SENIORS 27
****************************
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
“น้ำครับ” พี่อาร์ยื่นน้ำให้ฉันที่นั่งรอเขาอยู่ที่ม้านั่งที่สวนสาธารณะ
“เหนื่อยอ่ะ”
“เราเพิ่งวิ่งไม่ถึงสิบนาทีเลยนะทำไมเหนื่อยเร็วจังครับ”
“ก็คนไม่เคยออกกำลังกายนี่คะ”
“แต่ก็ยังหุ่นดีน่าเอานะครับ”
“พี่อาร์!!!”
“ขอโทษครับ น้ำครับ”
วันนี้พี่อาร์ชวนฉันมาวิ่งกับเขาฉันเองก็ไม่มีอะไรทำเลยลองมาวิ่งดู เชื่อหรือเปล่าว่าฉันไม่เคยออกกำลังกายอะไรเลย
พอมาเริ่มออกวิ่งไม่ถึงสิบนาทีฉันก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อยแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันฉันตายแน่
ส่วนพี่อาร์ก็ให้ฉันนั่งรอเขาวิ่งก่อน เขาสามารถวิ่งเป็นชั่วโมงได้โดยที่ไม่หยุดเลย ถึงว่าแหละทำไมเขาถึงหุ่นดีมากขนาดนี้
ที่จริงเขาก็ชวนฉันไปว่ายน้ำนะแต่ฉันว่ายน้ำไม่เป็นเลยไม่ได้ไปกับเขา เขาก็เลยชวนฉันมาวิ่งที่สวนสาธารณะแทน
ช่วงเย็นแบบนี้คนเริ่มมาวิ่งกันเยอะมากขึ้นทั้งวันรุ่นและวัยทำงาน ฉันเองก็อยากร่างกายแข็งแรงนะแต่มันติดตรงที่ว่าฉันเป็นคนที่ขี้เกียจมากเลยไม่ได้มาสักที
แล้วไอ้ที่พี่อาร์บอกว่าหุ่นดีอะไรน่ะก็จริง ฉันเป็นคนที่กินแล้วไม่อ้วนไม่ว่าจะกินเยอะเท่าไหร่ก็ตามน้ำหนักก็เท่าเดิมไม่เพิ่มเลยล่ะ
ฉันก็เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องกินเท่าไหร่ เวลาอยากกินดึกก็กินเลยเพราะฉันกินยังไงก็ไม่อ้วน
“เหมยไม่ชอบที่อาร์พูดถึงเหมยแบบนี้นะคะ”
“โอเคค่ะ ไม่ล้อแล้ว”
พี่อาร์ยิ้มให้ฉันมันเป็นรอยยิ้มที่ไม่จริงใจต่อกันเลย ที่บอกว่าจะไม่พูดไม่ล้ออีกไม่ถึงสิบนาทีหรอกเดี๋ยวเขาก็พูดขึ้นมาอีกเหมือนเดิม
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันรับน้ำมาจากพี่อาร์เปิดดื่มด้วยความเหนื่อย พี่อาร์ที่เห็นฉันเหนื่อยหอบเขาก็หัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาลูบผมฉันเบาๆ เหมือนเอ็นดูฉันหนักมาก
ที่เขาชวนฉันมาวิ่งเพราะเขาเห็นว่าช่วงนี้ฉันดูเครียดๆ เลยอยากให้ฉันผ่อนคลายบ้าง
แต่มันก็ได้ผลนะพอฉันมาวิ่งทีไรฉันก็มักจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและทำให้ฉันนอนหลับง่ายขึ้นด้วย
ช่วงนี้ใกล้จะสอบเก็บคะแนนและยังมีงานเข้ามาเยอะอีกด้วยไหนจะเรื่องของพี่มิหวาที่ชอบมองฉันแบบหาเรื่องอีก
ฉันเองก็เหนื่อยใจเพราะตัวเองก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจเลย แค่จะพูดกันก็แทบไม่ได้ทำอย่างนั้นด้วยซ้ำ
แต่ก็พอจะเดาออกนั่นแหละว่าเธอไม่ชอบฉันเพราะอะไร เพราะพี่อาร์มายุ่งกับฉันแต่เธอดันชอบพี่อาร์ไงมันก็เลยทำให้เธอไม่ชอบฉันตรงนี้ก็ได้
“เหนื่อยแย่เลยสิเรา”
“ก็นิดหนึ่งค่ะ พี่อาร์ไม่เหนื่อยเหรอคะ?”
“เหนื่อยค่ะ แต่พี่มาวิ่งประจำน่ะก็เลยไม่เหนื่อยเท่าเรา”
“เฮ้อ”
ฉันถอนหายใจอย่างเซ็งๆ พี่อาร์ที่เห็นว่าฉันทำหน้าคิดมากเขาก็เขยิบเข้ามานั่งข้างฉันแล้วยิ้มให้เหมือนอยากเป็นกำลังใจให้กัน ทำให้ฉันมองหน้าเขากลับไปแต่ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเหมือนกัน
“เรื่องงานกับเรื่องเรียนไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้นะ เห็นเราเครียดพี่เองก็เป็นห่วง”
พี่อาร์พูดยิ้มๆ เขาเองก็คงจะไม่อยากให้ฉันเครียดกับเรื่องพวกนี้ก็ได้ก็เลยอาสาที่จะช่วยและเขาก็มักจะพูดประโยคนี้ทุกวันเลยล่ะ
ฉันยิ้มให้คนตรงหน้า ตั้งแต่วันที่พี่อาร์เห็นรูปของเขาที่อยู่ในห้องฉัน และตอนนั้นฉันก็บอกเขาว่าฉันเหนื่อยมากหลังจากวันนั้นมาเขาก็ไม่เคยพูดกวนฉันเลย
เวลาที่เขามารับฉันไปเรียนเขาก็จะถามว่าเมื่อคืนนอนหลับหรือเปล่า กินอะไรก่อนไปเรียนมั้ย เลิกเรียนแล้วอยากไปไหนต่อมั้ย อยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่า อะไรประมาณนี้
มันก็ทำให้ฉันเริ่มพูดคุยกับเขามากขึ้น อย่างที่บอกว่าฉันไม่ชอบผู้ชายที่พูดจาไม่ให้เกียรติกัน
แต่พอเขาถามเหมือนเป็นห่วงและไม่พูดเรื่องใต้สะดือฉันก็เลยเริ่มไปไหนมาไหนกับเขาเหมือนเดิม แต่ก็ไม่สนิทใจเท่าเมื่อก่อนหรอก
“วันนี้อยากกินอะไรป่ะเดี๋ยวพี่พาไปกินก่อนกลับห้อง?”
“แล้วพี่อาร์อยากกินอะไรคะ?”
หลายวันมานี้ดูพี่อาร์จะตามใจฉันเป็นพิเศษ ฉันเคยถามเขานะว่าทำไมถึงได้เอาใจฉันขนาดนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชอบบังคับฉันตลอดเวลา
ช่วงนี้เขาจะให้ฉันเป็นคนเลือกตลอดว่าอยากไปไหน อยากทำอะไร อยากกินอะไร แต่ต้องมีเขาอยู่ด้วยตลอดเวลา เขาไม่อยากให้ฉันรู้สึกไม่ดีกับเขาอีกแล้ว
เขาอยากทำคะแนนเอาไว้เยอะๆ เผื่อว่ามีผู้ชายคนอื่นเข้ามาจีบฉัน ฉันจะได้มองเขาเป็นคนแรก
ฉันเองก็นึกขำในใจนะที่เขาคิดแบบนี้ แต่มันก็ยังดีกว่าที่เขามาบังคับฉันอ่ะ
เพราะถ้าเขายังบังคับฉันไม่เลิกฉันเองก็คงไม่อยากอยู่กับเขาเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าฉันไม่ชอบการบังคับ ฉันอยากมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง
“น้องเหมยแล้วแต่พี่อาร์เหรอครับ?”
“ค่ะ”
“ถ้าถามพี่ พี่ก็จะตอบว่าพี่อยากกินน้องเหมยอ่ะครับ”
เพิ่งพูดชมเขาได้ไม่เท่าไหร่ก็วกกลับมาเรื่องใต้สะดืออีกแล้ว ไหนบอกว่าไม่อยากทำให้ฉันไม่สบายใจไง แต่นี่ไม่ใช่แล้วนะเพราะเขากำลังทำให้ฉันเริ่มมองเขาไม่ดีอีกแล้ว
“ล้อเล่นครับ พี่กินได้ทุกอย่างนะ เหมยอ่ะอยากกินไรครับ”
“ราดหน้าก็ได้ค่ะไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว”
สุดท้ายเราก็ต้องมาจบกันที่ราดหน้าร้านเดิมที่เราเคยไปกินด้วยกันครั้งแรก พี่อาร์เองก็ชอบกินอยู่แล้วเราก็เลยตกลงที่จะไปกินราดหน้ากัน
ช่วงนี้ฉันเองก็ไปไหนมาไหนกับพี่อาร์บ่อยมากแทบทุกวันเลยด้วย เพื่อนฉันทั้งหวานและไข่มุกก็ถามเหมือนกันว่าสรุปแล้วฉันกับพี่อาร์คบกันหรือเปล่าหรือว่าแอบคบ
พี่อาร์เขาอาสาเป็นคนขับรถให้ฉันเองต่างหากล่ะ ฉันไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับเขาซะหน่อย
แต่เขาเต็มใจเองและตอนนี้เขาก็ทำตัวดีมากขึ้นด้วยฉันก็เลยกล้าที่จะไปไหนมาไหนกับเขา
หลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จแล้วเราก็มาเดินเล่นที่ตลาดนัดขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และอะไรอีกหลายอย่าง ฉันไม่ค่อยได้มาเดินตลาดนัดนานมากตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วมั้ง
พี่อาร์เอื้อมมือมาจับมือฉันทำให้ฉันหันไปมองเขาก็เห็นว่าเขาทำสายตาออดอ้อนมากเพื่อที่จะจับมือฉัน
ฉันเห็นแล้วก็หัวเราะออกมาและยอมให้เขาจับมือเดินไปด้วยกัน ก่อนที่เขาจะพาฉันไปที่ร้านเสื้อคู่ดูเขาจะชอบมากเลยนะ
“พี่อยากให้เราใส่เสื้อคู่ด้วยกัน”
ฉันมองไปที่เสื้อคู่ในร้านก่อนจะส่ายหน้าทันที เพราะเสื้อคู่ที่เขาอยากใส่มันเป็นเสื้อคู่ของคนที่เป็นแฟนกันแต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
และที่ฉันยอมไปไหนมาไหนกับเขาเป็นเพราะว่าฉันมองว่าเขาเป็นรุ่นพี่เท่านั้น
จริงอยู่ที่ตอนนี้เขาจีบฉันแต่ฉันยังไม่ได้คิดเกินเลยกับเขาไง เพราะงั้นฉันจะไม่ยอมใส่เสื้อคู่แน่ๆ ถ้าใส่แล้วเดี๋ยวเพื่อนฉันมันก็พูดแซวฉันอีกหรอกว่ากลืนน้ำลายตัวเอง
“เหมยไม่ชอบใส่เสื้อคู่ค่ะ ถ้าพี่อาร์อยากได้พี่อาร์ซื้อใส่คนเดียวเลยหรือไม่ก็ซื้อไปให้พี่มิหวาใส่ก็ได้นะคะ”
“พูดถึงมิหวาทำไม?”
คนตรงหน้าหุบยิ้มทันทีเหมือนเขาไม่ชอบให้ฉันพูดถึงคนอื่นเวลาที่อยู่กับเขา และสายตาที่เขามองฉันเหมือนตำหนินั้นทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ควรพูดอะไรแบบนี้ออกมา
แล้วฉันพูดผิดตรงไหนล่ะฉันคิดว่าพี่อาร์เองก็ต้องรู้แหละว่าพี่มิหวาคิดยังไงกับเขา
“พี่ไม่ชอบเลยนะที่เหมยพูดแบบนี้ พี่ต้องการใส่คู่กับเราทำไมต้องเอาคนอื่นมาใส่เสื้อคู่กับพี่?”
“โอเคไม่พูดก็ได้ แต่เหมยไม่ใส่หรอกนะคะถ้าพี่อาร์อยากซื้อพี่อาร์ก็ซื้อไปเลย”
“เอางั้นก็ได้ พี่จะซื้อของผู้หญิงด้วยเผื่อวันไหนที่เหมยยอมรับรักพี่เหมยจะได้ใส่พร้อมกับพี่”
พี่อาร์ดูมั่นใจมากว่าฉันจะต้องรับรักเขาในเร็วๆ นี้ก็เลยตัดสินใจซื้อเสื้อคู่มาจริงๆ งั้นก็เอาที่เขาสบายใจเลยแล้วกัน
ฉันไม่อยากเถียงกับเขาแล้วล่ะ พอเดินเล่นจนเมื่อยแล้วพี่อาร์ก็มาส่งฉันที่หอ เขาไม่ได้ขอขึ้นห้องไปกับฉันแล้วเพราะเขารู้ว่าฉันไม่อยากให้เขาเข้าห้อง
ฉันเองก็ดีใจนะที่เขาเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้เพราะฉันเองก็ไม่อยากตอบปฏิเสธเขาหลายต่อหลายครั้งเหมือนกัน
และที่สำคัญเขาก็คงไม่อยากทำให้ฉันเครียดด้วยแหละ แค่เรื่องเรียนกับเรื่องงานฉันก็เครียดมากพออยู่แล้ว
“ฝันดีนะครับน้องเหมยของพี่อาร์”
“ค่ะ ไม่ต้องมาเฝ้าแล้วนะคะส่งเหมยเสร็จก็กลับเลยนะ”
ที่ฉันต้องพูดแบบนี้เพราะพี่อาร์มักจะแอบมาเฝ้าฉันโดยไม่บอก มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันลงมาซื้อน้ำแล้วเห็นรถของพี่อาร์จอดอยู่หน้าหอฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเขามาเฝ้าฉันจนกว่าฉันจะปิดไฟนอนแล้วเขาถึงจะกลับ
ฉันไม่อยากให้เขาทำอย่างนั้นเพราะกว่าฉันจะนอนก็ดึกมาก เพราะฉันต้องอ่านหนังสือสอบและทำงานด้วย
อีกอย่างนะฉันเองก็เป็นห่วงเขาด้วยเหมือนกัน เขานอนดึกแบบนี้ทุกวันสุขภาพคงไม่ดีแน่
“ขับรถกลับดีๆ นะคะ”
“ครับ เป็นห่วงนะครับ”
“ค่ะ”
“มีอะไรโทรหาพี่ได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”
“รักมากนะครับน้องเหมย”