ตอนที่ 5

1057 Words
นี่คือวันที่สามแล้วกับการใช้ชีวิตอยู่บนความเบื่อหน่าย รู้สึกเหมือนกับตัวเองไร้ค่าเหลือเกินยามที่ไม่ได้ทำงานให้กับเดนนิสแบบนี้ แม้จะอยู่ในเพ้นเฮ้าส์เดียวกัน แต่หล่อนกับเขาก็เหมือนอยู่กันคนละซีกโลกก็ไม่ปาน เขาอยู่ขวาหล่อนอยู่ซ้าย แทบไม่ได้เห็นหน้ากันเลยด้วยซ้ำในสามวันที่ผ่านมา หล่อนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยิ่งนักเมื่อบังเอิญเห็นเขาพาสตรีไม่ซ้ำหน้าเข้าสู่ห้องนอน แม้จะรู้ดีว่าเดนนิสแค่ระบายความใคร่ไม่ได้จริงจังกับผู้หญิงเหล่านั้น แต่หล่อนก็อดรู้สึกหดหู่ไม่ได้ หล่อนไม่อยากให้เขามองผู้หญิงเป็นดอกไม้ริมทางเลย “เฮ้อ...” ไม่รู้หรอกว่ามันคือการถอนใจครั้งที่เท่าไหร่ แต่หล่อนก็ยังไม่คิดจะหยุดถอนใจออกมา แม้จะไม่ได้รู้สึกหึงหวงเดนนิสเข้าขั้นรุนแรง แต่หล่อนก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ “เลิกคิด... พเยียเลิกคิดเถอะ เขาสูงเกินไป...” ร้องบอกตัวเองเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะรีบหันหมุนตัวกลับมาเพื่อจะเดินออกจากสวนสาธารณะที่ตัวเองมานั่งจมอยู่ตั้งแต่เช้ามืดอย่างรวดเร็ว และนั่นก็ทำให้ร่างบอบบางในชุดรุ่มร่ามสีทึมของหล่อนชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่แข็งแกร่งไม่ผิดจากภูเขา รีบขยับแว่น เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่การชนกันเมื่อครู่นี้จะทำให้หล่อนตายดับ แล้วขึ้นมาเดินเล่นอยู่บนสวรรค์ได้ ก็สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ผิดจากเทพบุตรดีๆ นี่เอง เครื่องหน้าแสนสมบูรณ์แบบในกรอบผมสีน้ำตาลเข้มที่ผ่านการตัดแต่งมาอย่างดี ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมสีแทนราบเรียบราวกับหินสลัก จมูกโด่งเป็นสันชวนมอง ริมฝีปากบางเฉียบสีสดที่อยู่เหนือคางหยักบึกบึน และที่ดึงดูดสายตาที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นดวงตาสีทองวาววับที่อยู่ใต้แนวคิ้วดกยาวคู่นั้น ผู้ชายตรงหน้าช่างลึกลับพร้อมๆ กับน่าค้นหามากที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเห็นผู้ชายมาตลอดทั้งชีวิต ‘ช่างหล่อร้าย และทรงเสน่ห์เหลือเกิน’ พเยียคิดอย่างมึนเมา แค่ได้เห็นผู้ชายที่มีดวงตาสีทองตรงหน้า ภาพของเดนนิส โอซิล ที่เคยติดแหง็กอยู่ในสมองก็หลุดร่อนออกไปราวกับมันไม่เคยมีอยู่เลย นี่หล่อนกลายเป็นผู้หญิงบ้าผู้ชายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ พเยีย... เลิกมองเขาได้แล้ว หยุดจ้องหน้าเขาแบบนี้ มันน่าเกลียด น่าอาย หยุดเถอะ... ร้องสั่งตัวเองอยู่ภายในอก แต่สายตาเจ้ากรรมมันไม่ยอมเชื่อฟังเอาเสียเลย มันยังคงจ้องเอาจ้องเอาอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แบบนั้น ในโลกนี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถละสายตาจากผู้ชายที่หล่อยิ่งกว่าเทพบุตรบนชั้นฟ้าตรงหน้าของหล่อนคนนี้เลยเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขามีเสน่ห์ และพลังอย่างบางที่วิ่งเข้าชนหัวใจของหล่อนอย่างรุนแรง โอ้... หล่อนกำลังหายใจไม่ออก กำลังจะเป็นลม กับความหล่อกระชากลมหายใจของผู้ชายที่มีดวงตาสีทองอร่ามคนนี้เสียแล้ว “เอ่อ...” หญิงสาวไม่สามารถขยับตัว หรือแม้แต่จะกระพริบตาได้เลยแม้แต่น้อย หัวใจเต้นโครมครามราวกับมันจะหลุดออกมานอกอก รู้สึกเนื้อตัวร้อนผ่าว หวามไหวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ช่องท้องบีบเกร็งอย่างรุนแรง หล่อนไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังเป็นโรคอะไร รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้หัวใจใกล้จะหยุดเต้นขึ้นมาเสียทุกทีแล้ว “ขอโทษครับคุณผู้หญิง ผมซุ่มซ่ามไปหน่อย” โอ้... แม้แต่น้ำเสียงก็ยังชวนเคลิบเคลิ้มเลยให้ตายสิ รอยยิ้มบางๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเขายิ้มทำไมแม้แต่ริมฝีปากสุดเซ็กซี่คู่นั้น และมันก็มีผลทำเอาหัวใจของหล่อนเต้นระรัวมากขึ้นไปอีก “เอ่อ ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ตกใจ” จำได้ว่าตอบออกไปทั้งๆ ที่ยังจ้องเขาเขม็งราวกับไม่เคยเห็นผู้ชายมาก่อนอย่างนั้น เขายิ้มน้อยๆ แต่มันกลับสามารถเพิ่มเสน่ห์ที่มีอยู่อย่างมหาศาลอยู่แล้วให้ทวีขึ้นอีกหลายเท่าตัว “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ...” “ไม่... เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” พยายามจะปลีกตัวหนีทันทีเมื่อได้สติ แต่เหมือนพ่อรูปหล่อที่ซ่อนความอันตรายเอาไว้ในทุกซอกมุมของอารมณ์จะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ มือใหญ่สีแทนที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดที่พันแขนขึ้นไปถึงข้อศอกเอื้อมมารั้งข้อมือของหล่อนเอาไว้อย่างสุภาพ หญิงสาวตกใจ รีบผละถอยหลังหนีด้วยความไม่ไว้ใจ ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะอภิมหาหล่อแค่ไหนก็ตาม “อย่าพึ่งสิครับ ผมอยากเลี้ยงข้าวขอโทษคุณสักมื้อ” “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน” กลั้นใจปฏิเสธออกไป แม้จะเสียดายมากมายแค่ไหนก็ตาม นี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่เพียงเห็นหน้าผู้ชายคนนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น มันจะทำให้หล่อนลบเลือนภาพของเดนนิสที่ติดตรึงอยู่ในสมองมานานถึง 5 ปีให้หลุดร่อนออกไปได้อย่างง่ายดายจนน่าอัศจรรย์ใจ ไม่อยากจะเชื่อเลย หรือว่าหล่อนไม่ได้รักเดนนิส โอซิลกันแน่นะ... “รังเกียจ หรือว่ากลัวผมล่ะครับ” “เอ่อ...” พูดไม่ออกซะงั้น อยากจะบอกเหลือเกินว่าไอ้คำว่า ‘รังเกียจ’ น่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนคิดกับเขาได้หรอก แต่ไอ้คำว่า ‘กลัว’ น่ะ อาจจะใช่ ก็ดูท่าทางของผู้ชายตรงหน้านั้นช่างดูเลือดเย็น ดิบเถื่อน แถมยังซ่อนความอันตรายเอาไว้ในดวงตาสีทองอร่ามคู่นั้นอีก “ตอบมาสิครับ...” พ่อคนตัวโตขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ใกล้จนหล่อนสังเกตเห็นไรหนวดสีเขียวครึ้มที่ขึ้นอยู่ตามแนวสันกรามกระด้างชัดเจน และนั่นก็ทำให้เขาดูเถื่อนขึ้นอีกทวีคูณ “ฉันไม่... ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่ว่า...” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD