประกบใบหน้าเข้าไปป้อนจูบให้ และไม่ยอมลดละที่จะสลับแลกลิ้นเล่นกับคนตรงหน้าได้ไหวอีกต่อไปแล้ว "ซะ..ซา อ้ะ..อือออ" น้ำค้างเพิ่งจะเริ่มรู้สึกตัว ว่าตนเองนั้นถูกกระชากดึงตัวให้ขึ้นมานั่งเกยอยู่บนตักแกร่งของคนตรงหน้าไปอย่างเรียบร้อยแล้ว แถมไอ้ช้างใหญ่ที่เคยนอนนิ่งสงบอยู่ภายใต้ผ้าเตี่ยวมานาน ทว่าบัดนี้มันกลับเริ่มผงาดตื่นตัวขึ้นมาด้วยแล้วสิ จนสัมผัสได้เลยว่ามันกำลังดุนดันอยู่กับหน้าท้องแบนราบของคนหน้าแดงแปร๊ดอยู่นั่นเอง "ซามูร์ อึก พอ..พอก่อน ขะ..ข้ากลัว" แววตาหลุกหลิกสั่นไหวบนใบหน้าแดงก่ำที่หายใจหอบถี่ รีบพูดห้ามปรามใส่อีกคนที่ดูเหมือนว่าอารมณ์จะพลุ่งพล่านตื่นตัวเต็มที่แล้ว ใบหน้าตกอยู่ในห้วงภวังค์ยังคงจับจ้องแก้มแดงปลั่งดูสุกงอมยั่วเย้าจนน่าลิ้มลอง จำต้องยอมพยักหน้าอย่างอดกลั้นตัดใจ และได้เอ่ยขอโทษคนตัวเล็กตรงหน้าที่ดูเหมือนกับจะมีอาการตื่นกลัวนิดๆ ออกมาให้เห็นทันทีเช่นกัน "รีบอาบให้เสร็จเถอะ เดี๋ยวเราต้องพากันออกเดินทางกลับแล้วล่ะ" ทั้งคู่จึงต้องขยับตัวห่างออกจากกันแล้วได้แยกย้ายกันไปจัดการตัวเองอยู่คนละมุม จนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ทว่าจังหวะการเต้นระส่ำของหัวใจยังคงไม่สร่างซาหายไปซะทีเดียว น้ำค้างคิดว่าหากตนเองกับซามูร์นั้น ยังขืนทำตัวติดกันมากจนเกินไปอยู่แบบนี้ มันจะยิ่งสุ่มเสี่ยงอันตรายต่อกันทางอารมณ์ซะแล้ว แล้วถ้าหากเมื่อครู่นี้ ไม่ได้เบรกอารมณ์เอาไวซะก่อน แล้วปล่อยเลยตามเลย เราทั้งสองคงได้ทำอะไรต่อมิอะไรแบบเลยเถิดจนเตลิดไปมากกว่านี้แล้วละ.. ☘
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD