บทที่ 7 เกิดใหม่

1650 Words
ก่อนหน้านี้ไฉไฉได้เร่งหาหมอตำแยในเมืองหลวงมาหลายคนเพราะกำหนดคลอดของฮูหยินใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใดที่สะดวกมาทำคลอดให้ ไฉไฉย่อมรู้ว่าฮูหยินของตนเองกำลังถูกกลั่นแกล้ง ตั้งแต่เข้าจวนท่านแม่ทัพมาฮูหยินซึ่งกำลังตั้งครรภ์ก็มีชีวิตที่ยากลำบากยิ่งนัก ในขณะที่ไฉไฉกำลังจะหมดหวังท่านป้าซึ่งเป็นหมอตำแยกลับมายังเมืองหลวงเพื่อมาเยี่ยมมารดาของนางพอดี ไฉไฉจึงขอร้องให้ท่านป้าของตนมาทำคลอดให้ฮูหยิน สวรรค์ยังไม่โหดร้ายเกินไป ยังให้ทางรอดแก่แม่ลูกผู้น่าสงสารอยู่บ้าง ตั้งแต่ฮูหยินมาถึงที่จวนแม่ทัพ ไฉไฉได้รับหน้าที่ดูแลนางจากท่านแม่ทัพ ไฉไฉเป็นคนดีและคนซื่อตั้งใจปรนนิบัติฮูหยินเอกอย่างเต็มที่แม้คนอื่นจะรังแกและหลีกหนี หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้มีซินแสมาตรวจดูดวงชะตาพบว่าในวันแต่งงานรับฮูหยินรอง ไม่สามารถให้ฮูหยินเอกอยู่ในจวนได้เพราะจะทำให้ชะตาชีวิตของท่านแม่ทัพตกต่ำ ฮูหยินผู้เฒ่าเชื่อในคำทำนายนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นฮูหยินของนางจึงถูกฮูหยินผู้เฒ่าผู้เป็นใหญ่ในจวนขับไล่ให้ออกมาอยู่นอกจวน อาศัยที่เรือนหลังเล็กอันหนาวเหน็บแห่งนี้ทั้ง ๆ ที่ท้องโตใกล้คลอด บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่มาเนิ่นนานเป็นบ้านร้างที่ถูกซื้อไว้หลายปีแล้วหลายจุดจึงผุพัง ไม่มีกระทั่งเตียงอุ่นสักหลัง ฮูหยินของนางมีเงินไม่มากสินเดิมที่ได้รับมาไฉไฉก็รู้ว่าถูกพวกโจรปล้นไปจนหมด ฮูหยินมีปิ่นทองล้ำค่าที่ติดกายมาหนึ่งอันรวมกับหยกขาวห้อยเอวอยู่ชิ้นหนึ่งจึงมอบให้ไฉไฉนำไปจำนำ จึงพอมีเงินมาจ้างให้คนทำเตียงอุ่นและซื้อถ่านมาเตรียมไว้ได้บางส่วน แต่ว่าเงินมีจำนวนจำกัดไม่รู้ว่าจะสามารถผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้หรือไม่ "เจ้าเข้าไปดูแลฮูหยินเถิด พรุ่งนี้ข้าจะมาช่วยเจ้าแต่เช้า" ไฉไฉคุกเข่าลงแล้วคำนับผู้เป็นป้า "ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ" ท่านป้าหมอตำแยรีบพยุงให้ไฉไฉลุกขึ้น "เจ้าเป็นหลานข้า หากข้าไม่ช่วยเจ้านายของเจ้าพวกเราก็ไม่ต้องมานับญาติกันแล้ว อาไฉอย่างไรก็ดูแลฮูหยินให้ดี ข้าเห็นว่าคุณหนูน้อยช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ดูสิหลังถูกข้าตีแล้วจนป่านนี้ยังไม่ร้องไห้สักแอะ เหมือนจะรู้ความเกินเด็กทารกทั่วไป ใบหน้าของคุณหนูล้วนเต็มไปด้วยลักษณะผู้มีบารมี ข้าคิดว่านับจากนี้ไปชีวิตของฮูหยินอาจจะพลิกผันดีขึ้นเพราะบุตรสาวผู้นี้" อ้ายอ้ายลืมตาดูโลกได้สามวันแล้วแต่อ้ายอ้ายก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครญาติพี่น้องคนใดมาเยี่ยมนางเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นท่านพ่อของตัวเองอ้ายอ้ายก็ไม่เห็นว่าเขาจะโผล่มา อ้ายอ้ายอยากเห็นหน้าเขาคนผู้นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ใจจืดใจดำปานนั้น อ้ายอ้ายสงสารหม่าม้าเหลือเกินอยากจะพูดปลอบโยนให้หม่าม้าสบายใจแต่เพราะอ้ายอ้ายยังเป็นเด็กแรกเกิดถึงแม้ว่าจะมีหัวใจเป็นผู้ใหญ่แต่ก็ไม่อาจฝืนร่างกายที่อ่อนแอและต้องการพักผ่อนเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการตามประสาเด็กเกิดใหม่ออกมาได้ ดังนั้นทั้งวันทั้งคืนของอ้ายอ้ายก็คือการนอนและตื่นตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น อ้ายอ้ายแม้จะยังเป็นทารกแต่ก็มีเรื่องที่ชอบที่สุดแล้ว นั่นก็คือตอนนี้อ้ายอ้ายชอบเพ่งมองใบหน้าสวย ๆ ของหม่าม้ามากเป็นพิเศษ อ้ายอ้ายอยากจะพูดคุยกับหม่าม้าแต่ว่าดูเหมือนว่าร่างกายจะยังไม่พร้อมแม้อยากจะส่งเสียงแต่ก็เป็นเพียงเสียงเล็ก ๆ ที่เปล่งออกมาเท่านั้น พอพยายามพูดมากอ้ายอ้ายก็เหนื่อยจนหลับอีกแล้ว อ้ายอ้ายกินไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่เพราะว่าน้ำนมของหม่าม้ายังมาน้อยนักจึงทำให้อ้ายอ้ายตื่นขึ้นมาบ่อยครั้ง และทุกครั้งอ้ายอ้ายจะได้ยินเสียงสะอื้นและยังสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่น่าจะไหลออกมาจากดวงตาของหม่าม้าที่กำลังเป็นทุกข์ใจ อ้ายอ้ายพูดไม่ได้จึงได้แต่จับนิ้วเรียวของหม่าม้าเอาไว้แน่น สู้ สู้ นะหม่าม้า! ผู้ชายคนนั้นน่าโมโหจริง ๆ อ้ายอ้ายอยากโตไว ๆ จะสอนให้หม่าม้าปั่นหัวให้ท่านพ่อหลงรักและทิ้งเขาไปให้สำนึกคอยดู ความจริงฮูหยินในจวนใหญ่มักจะมีแม่นมคอยช่วยเลี้ยงดูบุตร แต่เพราะมารดาของอ้ายอ้ายเป็นสตรีที่มาจากสกุลศัตรูจึงถูกรังเกียจชิงชัง ที่ผ่านมาถึงจะตั้งท้องแต่กลับไม่ได้รับอาหารบำรุงร่างกายจึงทำให้มารดาผ่ายผอมครรภ์เล็กนิดเดียว แต่จากคำของหมอตำแยนั้น อ้ายอ้ายเกิดมาร่างกายสมบูรณ์อ้วนท้วนเห็นชัดว่าสารอาหารที่มารดากินเข้าไปอ้ายอ้ายได้รับมาทั้งหมด อ้ายอ้ายรู้สึกผิดที่ทำให้หม่าม้าได้รับความลำบาก แต่เอาเถิดอ้ายอ้ายจะชดเชยให้อย่างแน่นอน ระหว่างนี้ในใจของอ้ายอ้ายได้เริ่มวางแผนเอาไว้ ต้องขอบคุณความทรงจำอันดีเลิศของอ้ายอ้ายที่ทำให้จดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัชสมัยนี้ได้ ทำให้อ้ายอ้ายพอที่จะมองเห็นช่องทางสร้างโอกาสให้มารดาได้พลิกชีวิต ถึงไม่รู้ว่าจะใช้วิธีการใดแต่อ้ายอ้ายจะค่อย ๆ คิดอย่างรอบคอบและหาทางช่วยหม่าม้าด้วยสมองอันชาญฉลาดของอ้ายอ้ายเอง หลังจากหลับไปได้ราวหนึ่งชั่วยามอ้ายอ้ายก็ส่งเสียงร้องอ้อแอ้เบา ๆ เมิ่งสืออีเพียงได้ยินเสียงเล็ก ๆ ครั้งเดียวนางก็ลืมตาตื่นระยะนี้นางต้องอยู่ไฟและยังขยับตัวลำบากจึงได้ร้องเรียกให้สาวใช้ไปอุ้มลูกที่นอนอยู่บนที่นอนมาให้นาง "บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ" ไฉไฉเข้ามาพร้อมกับถ้วยกระเบื้องสีดำที่ด้านในมีน้ำนมขาวอยู่ในมือ "ฮูหยินบ่าวได้น้ำนมแพะมาแล้วเจ้าค่ะ บ่าวอุ่นเรียบร้อยแล้วฮูหยินไม่ค่อยมีน้ำนมคุณหนูก็ตื่นบ่อยสงสัยคงเป็นเพราะกินไม่อิ่ม" เมิ่งสืออีเอ่ยว่า "หมอตำแยจัดยาเอาไว้ให้ข้าแล้วเพื่อเพิ่มน้ำนม ยังบอกว่าให้อดทนสักหลายวันหน่อยหากข้าขยันให้อีเจี่ยเอ๋อร์ดูดเต้าไม่นานน้ำนมจะมาเอง" ไฉไฉวางถ้วยน้ำนมเอาไว้บนโต๊ะตัวเล็กใกล้ ๆ กับเตาผิงไฟด้วยความระมัดระวัง ความจริงที่ไฉไฉไม่อยากให้คุณหนูดื่มนมจากเต้าของฮูหยินเพราะเกรงถันจะเสียทรงและไม่ได้รับความโปรดปรานจากนายท่านอีกจะมีฮูหยินบ้านใดบ้างที่ป้อนนมให้บุตรด้วยตัวเองเช่นนี้ แต่เมื่อคิดดูแล้ว รักษาตัวเองเพื่อชายที่ไม่ได้รักจะมีประโยชน์อันใด เช่นนั้นไฉไฉก็เลยไม่คะยั้นคะยอฮูหยินอีก นางขยับไปอุ้มเด็กน้อยที่ตื่นแล้ว และดวงตากลมโตคู่งามของคุณหนูยังจ้องหน้าไฉไฉไม่วางตา ไฉไฉยิ้มด้วยความรู้สึกเอ็นดูยิ่งนัก "คุณหนูคงรู้ว่าฮูหยินลำบาก ตั้งแต่คลอดออกมาวันนั้นบ่าวยังไม่เห็นว่าคุณหนูจะร้องงอแงเหมือนเด็กเล็ก ๆ ทั่วไป เพียงแต่ส่งเสียงอ้อแอ้เบา ๆ เท่านั้น" เมิ่งสืออียิ้มเล็กน้อย "ส่งอีเจี่ยเอ๋อร์มาให้ข้าเถิด" หลังจากรับลูกมานางก็ขยับหันหลังให้ไฉไฉแล้วให้ลูกดื่มนมจากเต้าของตนเองทันที อ้ายอ้ายอ้าปากกว้างงับปลายถันของมารดาเอาไว้แล้วเริ่มออกแรงดูด เมิ่งสืออีรับรู้ได้ถึงสายธารอุ่นสายหนึ่งกำลังไหลออกจากเต้าของตนเองผ่านไปยังปลายถันเข้าสู่ปากของลูกน้อย ช่างเป็นความรู้สึกที่ละมุนละไมยิ่งนัก ทุกครั้งที่บุตรสาวดื่มนมก็มักจะจับนิ้วของนางเอาไว้แน่นแล้วดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องมาที่ใบหน้าของนางราวกับต้องการจะให้กำลังใจให้นางมีแรงสู้ต่อไป ไฉไฉเห็นเมิ่งสืออีให้นมลูกด้วยตัวเองอีกแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจยาว "ไม่ลองให้ดื่มนมแพะสักหน่อยหรือเจ้าคะ" เมิ่งสืออีส่ายหน้า "ข้าเชื่อท่านหมอตำแย อดทนอีกสักหน่อยน้ำนมต้องไหลออกมาอย่างแน่นอน เจ้าดูบุตรสาวของข้าสิ แม้จะกินนมไม่ค่อยอิ่มก็ยังไม่ค่อยงอแง อีเจี่ยเอ๋อร์เป็นทารกแรกเกิดยังรู้จักอดทนข้าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด" สิ้นคำนี้ของนางเมิ่งสืออีรู้สึกว่ามือเล็กป้อมของบุตรสาวกำมือนางแน่นขึ้น เหมือนจะย้ำว่านางเข้าใจถูกแล้ว เมิ่งสืออีประหลาดใจยิ่งนัก เด็กตัวแค่นี้จะเข้าใจคำที่นางเอ่ยจริงหรือ เพราะต้องเป็นแม่คนนางจึงศึกษามาไม่น้อยว่าทารกแรกเกิดขยับตัวได้เล็กน้อย ยังมองไม่ค่อยเห็นและไม่เข้าใจภาษาดังนั้นนางจึงแปลกใจที่เห็นบุตรสาวเป็นเช่นนี้ อ้ายอ้ายดื่มนมไปก็ร้องอืออาในลำคอสลับกันไป วันนี้น้ำนมของมารดาไหลแรงขึ้นถึงแม้จะยังน้อยแต่นางก็รู้สึกว่าตัวเองได้กินเต็มปากเต็มคำกว่าสองวันที่ผ่านมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD