4 โตแต่ตัว

1441 Words
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะคะ?” เพลงพิณที่เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาเจอเข้ากับคุณหญิงพิณพานที่นั่งหอบเหนื่อยหน้าเครียดเลยถามขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหามารดาอย่างเป็นห่วง “พิณ กลับมาแล้วเหรอลูก แม่คิดว่าลูกจะกลับมาอาทิตย์หน้าซะอีก” พอเจอหน้าลูกสาวคนโต สีหน้าของคุณหญิงพิณพานก็ดีขึ้นทันที “พอดีอีกที่ที่จะไปเกิดจลาจลน่ะค่ะ พิณเลยตัดสินใจกลับบ้าน ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?” “เฮ้อ...ก็น้องสาวตัวดีของเราน่ะสิ...อย่าไปบอกคุณพ่อนะ ยัยเพลงน่ะแอบหนีเที่ยวอีกแล้ว ครั้งนี้ไปทั้งคืน พึ่งกลับมาเมื่อไม่กี่นาทีนี่เอง...แม่ล่ะเป็นห่วงเหลือเกิน โตป่านนี้แล้วยังไม่รู้จักคิดอีก” “โธ่ คุณแม่คะ เพลงน่ะ 20 แล้วนะคะ ปล่อยแกบ้างก็ได้” “ถ้ายัยเพลงทำตัวเหมือนอายุก็ดีน่ะสิ ชอบไปกินเหล้าแล้วก็ทำเรื่องกลับมาตลอด คุณพ่อต้องเดือดร้อนและอับอายขนาดไหนที่ต้องแบกหน้าไปโรงพักเพื่อประกันตัว เฮ้อ จริงๆเลย” “เดี๋ยวพิณพูดกับน้องเอง คุณแม่อย่าเครียดเลยนะคะ” พอได้ยินแบบนั้น คุณหญิงพิณพานก็มีสีหน้าดีขึ้น เพราะเพลงขวัญมักจะเชื่อฟังพี่สาวอยู่เสมอ “ว่าแต่ลูก...กลับมาแสดงว่าพร้อมเข้าไปทำงานกับคุณพ่อแล้วใช่ไหม?” “ค่ะ พิณสัญญาเอาไว้แล้วไงคะ ถ้ากลับมาพิณจะเข้าไปทำงานที่บริษัท” “ดีแล้วลูก คุณพ่อจะได้เลิกบ่นสักที แค่บ่นเรื่องของยัยเพลงแม่ก็จะบ้าอยู่แล้ว” “ค่ะ...งั้นพิณขอตัวเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนนะคะ” “เดี๋ยวแม่ให้เด็กขึ้นไปช่วย” และพอพูดคุยกับมารดาเสร็จ เพลงพิณก็ขอตัวขึ้นห้อง แต่พอขึ้นมาชั้นบนเธอก็เดินไปยังห้องนอนของน้องสาวแทน ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เพลงไม่เปิดให้คุณแม่หรอกค่ะ” “นี่พี่เอง” “พี่พิณ!...” เพลงขวัญที่พอรู้ว่าเป็นเพลงพิณก็รีบเดินมาเปิดประตูให้ ก่อนจะรีบโผกอดพี่สาวอย่างคิดถึง “อะไรกัน ได้ยินว่าเถลไถลทั้งคืนเลยเหรอเรา” “โธ่ ก็แค่ไปเที่ยวกับเพื่อนเอง...” “แค่นั้นจริงๆเหรอ หืม?” ‘อะไรกัน พี่พิณมีจิตสัมผัสรึไงเนี่ย!’ เพลงขวัญถึงกับไปไม่เป็น เพราะเธอไม่เคยปิดบังพี่สาวได้เลยจริงๆ “พี่จะไม่ถามแล้วกันว่ามีเรื่องอะไร ยังไงเราก็โตแล้วจะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ พึ่งกลับมา เหนื่อยมากเลย” “ค่ะ...” เพลงขวัญถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่พี่สาวไม่คาดคั้นต่อ ส่วนเพลงพิณนั้นแค่มองก็รู้แล้วว่าน้องสาวมีเรื่องไม่สบายใจ เธอไม่อยากถามเซ้าซี้อยากให้เพลงขวัญได้เผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิตบ้างก็เท่านั้น “ยัยเพลง! เมื่อคืนวานแกหายไปไหนมาห๊ะ! รู้ไหมว่าฉันตามหาแกแทบพลิกแผ่นดิน!” พอเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัย เสียงของนิน่าก็ดังขึ้น ทำเองเพลงขวัญถึงกับสะดุ้งตกใจ เมื่อลืมไปเลยว่ายังมีนิน่าอีกคนที่เธอต้องปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น “แกจะเสียงดังทำไม” เพลงขวัญพูดขึ้นพร้อมกับหลบตา “อะไรกัน แกทำตัวแปลกๆนะ” “แปลกอะไร วันนั้นฉันก็แค่รู้สึกเมาเลยเรียกรถมารับที่ผับก็เท่านั้น” “แกก็น่าจะบอกฉันก่อนสิ ฉันนึกว่าแกเมาแล้วสร้างปัญหาอีก เกิดใครลากแกไปทำมิดีมิร้ายฉันจะทำยังไง” ‘ยัยนี่พูดเหมือนรู้อีกคนแล้ว หรือว่าเรามีพิรุธขนาดนั้น...’ เพลงขวัญเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอจะเก็บความลับที่สาบานเอาไว้ได้เมื่อแค่คนสนิทมองมาที่เธอก็ต่างพากันดูออกแล้วว่าเธอไม่ปกติ “พูดเพ้อเจ้อ! ไปๆ เข้าเรียนเถอะๆ” เพลงขวัญรีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับลากนิน่าเข้าห้องเรียน เมื่อชีวิตของเธออยู่กับสิ่งที่ได้รู้มา เธอจะไม่มีทางเล่าหรือบอกใครเด็ดขาด ใครจะเป็นจะตายมันไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด “ไปเรียกพิณมาที่ห้องประชุมใหญ่หน่อยไป ฉันมีลูกค้าคนสำคัญอยากให้รู้จักพอดี” “ค่ะ เจ้าสัว” เจ้าสัวสัญชัยหันไปบอกเลขาส่วนตัว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ด้วยสีหน้าอันแสนจะมีความสุข เพราะลูกสาวคนโตอย่างเพลงพิณนั้นสุดท้ายก็ยอมเข้ามาเรียนรู้งานในบริษัทได้สักที “ขอโทษที่ให้รอนาน พอดีผมมีสายด่วนจากต่างประเทศมา” “ไม่เป็นไรครับ ผมมาก่อนเวลาเอง” “นั่งก่อนๆ คุณเมฆาอุตส่ามาเยือนบริษัททั้งทีผมต้อนรับได้แค่นี้ต้องขอโทษด้วย” เจ้าสัวสัญชัยพูดขึ้นอย่างรู้สึกเสียดาย เพราะถ้าเขารู้ว่าเมฆาจะตอบตกลงมาคุยธุรกิจด้วย เขาคงให้เพลงพิณเป็นคนมาต้อนรับเมฆาไปแล้ว “คะ? คุณพ่อให้ไปหา มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?” “พอดีมีแขกคนสำคัญมา เจ้าสัวอยากให้คุณพิณไปทำความรู้จักเอาไว้น่ะค่ะ” “อ้อ ได้สิคะ” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เพลงพิณก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามเลขาของบิดาไป และพอมาถึงเธอก็เหมือนจะพอเข้าใจกับสิ่งที่บิดาต้องการ “อ่าว มาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่ๆ มารู้จักคุณเมฆาเอาไว้” เสียงของเจ้าสัวสัญชัยบอกขึ้นทันทีที่เห็นบุตรสาวคนโตเดินเข้ามา “นี่เพลงพิณ ลูกสาวคนโตของผม...ส่วนนี่คุณเมฆา เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทเรา” เจ้าสัวสัญชัยเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน เมื่อเขาเคยพูดเอาไว้ว่าอยากได้คนแบบเมฆามาเป็นลูกเขย เขาจะได้ตายตาหลับเพราะมีคนที่มีอำนาจและอิทธิพลแบบนี้มาคอยดูแลครอบครัวของเขาต่อ และก็เหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อเพลงพิณเองก็ยังไม่มีแฟน แถมทั้งสองยังดูเหมาะสมกันอีก “ยินดีที่ได้รู้จักครับ...คุณเพลงพิณ...” เมฆาพูดขึ้นพร้อมกับมองเพลงพิณอย่างพึงพอใจ “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” เพลงพิณเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อเมฆาทั้งหล่อทั้งดูสมาร์ท แถมท่าทางดูเป็นผู้นำจนอดชื่นชมไม่ได้อีก “อีกไม่นานผมคิดว่าจะวางมือ และคงยกหน้าที่ทุกอย่างให้กับพิณดูแล ส่วนอีกคนหนึ่งยังเรียนไม่จบเลย ฮ่าฮ่าฮ่า” เจ้าสัวสัญชัยพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อแค่นี้ก็เริ่มมีความหวังแล้วเพราะท่าทีของทั้งสองที่มีต่อกันดูจะเข้ากันได้อย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้นการเจรจาธุรกิจก็เริ่มขึ้น เมฆาอดทึ่งกับความสามารถของเพลงพิณไม่ได้เมื่อเขารู้มาว่าเธอพึ่งเริ่มเข้ามาเรียนรู้งานแท้ๆ แต่กลับตอบคำถามและเจรจาธุรกิจกับเขาได้อย่างฉะฉาน “ถ้าเย็นนี้คุณว่าง เราไปทานอาหารเย็นด้วยกันสักมื้อเป็นไง” เจ้าสัวสัญชัยพูดขึ้น หลังจากพูดคุยเรื่องธุรกิจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “วันนี้ผมคงต้องขอตัว พอดีมีงานต้องไปทำต่อ เอาไว้ผมจะให้คนติดต่อมานะครับ” “ได้สิ วันไหนก็ได้ ใช่ไหมลูก” “ค่ะ...” เพลงพิณตอบรับอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเธอรู้สึกถูกใจในตัวของเมฆาเช่นกัน จากนั้นเมฆาก็ขอตัวกลับเพราะเสร็จงานจากบริษัทของเจ้าสัวสัญชัยแล้วเขาก็ต้องกลับไปทำงานที่บริษัทของเขาต่อ “เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?” พอขึ้นมาบนรถเขาก็ถามขึ้น ทำเอาตะวันถึงกับไม่เข้าใจที่เจ้านายถาม “เด็ก...เอ่อ ใครครับ...” “เด็กนั่นไง!” “................” เมฆาถึงกับหันไปมองลูกน้องคนสนิทอย่างหัวเสีย ทำเอาตะวันรีบก้มหน้าหลบเมื่อเขาไม่รู้จริงๆว่าเจ้านายพูดถึงใคร “คนที่ฉันให้นายส่งคนไปตามดู ทีนี้จำได้รึยัง” “อ้อออ ครับ ไม่เห็นมีรายงานมา น่าจะไม่มีอะไรผิดปกติครับ” “ไม่รายงานก็ไม่ใช่ว่าไม่มี” พูดจบเมฆาก็หันหน้าหนีไปมองทางอื่น ส่วนตะวันก็รู้ในทันทีว่าเจ้านายต้องการอะไร เขาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาลูกน้องที่ให้ไปคอยดูเพลงขวัญทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD