EP.4 พินัยกรรมโลกแตก

1210 Words
EP.4 พินัยกรรมโลกแตก “อ่านต่อเถอะครับคุณเอ็ดการ์ด ผมอยากรู้ว่าคุณพ่อจะเล่นอะไรกันแน่” ฮิดเดนไนต์เหยียดตัวเอนพิงพนักโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย ต่างจากพี่ชายอีกสองคนที่นั่งตัวตรงขึ้งเครียดอย่างเห็นได้ชัด “ผมขออนุญาตอ่านต่อนะครับ” เอ็ดการ์ดกระแอมเบาๆ อีกครั้งก่อนจะเริ่มอ่านพินัยกรรมบรรทัดต่อไปจากที่อ่านค้างไว้ ‘คุนไซต์แกเป็นลูกชายคนโตที่มีความสามารถ แกทำงานเก่งจนฉันไว้วางใจมอบตำแหน่งประธานบริษัทให้แก ดังนั้นฉันขอให้แกพักงานจากตำแหน่งประธานบริษัททริสตันเป็นเวลาหกเดือนเพื่อเดินทางไปที่เกาะร้อยรัก แกต้องกว้านซื้อที่ดินครึ่งเกาะมาเป็นของทริสตันให้ได้ หากแกทำไม่ได้นั่นหมายความว่าแกจะถูกตัดชื่อออกจากกองมรดกรวมทั้งตำแหน่งประธานบริษัท และฉันจะยกบริษัททริสตันให้กับบริษัทมิราเคิลทันที’ “นี่มันเรื่องบ้าอะไร คุณพ่อต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คุณพ่อก็รู้ว่าทริสตันเป็นศัตรูกับมิราเคิลมาสามชั่วอายุคนแล้ว” คุนไซต์รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาพอรู้มาบ้างว่าเกาะร้อยรักมีขนาดเล็กมาก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย และกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของเกาะเป็นที่ดินของเอื้องมณีมารดาของเขานั่นเอง นั่นแสดงว่าบิดาต้องการให้เขาไปขอซื้อที่ดินต่อจากมารดางั้นเหรอ บิดาคิดอะไรอยู่ทำไมถึงต้องทำให้เรื่องราวมันวุ่นวายด้วย “เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ เป็นความประสงค์ของคุณบานเนอร์ ผมมีหน้าที่เพียงทำตามความต้องการของท่านเท่านั้น” เอ็ดการ์ดพูดราวกับไม่ตกใจเนื้อความในพินัยกรรมแม้แต่น้อย นั่นเพราะว่าขณะที่บานเนอร์ทำพินัยกรรมเขาได้นั่งอยู่ด้วย และรับรู้ว่าบานเนอร์ต้องการอะไรจากพินัยกรรมฉบับนี้ ซึ่งเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง “แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็อยากพบคุณแม่ เผื่อว่าจะชวนท่านกลับมาอยู่กับเราที่นี่ ปีนี้ท่านคงอายุห้าสิบแปด ปีแล้ว อายุมากแบบนั้นให้อยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่” เขาเริ่มมองเห็นข้อดีของภารกิจที่บิดามอบหมายให้ในครั้งนี้ อันที่จริงเขาไม่อยากได้เงินทองของบิดาเลยแม้แต่เซนต์เดียว นั่นเพราะเขาเองได้เปิดบริษัทเดินเรือโดยร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทที่ฝรั่งเศส บริษัทของเขากำลังไปได้สวยและขยายสาขาไปยังออสเตรเลียในปีหน้า แต่ที่เขาไม่ยอมปล่อยมือจากบริษัททริสตันนั่นก็เพราะว่าบริษัทนี้เป็นมากกว่ากิจการของครอบครัว แต่มันคือจิตวิญญาณของบรรพบุรุษกว่าหลายชั่วอายุคนที่ฝ่าฟันสร้างบริษัททริสตันขึ้นมา นับตั้งแต่ทริสตันยังเป็นเพียงแค่ร้านเครื่องประดับเล็กๆ ที่ผลิตเครื่องประดับให้แก่ขุนนางในอังกฤษและฝรั่งเศส ทริสตันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรุ่นบิดาของเขาที่ย้ายบริษัททริสตันมาที่อเมริกา จากนั้นทริสตันก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก จนบริษัทอัญมณีแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลทริสตันไปเสียแล้ว “หากเป็นเช่นนั้น...คุณเอื้องมณีคงดีใจมากครับ ผมขออนุญาตอ่านต่อนะครับ” ‘ส่วนแกทริบเฟน ฉันมีหน้าที่สำคัญจะมอบให้แกช่วยจัดการ แกจำ ‘หยกทิพย์’ อดีตสาวใช้ในคฤหาสน์ของเราได้มั้ย หยกทิพย์ตั้งท้องหนูพัดพารัดชา ตอนนี้เด็กคนนั้นอายุ ห้าขวบแล้ว ฉันอยากให้แกไปจัดการนำตัวหนูพัดพารัดชากลับมาดูแล ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม หากแกทำไม่สำเร็จภายในหกเดือนแกจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกทันที’ ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางคฤหาสน์ ใบหน้าของนายแพทย์ซีดเผือดเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่ใบหน้าจะแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธจนแทบควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ “เชิญเลย ผมไม่เคยคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติบ้าบอนี่อยู่แล้ว” นายแพทย์หนุ่มถึงกับโกรธจนฟิวส์ขาด บิดาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาเกลียดผู้หญิงแพศยาอย่างหยกทิพย์มากแค่ไหน ผู้หญิงที่ยอมพลีกายให้กับเขาเพียงเพื่อจะหวังใช้เขาเป็นสะพานทอดไปหาบิดา ฮึ! นี่คงจงใจปล่อยให้มีลูกแล้วหนีไปสินะ คงหวังว่าเด็กคนนั้นจะมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติมหาศาล ผู้หญิงไร้ยางอาย เขาจะไม่มีวันให้เธอสมหวังเป็นอันขาด “คุณทริบเฟนไม่ทำตามที่ระบุในพินัยกรรมก็ได้ครับ ผมจะได้ตัดชื่อคุณออกจากกองมรดก” ทนายเอ็ดการ์ดเอ่ยขึ้น “เฮ้ย! ทริบเฟนนายคิดดีแล้วเหรอ” คุนไซต์ท้วงน้องชายคนรองด้วยไม่อยากให้ใช้อารมณ์จนตัดสินใจพลาด เป็นอันรู้ดีว่าทริบเฟนมีความหลังฝังใจกับหยกทิพย์ รักแรกและรักครั้งเดียวของนายแพทย์หนุ่มที่เอาแต่อ่านตำราจนไม่มีเวลามองผู้หญิงคนไหน เมื่อหยกทิพย์หักหลังทริบเฟนด้วยการคบหากับบิดา ทริบเฟนก็ออกจากบ้านนับแต่นั้นและไม่เคยพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อหยกทิพย์อีกเลย แต่เขามองว่ามันมีเงื่อนงำแปลกๆ เพราะหลังจากทริบเฟนออกจากบ้าน หยกทิพย์ก็หอบเสื้อผ้าหนีไป ไม่ได้ใช้ชีวิตเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองเป็นคุณนายทริสตันอย่างที่ทุกคนเข้าใจเลยแม้แต่น้อย บิดาเองก็ไม่ส่งคนออกตามหาและไม่เคยพูดถึงหยกทิพย์อีกเลยเช่นกัน “ผมคิดดีแล้ว ผมไม่เคยต้องการทรัพย์สมบัติครับพี่คุนไซต์ พี่เป็นคนบริหารบริษัททริสตันพี่สมควรได้มันมากกว่าผม” ทริบเฟนตอบฉะฉานไม่มีแววลังเลในดวงตาสีดำนิลของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นแพทย์ผ่าตัดหัวใจ เขามีอุดมการณ์ในวิชาชีพ และเขาไม่เคยหวังลาภยศเงินทอง “แต่...” ทนายสูงวัยเอ่ยขึ้นก่อนจะยิ้มให้กับทริบเฟน “คุณบานเนอร์เขียนเอาไว้ว่านอกจากคุณทริบเฟนจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกแล้ว เงินสนับสนุนที่ทางทริสตันมอบให้แก่โรงพยาบาลเดือนละกว่าหนึ่งแสนดอลลาร์ก็จะถูกยกเลิกโดยถาวร” “อะไรนะ!” ทริบเฟนผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่อยากเชื่อว่าบิดาจะเอาเรื่องนี้มาต่อรองกับเขา โรงพยาบาลรัฐอยู่ได้ด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาลและเอกชน ซึ่งโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่นั้นเงินสนับสนุนหลักมาจากมูลนิธิทริสตันที่บิดาเป็นคนก่อตั้ง หากว่าบิดาตัดงบสนับสนุนโรงพยาบาลออก ผู้ป่วยก็ต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่ต้องเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว “ว่าอย่างไรครับคุณทริบเฟน คุณจะทำตามที่คุณบานเนอร์ระบุไว้ในพินัยกรรมหรือเปล่าครับ” เอ็ดการ์ดเอ่ยถามซ้ำอย่างรู้คำตอบดีว่านายแพทย์หนุ่มไม่มีทางปล่อยให้โรงพยาบาลและผู้ป่วยต้องแบกรับปัญหานี้อย่างแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD