EP.5 พินัยกรรมโลกแตก
ทริบเฟนนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิดหรือกำลังโกรธจนแทบพูดไม่ออกก็ไม่อาจรู้ได้ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นมีแววโศกเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ในที่สุดเขาจะตัดสินใจตอบออกมา
“ผมไม่มีทางเลือก คุณพ่อบีบผมจนถึงขนาดนี้แล้ว คุณคิดว่าผมยังมีสิทธิ์ปฏิเสธอยู่อีกหรือไง” ทริบเฟนกัดฟันเข้าหากันเป็นสันนูนด้วยความกรุ่นโกรธแต่ไม่สามารถโวยวายอะไรได้ เพราะตัวต้นเรื่องได้นั่งหัวเราะอยู่บนสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
“ตกลงตามนั้นนะครับ คุณทริบเฟนและคุณคุนไซต์ตกลงทำตามพินัยกรรม มาถึงข้อสุดท้ายแล้วครับ” เอ็ดการ์ดยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะก้มลงอ่านพินัยกรรมอีกครั้ง
‘ส่วนแกฮิดเดนไนต์ แกกับฉันมันไม้เบื่อไม้เมามาโดยตลอด คุยกันได้ไม่เคยเกินห้านาทีต้องทะเลาะมีปากเสียงกันแทบทุกครั้ง สำหรับแกฉันขอสั่งให้แกนั่งตำแหน่งประธานบริษัททริสตันแทนคุนไซต์เป็นเวลาหกเดือน และต้องทำผลกำไรให้ขยับขึ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว โดยฉันขอแต่งตั้งให้ช่อทับทิมเลขาที่ฉันไว้วางใจมากที่สุดเป็นคนควบคุมความประพฤติและสอนงานแก หากแกไม่ทำตามแกจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกทันที’
“คิดว่าผมจะต้องทำตามงั้นเหรอ ตอนคุณพ่อทำพินัยกรรมท่านต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ”
ฮิดเดนไนต์โวยลั่นทันที เขาเกลียดการถูกบังคับและคำสั่งที่สุด แล้วดูเหมือนว่าท่านจะรู้จักนิสัยเขาในข้อนี้ดีท่านจึงใช้คำว่า ‘สั่ง’ ในพินัยกรรมในขณะที่เนื้อความในจดหมายถึงพี่ชายอีกสองคนท่านใช้คำว่า ‘ขอ’ นี่แสดงว่าบิดาพยายามจะยั่วโมโหให้เขาต่อต้าน ท่านต้องการอะไรกันแน่
“นั่นสิครับคุณเอ็ดการ์ด จะให้ฮิดเดนไนต์บริหารบริษัททริสตันได้อย่างไร ในเมื่อฮิดเดนไนต์ไม่เคยบริหารงานมาก่อน” คุนไซต์เอ่ยค้าน ทั้งชีวิตของเขาทุ่มเทให้กับการพัฒนาบริษัท เขาคงทนไม่ได้แน่ถ้าน้องชายคนเล็กจะเข้ามาบริหารงานแล้วทำให้มันพังลงภายในหกเดือน
“ฉันก็ขอค้านค่ะ นี่นะหรือคะธุระที่คุณทนายเรียกดิฉันมา ฉันขอตัวนะคะฉันไม่คิดสอนงานให้กับคนไม่เอาไหนอย่างนายคนนี้แน่ เสียเวลาและเสียมันสมองเปล่าๆ ค่ะ ขอตัวนะคะ” ช่อทับทิมลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวกำลังจะเดินออกไปจากห้องรับแขก เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง
“คิดว่าฉันอยากให้ผู้หญิงอย่างเธอมาสอนนักหรือไง ให้ฉันอยู่ใกล้ผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนนางชีแถมขี้เหร่อย่างเธอ ให้ฉันขาดใจตายตรงนี้เสียยังดีกว่า” ฮิดเดนไนต์โวยขึ้นแล้วเมินหน้าหนี ทำกิริยาอย่างที่เธอทำกับเขาก่อนหน้านี้ เป็นการเอาคืนที่ทำให้ช่อทับทิมถึงกับเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง
“นี่นาย!”
ช่อทับทิมตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คนสวยแต่นายปากกรรไกรนี่ก็ไม่ควรมาดูถูกเธอ จริงอยู่ที่เขาหล่อ...หล่อมากจนเธอเกือบจะเผลอเคลิ้มไปกับความหล่อเหลาของเขา แต่หากได้ยินกิตติศัพท์เหม็นโฉ่มั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแล้วละก็ เธอบอกตัวเองเลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจที่สุดในโลก
“เดี๋ยวก่อนครับอย่าเพิ่งทะเลาะกัน ผมยังอ่านพินัยกรรมไม่จบ” เอ็ดการ์ดขัดขึ้น
“ฉันขอตัวค่ะ พินัยกรรมนี่ไม่เกี่ยวกับฉัน” ช่อทับทิมสะบัดหน้า
“เกี่ยวสิครับ เพราะคุณบานเนอร์เขียนถึงคุณ”
“อะไรนะคะ!”
ช่อทับทิมไม่คิดว่าเจ้านายจะเขียนถึงเธอ หญิงสาวจึงนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ ตั้งใจว่าหากเขามอบสมบัติหรือเงินให้เธอแม้แต่เซนต์เดียวเธอจะปฏิเสธทันที เธอทำดีกับบานเนอร์โดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน เธอแค่สงสารชายชราสูงอายุที่มีดวงตาเศร้าและขี้เหงาก็เท่านั้นเอง บานเนอร์ทำให้เธอคิดถึงคุณปู่ของเธอที่เสียชีวิตไปร่วมสิบปี เธอผูกพันกับปู่มากและนั่นจึงเป็นสาเหตุให้เธอเข้าใจบานเนอร์กว่าใคร
“เมียน้อยคุณพ่อจะได้สมบัติสักกี่ชิ้นน้า”
ทายาทคนเล็กไม่วายค่อนขอดเลขาสาว คุนไซต์ส่ายศีรษะให้กับความปากร้ายของน้องชายคนเล็ก ส่วนทริบเฟนนั้นนั่งนิ่งมาได้สักพักแล้ว ราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ ซึ่งเดาได้เลยว่าเรื่องนั้นคงเป็นเรื่องของ ‘หยกทิพย์’ อย่างไม่ต้องสงสัย
‘ช่อทับทิม...ฉันขอบคุณหนูมากนะที่คอยอยู่เป็นเพื่อนทานข้าวกับคนแก่อย่างฉัน ถ้าฉันมีลูกสาวฉันก็อยากได้ลูกสาวที่น่ารักเหมือนหนู เสียดายที่ฉันมีแต่ลูกชายถึงสามคน หนูเหมือนดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ แค่ฉันอยู่ใกล้หนูฉันก็รู้สึกได้ถึงความสุข ฉันไม่กล้ามอบอะไรให้หนูเพราะรู้ว่าหนูไม่รับอะไรจากฉันแน่ ดังนั้นฉันจึงอยากจะเป็นฝ่ายขออะไรจากหนูแทน ช่วยสอนงานลูกชายหัวดื้อของฉันด้วยเถอะนะ ลูกชายของฉันมันปากร้ายแต่มันไม่มีพิษภัย ฉันขอร้อง...ถือว่านี่เป็นคำขอครั้งสุดท้ายจากฉัน’
เมื่อได้ฟังดังนั้นช่อทับทิมก็เบือนใบหน้าไปอีกทางเพื่อแอบเช็ดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอหน่วยตา ก่อนจะหันมาหาทนายสูงวัย “ฉันตกลงค่ะ ฉันไม่อาจปฏิเสธคำขอครั้งสุดท้ายของคุณบานเนอร์ได้”
“แต่ผมไม่ตกลง ผมไม่มีวันทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้แน่” ฮิดเดนไนต์สวนขึ้นทันควัน
“ในพินัยกรรมระบุว่าหากคุณฮิดเดนไนต์ไม่ตกลงให้ยกเลิกเงื่อนไขของคุณคุนไซต์และทริบเฟนทันทีครับ” เอ็ดการ์ดก้มลงกวาดสายตาอ่านพินัยกรรมก่อนจะสรุปย่อๆ ให้หนุ่มๆ ทริสตันได้ฟัง
“ถ้าแบบนั้นก็ดีสิ แสดงว่าพินัยกรรมบ้าๆ นี่เป็นโมฆะใช่มั้ย” ทริบเฟนรีบเอ่ยถามทันที
“เปล่าครับไม่ได้เป็นโมฆะ แต่หมายความว่าหากคุณฮิดเดนไนต์ไม่ทำตามที่ระบุในพินัยกรรม จะถือว่าภารกิจของคุณคุนไซต์และคุณทริบเฟนไม่สำเร็จ คุณทั้งสามจะถูกตัดออกจากกองมรดกทันที คุณคุนไซต์จะไม่มีสิทธิ์ในบริษัททริสตันอีก และมูลนิธิทริสตันก็จะยกเลิกงบสนับสนุนโรงพยาบาลทันทีครับ สมบัติทั้งหมดจะถูกโอนเป็นของมูลนิธิทริสตันเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม พวกคุณจะต้องย้ายออกจากคฤหาสน์ภายในสามวันนับจากนี้ครับ”
“แสบมาก ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณพ่อเป็นจอมวายร้าย” คุนไซต์โวยขึ้นอย่างเหลืออด ด้วยไม่เคยคิดว่าบิดาจะเจ้าแผนการและร้ายกาจถึงเพียงนี้
“นายจะว่ายังไงฮิดเดนไนต์” ทริบเฟนเอ่ยถาม เมื่อชะตาของโรงพยาบาลอยู่ในมือของน้องชายคนสุดท้องของตระกูล