คืนนี้ทั้งคู่ตั้งใจว่าจะนอนที่บ้านริมน้ำสักคืน พรุ่งนี้เช้าเจียงหนานตั้งใจจะส่งจดหมายถึงครอบครัวที่ปักกิ่ง ไม่รู้ว่าทางนั้นจะสบายดีหรือเปล่า
แต่ที่เจียงหนานไม่รู้นั่นก็คือพี่ชายของเธอกำลังเดินทางมายังยูนนาน เพื่อเยี่ยมเธอ
เพราะพี่ชายคนโตไม่ค่อยได้อยู่บ้านจึงไม่รู้ข่าวที่น้องสาวแต่งงาน แต่เมื่อเขากลับมาถึงบ้านแม่ของเขาได้บอกข่าวดี ว่าน้องสาวแต่งงานแล้ว เขาจึงตั้งใจมาหาเธอที่ยูนาน
หลังตื่นเช้าเจียงหนานพาสามีไปดูร้านค้าที่ซื้อเอาไว้เพื่อให้เขาได้รู้ว่ามีร้านค้าอยู่ตรงไหนบ้างเผื่อมีอะไรเขาจะได้มาที่ร้านได้ถูก
" ร้านนี้ฉันตั้งใจว่าจะเปิดขายของที่มีอยู่ในมิติค่ะ แต่ว่าคงยังไม่ใช่ตอนนี้ต้องรอไปอีกสักพัก " เจียงหนานเอ่ยบอกสามี แต่สายตาของเธอเห็นป้ายกระดาษที่ติดอยู่กับร้านถัดจากนี้ไปหลายร้านซึ่งอยู่ตรงหัวมุมพอดี จึงรีบเดินไปดู
' ขายจริงๆด้วย '
เธอจดจำเอาไว้แล้วว่ามีร้านค้าที่ประกาศขายอยู่ตรงมุมนี้อีกร้าน ก่อนจะกลับยังแวะกินบะหมี่เนื้อที่ขายอยู่หน้าตลาดมืดด้วย จากนั้นก็กลับหมู่บ้านกับสามี
กลับมาถึงบ้านได้ไม่นานนักก็มีคนจากหน่วยผลิตมาตาม บอกว่ามีชายหนุ่มมาหา และข่าวนี้ก็โด่งดังไปทั้งหมู่บ้าน เพราะฟังจากปากของคนไม่หวังดี
ทันทีที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม เธอโผเข้ากอดเขาด้วยความดีใจ ชายหนุ่มที่แต่งกายดูดี ทั้งยังมองด้วยสายตาก็รู้ว่าเสื้อผ้าของเขานั้นราคาแพงหลายร้อยหยวน ชาวบ้านและยุวชนแถวนั้นต่างมองอย่างตกตะลึงที่เห็นว่าเจียงหนานโผเข้ากอด
" หนานหนาน ไม่เจอกันนานสวยขึ้นกว่าเดิมนะ " เจียงหรงเอ่ยขึ้น
" ไปที่บ้านของฉันกันดีกว่าค่ะ " เธอยังจับจูงมือของพี่ชายเดินไปยังบ้าน โดยไม่สนใจสายตาของผู้คนที่จ้องมองแม้แต่น้อย
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอสามีนั่งทำเก้าอี้อยู่พอดี เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ ชายคนนั้นเป็นใครกันทำไมภรรยาของเขาจึงได้จับจูงเช่นนั้น
" หนานหนาน นี่คือ ?"
" อ่อ นี่เจียงหรงพี่ใหญ่ของฉันเองค่ะ พี่คะนี่ฮุ่ยหมิง สามีของฉันเองค่ะพี่ "
" สวัสดีครับพี่ใหญ่ " เขาเอ่ยทักทายพี่ชายคนโตของภรรยาพลางรู้สึกโล่งใจที่ชายตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น
" อืม ยินดีที่ได้พบนะน้องเขย " เจียงหรงเอ่ยตอบน้องเขยก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
" ครับ " จากนั้นเขาจึงก้มหน้าก้มตาทำเก้าอี้ต่อจนเสร็จ ซึ่งตอนนี้สองพี่น้องนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ไม่นานนักบ้านใหญ่ก็พากันมาที่บ้านของเขา ด้วยหน้าตาที่ไม่ค่อยจะดีนัก
" พ่อแม่ พี่ใหญ่มีอะไรกันหรอครับ "
" เฮ้อ !! อาหมิงคือว่า " พ่อของเขาตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมา แม่ของเขาจึงพูดแทนเรื่องที่ได้ยินชาวบ้านนินทาเรื่องบ้านสามของพวกเขาให้ฟัง
ฮุ่ยหมิงมองหน้าพ่อแม่และพี่ชายของตน ก่อนจะยกยิ้มให้ เขาเดินไปหาภรรยาและพี่ชายก่อนจะบอกเรื่องดังกล่าวให้ทั้งสองฟัง
เจียงหนานพาพี่ชายเดินออกมาที่หน้าบ้าน ก่อนะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน
" นี่พี่ชายของฉันชื่อ เจียงหรงมาจากปักกิ่งค่ะ ส่วนนี่พ่อและแม่สามี คนนี้พี่ชายใหญ่ของสามีค่ะ"
" คนนี้คือคนที่เธอโผเข้ากอดเขางั้นหรือสะใภ้สาม "
" เอ่อ ค่ะ ฉันลืมตัวนะค่ะแม่ ปกติแล้วพวกเราในครอบครัวมักจะกอดกันเป็นประจำฉันเองลืมคิดไป มัวแต่ดีใจที่ได้เจอพี่ใหญ่ เพราะปกติเขาจะเดินทางทำการค้าตลอดไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน "
" ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกสะใภ้สามคนพวกนั้นต่างหากที่พูดจาเสียใหญ่โตหาว่าเธอเอ่อ... "
" ช่างเถอะค่ะฉันไม่สนใจคนพวกนั้นหรอกค่ะแม่ แค่ทุกคนเข้าใจและรับรู้ก็พอแล้ว " เจียงหนานเอ่ยบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา เจียงหรงที่เห็นว่าน้องสาวรู้สึกลำบากใจก็อดสงสารไม่ได้
" ไม่เป็นไรนะ "
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ใหญ่ฉันสบายดี ถ้างั้นวันนี้อยู่กินข้าวด้วยกันนะคะ พ่อแม่ พี่ใหญ่ จริงสิ พี่สะใภ้ไปไหนคะไม่มาด้วยหรอ "
"ไม่มาเธออยู่ที่บ้านน่ะ เดี๋ยวพี่ค่อยไปตามให้เธอมาช่วยทำอาหารแล้วกัน "
"ค่ะ "
" เราไปเข้าครัวกันเถอะแม่จะช่วยเธอเอง "
หลังจากที่ทั้งสองเข้าครัวไปทำอาหารแล้วสะใภ้ใหญ่ที่สามีไปตามก็มาช่วยด้วย อาหารวันนี้ทำมากหน่อยเพราะคนเยอะ เจียงหนานเข้าไปในห้องเก็บเสบียงตักข้าวใส่หม้อให้พี่สะใภ้หุงจนเกือบเต็มหม้อ แม้ว่าแม่สามีจะรู้ว่าเธอมีข้าวสารมามากแต่ก็อดจะปวดใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้นั้นไม่ประหยัดเอาเสียเลย