ตอนที่ 4

1543 Words
แม้จะรู้สึกผิดหวังที่เขาเตรียมแผนการที่จะส่งหล่อนให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นภายในอีกสามสี่วันข้างหน้า แต่หญิงสาวก็แสดงความรู้สึกน้อยใจนั้นออกไปไม่ได้ “สามสี่วันหรือคะ...” “ใช่ มันไม่นานเลยใช่ไหม ไปเถอะ เข้าไปเก็บของซะ ผมจะพาคุณไปคืนนี้” ในที่สุดก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว หญิงสาวได้แต่ยิ้มบางๆ ให้กับเดนนิส โอซิล ผู้เป็นเจ้านายตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในห้องพักของตัวเอง ระหว่างทางสมองของสาวน้อยก็กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันที่หล่อนจะได้เข้าไปอยู่ในชายคาเดียวกับผู้ชายที่แอบปลื้มมานานถึง 5 ปีอย่างเดนนิส โอซิล นี่หล่อนควรดีใจหรือว่าควรร้องไห้ดีนะ... การได้เข้าไปอยู่ในเพ้นเฮ้าส์ราคาแพงของเดนนิส โอซิลเจ้านายหนุ่มรูปหล่อของตัวเองทำให้พเยียข่มตานอนไม่หลับเลยตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทั้งตื่นเต้น ทั้งเหลือเชื่อ และทั้งแปลกที่ทำให้หล่อนนอนตาค้างมาตลอดทั้งคืน และนี่มันก็เป็นผลทำให้หล่อนต้องมานั่งสัปหงกแบบนี้ที่โต๊ะทำงาน “พเยีย... คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงห่วงใยของใครคนหนึ่งดึงให้สาวน้อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หญิงสาวขยับแว่นสายตาขนาดใหญ่บนใบหน้าตัวเองช้าๆ ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนุ่มนั้น “เจ้านาย...!” “ผมเอง... ทำไมต้องทำหน้าตาเหมือนเห็นผีแบบนั้นด้วยล่ะ” เดนนิสหัวเราะด้วยความขบขัน มองสาวน้อยที่นั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นด้วยความเอ็นดู สงสัยเมื่อคืนหล่อนคงจะนอนไม่หลับแน่เลยๆ เช้านี้ถึงดูอิดโรยนัก “เอ่อ...คือ...” แก้มระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง จนหญิงสาวต้องรีบหลบตา คนมองได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอ “ถ้าง่วงก็ลาครึ่งวันสิ ผมอนุญาตนะ” “ไม่... ไม่ลาค่ะ พเยียไม่อยากขาดงาน...” จะให้หล่อนลาได้ยังไงล่ะ ก็ตั้งแต่ทำงานมาเฉียด 5 ปี หล่อนยังไม่เคยลาหยุดเลยแม้แต่วันเดียว ขนาดป่วยจนแทบลุกไม่ไหวหล่อนยังลากสังขารมาทำงานเลย แล้วนี่แค่ง่วงนอน ขี้ปะติ๋วน่า “เดี๋ยวล้างหน้า พเยียก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ” “แต่ผมว่าคุณกลับไปพักผ่อนเถอะนะ กลับไปนอนพักซะ ผมอนุญาต ไม่ต้องเขียนใบลาด้วย” อภิสิทธิ์ที่เจ้านายรูปหล่อให้นั้นช่างน่าสนใจอย่างยิ่ง แต่... หล่อนไม่อยากเอาเปรียบคนอื่นนี่ เดี๋ยวพนักงานคนอื่นรู้เข้ามีหวังมารุมเกลียดหล่อนกันแน่เลย “ไม่ค่ะ พเยียอยากทำงาน วันนี้มีประชุมเรื่องตึกสเตท โอเชี่ยนวันอีกไม่ใช่หรือคะ พเยียไม่อยากพลาดงานใหญ่ๆ แบบนี้” แทนที่เดนนิสจะเห็นดีเห็นงามที่หล่อนขยันขันแข็ง แต่เปล่าเลยเขากลับใช้อำนาจเผด็จการบีบบังคับให้หล่อนกลับไปนอนที่บ้านอีกซะงั้น อย่างนี้มันน่าลาป่วยสักสามวันเจ็ดวันนัก หญิงสาวคิดในใจอย่างหมั่นไส้ แต่มันก็ได้แค่คิดเท่านั้น ทำไม่ได้อยู่ดี ก็ใครจะกล้าล่ะ เจ้านายของหล่อนคนนี้ดุจะตาย “ผมสั่งให้คุณกลับไปพักผ่อน...” “แต่ว่า...” “และผมไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง ความจริงคุณน่าจะรู้นิสัยข้อนี้ของผมดีนี่พเยีย...” เผด็จการร้ายกาจชะมัด พเยียบ่นอุบอยู่ภายในใจ แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของหนุ่มหล่อที่จ้องมองมาที่หล่อนนิ่งไม่ได้ “ก็ได้ค่ะ... ถ้าเจ้านายอนุญาต งั้นพเยียขอลาป่วยสักสามวันได้ไหมคะ” ประชดออกไปนะนั่นน่ะ แต่ทำไมนะพ่อคู่สนทนารูปหล่อถึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แถมยังอนุญาตให้อย่างใจดีเสียอีก นี่หล่อนบ้า หรือว่าเดนนิสบ้ากันแน่นะ “ได้สิ... ตามสบาย ผมอนุญาตอยู่แล้ว” “เอ่อ...” อยากจะบอกออกไปว่าพูดประชดออกไปเฉยๆ แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะเจ้านายสุดหล่อเล่นหมุนตัวเดินตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองเสียแล้ว ทิ้งให้เลขาสาวอย่างพเยียนั่งถอนใจยาวเหยียดออกมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง มาร์คอสโยนรูปถ่ายในมือลงกับโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ของตัวเองทีละใบจนเหลือเพียงแค่ในมือแค่ใบเดียว นัยน์ตาสีทองอร่ามจ้องมองภาพผู้หญิงที่กำลังเดินตามเดนนิส โอซิลมุ่งหน้าเข้าสู่เพ้นเฮ้าส์ย่านชานเมืองกรุงเทพมหานครด้วยความแปลกใจสุดขีด ทั้งเฉิ่ม ทั้งเชย แถมการแต่งเนื้อแต่งตัวก็ยังกับหลงออกมาจากสมัยโบราณอย่างนี้นี่นะที่หมอนั่นมันชอบ ตลกสิ้นดี “รสนิยมเรื่องผู้หญิงของนายช่างแปลกดีนะเดนนิส...” ศีรษะทุยได้รูปที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มตัดแต่งอย่างประณีตส่ายไปมาอย่างเชื่องช้า รอยยิ้มเหยียดหยันผุดแต้มมุมปาก ขณะพยายามพินิจใบหน้าของสาวน้อยที่แต่งตัวราวกับแม่ชีหลงโบสถ์อย่างละเอียดลอออีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้เห็นก็ยังมีแต่ความเฉิ่ม เชย และความน่าเบื่อเช่นเดิม “ผู้หญิงของนายยังกะคุณป้า...” พึมพำออกมาด้วยความขบขัน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเอกสารที่พึ่งสั่งพิมพ์ออกมาจากเครื่องปริ้นขึ้นมาอ่าน ข้อมูลจากนักสืบที่ส่งมาให้นั้นอดทำให้เขาหัวเราะออกมาไม่ได้ ‘นางสาวพเยีย ศุภกานต์ อายุ 24 ปี เป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติพี่น้อง ทำงานในตำแหน่งเลขา CEOให้กับ โอซิลกรุ๊ปมาเกือบ 5 ปี แถมยังพ่วงตำแหน่งเมียเก็บของเดนนิส โอซิลมาอีกหนึ่งตำแหน่ง ข้อมูลยืนยันคือภาพที่นางสาวพเยียเดินตามเดนนิส โอซิลขึ้นเพ้นเฮ้าส์หรูในเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา’ “เมียเก็บอย่างนั้นหรือ...” ดวงตาสีทองวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มหยันผุดขึ้นที่มุมปากเซ็กซี่ทั้งสองข้างอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็คิดวิธีแก้เผ็ดเจ้าเดนนิส โอซิลได้ “ฉันจะเล่นงานนาย... ด้วยการลากแม่เมียเก็บสุดเฉยของนายมาขึ้นเตียง” ความเจ็บแค้นทำให้มาร์คอสคิดจะแก้เผ็ดเดนนิสให้หายขัดเคืองใจ โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขากำลังเข้าใจว่าเดนนิสร่วมมือกับอแมนด้านั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว อแมนด้าต่างหากคือคนคิดแผนการน่าสะอิดสะเอียนนี้เพียงคนเดียว มือใหญ่สีแทนหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ล่าสุดที่เลขาส่วนตัวซื้อมาให้ขึ้นมากดเบอร์โทรออก พร้อมกับยกขึ้นแนบหู “ผมไม่ต้องการรู้ข้อมูลใดๆ ของเดนนิส โอซิลอีกแล้ว” ก็แน่ล่ะ ข้อมูลที่ได้มามันมีประโยชน์สำหรับเขาเพียงพอแล้วนี่ อยากจะรู้นักว่าเจ้าเดนนิส โอซิลมันจะทำหน้ายังไงหากรู้ว่าเขาลากเมียเก็บของมันมาขึ้นเตียงได้สำเร็จ “ค่าตอบแทนยังตามที่เราตกลงกันไว้ ไม่เกินเที่ยงวันนี้ผมจะให้เลขาโอนเงินค่าเหนื่อยเข้าบัญชีให้คุณ บาย...” หนุ่มหล่อตัดสายจากคู่สนทนาที่เป็นนักสืบชื่อดังก้องโลกที่ตัวเองว่าจ้างให้ตามสืบข้อมูลของเดนนิส โอซิลตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นก็วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงาน ก่อนเอื้อมไปยกหูหาเลขาส่วนตัวของตัวเอง และกรอกเสียงทรงอำนาจไปตามสายทันทีที่ซูซานน่ารับสาย “ผมต้องการบินไปประเทศไทยในบ่ายวันนี้ จัดการให้เรียบร้อยด้วย คุณซูซานน่า” มาร์คอสวางกระบอกโทรศัพท์ลงบนแป้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือใหญ่กระชากเสื้อสูทราคาแพงระยับขึ้นมาสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวไข่ไก่เอาไว้ทันที เมื่อหูได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ใกล้เข้ามาทุกขณะ เสียงโทรศัพท์พื้นฐานที่โต๊ะทำงานดังขึ้นอีกครั้ง มือใหญ่เอื้อมไปยกมันขึ้นมาแนบหู “ผมรู้แล้วคุณซูซานน่า ขอบคุณที่โทรมาเตือน” วางสายพร้อมกับเดินอ้อมออกจากโต๊ะทำงาน มุ่งหน้าขึ้นสู่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่บนดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยนครเซาเปาโลเป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ทำให้การเดินทางแต่ละครั้งของเขาหรือแม้แต่ผู้บริหารหลายๆ คนในมาร์คอส คิงดอมต้องอาศัยเฮลิคอปเตอร์แทบจะทุกครั้ง และแน่นอนว่าเขามีเฮลิคอปเตอร์ในครอบครองถึง 50 ลำเลยทีเดียว มาร์คอสเจ้าของฉายาเทพบุตรเถื่อนระบายยิ้มหยันออกมา ขณะเดินเข้าไปใกล้เฮลิคอปเตอร์รุ่นล่าสุดที่จอดรออยู่ด้วยท่าทางสง่างามปานราชสีห์เจ้าป่า การนัดเจรจาธุรกิจพันล้านกับลูกค้าชาวรัสเซียซึ่งเป็นเศรษฐีน้ำมันคนนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้มีอะไรผิดพลาดอย่างเด็ดขาด และเมื่อการเจรจาสิ้นสุดเขาก็จะตรงดิ่งไปที่สนามบินทันที เพื่อเหินฟ้ามุ่งสู่แผ่นดินของเมืองไทย และการแก้เผ็ดศัตรูตัวฉกาจอย่างเดนนิส โอซิลก็จะเริ่มขึ้น...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD