SENIORS 26
*****************************
พี่อาร์เดินเข้ามาหาฉันก่อนที่ฉันจะเดินหนีเขาเข้าไปในหอ เขาคว้าแขนฉันเอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวเขา แล้วเขาก็รั้งเอวฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ฉันดันหน้าอกของร่างสูงเอาไว้เพราะตอนนี้หน้าอกฉันถูไถกับแผงอกของเขาอยู่ไง และคิดว่าเขาเองก็คงจะสัมผัสมันได้เหมือนกันถึงได้ยิ้มมีเลศนัยแบบนี้
ไม่ชอบไอ้รอยยิ้มของเขาแบบนี้เลยจริงๆ ให้ต่างสิ เฮ้อ แล้วนี่อะไรจะมายืนกอดฉันแบบนี้อีกนานมั้ย เขาไม่อายแต่ฉันอายไง
“พี่อาร์ปล่อยเหมยนะคะ นี่มันไม่ใช่ในห้องนะที่พี่จะมาทำแบบนี้ได้”
“แสดงว่าถ้าเป็นในห้องพี่ก็ทำกับเราได้ใช่มั้ยครับ”
“พี่อาร์”
ฉันมองค้อนคนตรงหน้าที่ทำหน้าทะเล้นกวนประสาทฉัน ฉันพยายามดันตัวเขาออกไปแต่เขาก็ไม่ยอมแถมยังกอดรัดเอวฉันแน่นมากกว่าเดิมอีก ยิ่งฉันทำหน้าไม่พอใจเขาก็ยิ่งแกล้ง
“น้องเหมยทำพี่อาร์เจ็บนะครับ คิดว่าพี่ควรลงโทษเรายังไงดีล่ะหืม?”
“เหมยขอโทษค่ะ ก็พี่อาร์ยื่นหน้าเข้ามาเหมยก็ตกใจสิคะ”
ฉันรีบขอโทษคนตรงหน้าทันทีทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย แต่ก็แกล้งขอโทษไปงั้นแหละพี่อาร์น่ะชอบให้ฉันยอมเขางั้นฉันก็ยอมเขาไปก่อนแล้วกัน
พอฉันพูดขอโทษพี่อาร์ก็ยกยิ้มมุมปากออกมาเหมือนเขารอให้ฉันพูดคำนี้กับเขา
นี่ฉันก็งงเหมือนกันนะว่าสรุปแล้วใครจีบใครกันแน่ทำไมฉันจะต้องยอมเขาทุกเรื่องด้วย
และไอ้วิธีจีบของเขามันค่อนข้างดูงงๆ ยังไงชอบกล จะจีบฉันทั้งทีเขาก็น่าจะตามใจฉันนะไม่ใช่มาบังคับกันแบบนี้
“พี่อาร์กลับไปได้แล้วค่ะ เหมยจะขึ้นห้องแล้วและไม่ต้องมายืนเฝ้านะคะวันนี้เหมยนอนดึก”
“พี่ขึ้นไปเฝ้าที่ห้องได้ป่ะ ถ้าเหมยหลับแล้วพี่จะกลับทันทีเลย”
พี่อาร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ฉันส่ายหน้าปฏิเสธทันทีฉันจะไม่ให้เขาเข้าห้องอีกแล้ว
เมื่อวานเขาเข้าห้องฉันไม่ถึงสิบนาทีเลยมั้งก็เกิดเรื่องเลย บอกเลยว่าเข็ดมาก พี่อาร์กำลังจะเดินขึ้นห้องพร้อมฉันแต่ฉันก็รั้งแขนเขาเอาไว้ก่อน
“ไม่ได้ค่ะ”
“น้องเหมยห้ามพี่อาร์ได้ด้วยเหรอคะ?”
“จะจีบเหมยไม่ใช่เหรอคะ ถ้าไม่ตามใจเหมยจะเรียกว่าจีบเหมยได้ยังไง?”
ฉันไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้หรอกเพราะมันจะทำให้เขาได้ใจไง แต่ที่ต้องพูดเพราะฉันไม่อยากให้เขาขึ้นห้องเท่านั้นเองแหละ
คนตรงหน้ายิ้มออกมารอยยิ้มของเขามันดูไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้ ฉันเป็นคนที่ไม่ยอมคนอยู่แล้วนะแต่นี่กลับต้องมายอมให้เขาขนาดนี้มันดูไม่ใช่ฉันเลย
โอ๊ย เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ และเกลียดพี่อาร์ที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้
“ครับผมพี่กำลังจีบเหมยอยู่ แต่เด็กดื้ออย่างเหมยตามใจไม่ได้หรอกเดี๋ยวเคยตัว”
พูดจบพี่อาร์ก็เดินขึ้นบันไดเพื่อไปรอฉันที่หน้าห้อง เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะเว้ย
ฉันเดินกระทืบเท้าขึ้นห้องก็เห็นพี่อาร์ยืนกอดอกรออยู่ที่หน้าห้องฉันแล้ว ฉันกำลังจะไขกุญแจเข้าห้องเสียงมือถือฉันก็ดังขึ้นมาก่อน
พี่อาร์มองหน้าฉันทันทีก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วยว่าใครที่โทรเข้ามา
พอหยิบออกมาจากกระเป๋าก็เห็นว่าเป็นเต้เพื่อนที่คณะวิศวฯ เรารู้จักกันโดยบังเอิญและตอนนี้ก็สนิทกันไปแล้ว
“ว่าไงเต้?”
ที่บอกว่ารู้จักกับเต้โดยบังเอิญก็เพราะตอนนั้นฉันไปเข้าห้องน้ำที่คณะวิศวฯ และดันไปเข้าห้องน้ำผู้ชายไงและถือว่าโชคดีที่ในห้องน้ำชายมีแค่เต้เท่านั้น
เขาก็เลยบอกฉันว่าฉันเข้าห้องน้ำผิดมันก็เลยทำให้เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก
ต่อมาไม่นานฉันเดินผ่านสนามฟุตบอลมันก็มีบอลมาจากไหนไม่รู้ลอยผ่านหน้าฉันไปแบบฉิวเฉียด
และคนที่เตะบอลผ่านหน้าฉันก็คือเต้เราก็เลยคิดว่าเราน่าจะต้องเป็นเพื่อนกันแล้วล่ะ
และนั่นก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราได้มาเป็นเพื่อนกันและสนิทกันมากๆ จะว่าไงดีล่ะฉันเองก็เป็นเพื่อนได้กับทุกคนนั่นแหละอาจจะเป็นเพราะฉันเข้ากับคนอื่นได้ง่ายก็ได้มั้ง
[กินข้าวยังอ่ะพอดีเราเพิ่งเลิกซ้อมบอลเพื่อนแม่งก็หนีไปไหนหมดไม่รู้ไม่มีเพื่อนกินข้าว]
พี่อาร์ยื่นหน้าเข้ามาฟังด้วยว่าใครโทรเข้ามาอย่างเสียมารยาท พอเขาเอียงหูฟังแล้วไม่ได้ยินเขาก็เล่นแย่งมือถือไปจากฉันทันทีแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้เขาได้ยินด้วยถึงจะคืนมือถือให้ฉัน
ฉันอยากจะต่อว่าเขาจริงๆ เลยทำตัวนิสัยไม่ดีแบบนี้
[ว่าไงทำไมคิดนานจังอ่ะ?]
“เรากินแล้วอ่ะ วันนี้นายก็ไปกินคนเดียวก่อนแล้วกัน”
พี่อาร์ที่รู้ว่าปลายสายเป็นผู้ชายเขาก็หันมามองหน้าฉันเพื่อที่จะให้ฉันอธิบายว่าคนที่อยู่ในสายเป็นใครทำไมถึงได้คุยกันสนิทสนมแบบนี้
รู้สึกว่าเขาจะยุ่งกับชีวิตฉันมากเกินไปแล้วนะฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน เขาไม่มีสิทธิ์มาเจ้ากี้เจ้าการในตัวฉัน
[ไปนั่งเป็นเพื่อนหน่อยดิเดี๋ยวไปรับ]
ฉันหันไปมองพี่อาร์ที่ยืนจ้องมือถือของฉันเหมือนอยากจะให้หน้าของเต้มันผุดขึ้นมา
ถ้าพี่อาร์ไม่อยู่ด้วยฉันเองก็อยากจะไปนั่งเป็นเพื่อนเต้อยู่หรอก เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาเต้ก็เป็นเพื่อนที่ดีกับฉันเหมือนกัน
งานวันเกิดฉันปีที่แล้วเขาก็มาเซอร์ไพรส์ฉันที่มหาลัยฉันคิดว่าเขาจะลืมไปแล้วซะอีก
และเวลาที่เราไปกินข้าวกันเขาก็เป็นคนเลี้ยงฉันทุกครั้งเลยไม่ยอมให้ฉันได้ออกเอง
แต่มันติดตรงที่ว่าตอนนี้ฉันไปกับเต้ไม่ได้ไง ในเมื่อมีมารมายืนอยู่ตรงหน้าฉันอยู่อ่ะ
“พอดีเราทำงานกับเพื่อนอยู่อ่ะเต้ ขอโทษด้วยนะ”
[อ้าวเหรอ โอเคงั้นไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังก็ได้]
ฉันไม่ได้อยากจะปฏิเสธเต้เลยนะอยากจะไปกับเขาด้วยซ้ำ ฉันวางสายจากเต้ก่อนจะหันไปหาพี่อาร์ที่ยืนมองหน้าฉันอยู่
ทำไมจะต้องทำหน้าเหมือนกำลังจับผิดฉันด้วย ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ อีกอย่างการที่ฉันจะคุยกับผู้ชายหรือจะคุยกับใครก็ตามมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันไม่เกี่ยวกับเขา
“พี่อาร์กลับไปได้แล้วค่ะเหมยจะเข้าห้องแล้ว”
ฉันกำลังจะเข้าห้องพี่อาร์ก็ไม่ยอมกลับแถมยังแทรกตัวเข้ามาในห้องฉันด้วย ไม่ใช่ฉันแล้วมั้งที่ดื้ออ่ะมันเป็นเขามากกว่าที่พูดไม่รู้ฟัง บอกว่าให้กลับเขาก็ไม่ยอมกลับ
ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินเข้าห้องไปกับเขา พอเปิดไฟขึ้นเท่านั้นแหละฉันก็ต้องตกใจที่จู่ๆ ก็มีรูปของฉันกับพี่อาร์เต็มห้องไปหมดเลย
ฉันจำได้ว่าตอนออกจากห้องไปมันไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ แต่ละภาพนั้นอยากจะกรี๊ดมากเพราะมันเป็นภาพตัดต่อมา
คนที่ทำแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกมีอยู่คนเดียวที่ฉันให้กุญแจสำรองไปแล้วลืมเอากลับมานั่นก็คือไข่มุก หางานให้ฉันแล้วมั้ยล่ะเพื่อนเลว
พี่อาร์มองไปรอบๆ ห้องที่มีรูปของเขาติดอยู่เต็มห้องไปหมดเลย เขาก็ยิ้มออกมาเหมือนดีใจที่ในห้องของฉันนั้นมีแต่รูปของเขาแบบนี้
ฉันเริ่มเกลียดเพื่อนตัวเองขึ้นมาแล้วสิ มันทำร้ายฉันเกินไปแล้วนะ รู้อยู่หรอกว่าอยากจะเอาคืนแต่มันใช่เวลาที่จะมาทำแบบนี้มั้ย
ฉันถึงกับกุมขมับตัวเองทันทีเลยกว่าจะเอารูปพวกนี้ออกไปได้มันจะต้องใช้เวลานานมากแน่ๆ เลย
พี่อาร์เดินมานั่งข้างฉันที่โซฟาแต่เขาก็กวาดตามองไปไม่เลิกสักทีเหมือนดีใจที่มีรูปของเขาติดอยู่ในห้องฉันแบบนี้
“ที่ไม่ให้พี่เข้าห้องเพราะไม่อยากให้พี่เห็นว่าเหมยแอบเอารูปพี่มาติดเต็มห้องเหรอครับ?”
นี่ก็คิดเข้าข้างตัวเองจังเลยนะ ถ้าฉันเป็นคนทำจริงๆ ฉันจะมานั่งปวดหัวอยู่แบบนี้หรือเปล่าล่ะ
ฉันกดโทรหาไช่มุกแต่มันก็กดตัดสายฉันเหมือนมันจะรู้ว่าฉันจะโทรไปต่อว่ามัน ฝากไว้ก่อนเถอะถ้ามันมีแฟนเมื่อไหร่นะฉันจะไปด่าแฟนมันให้ต้องเลิกกันเลยคอยดู
“จะมานั่งดูรูปทำไมล่ะในเมื่อตัวจริงก็นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว” พี่อาร์กำลังจะยื่นหน้าเข้ามาหาฉันแต่ฉันก็เขยิบหนีทันที
“เหมยกำลังเครียดนะคะพี่อาร์ ขอร้องกลับไปก่อนได้มั้ย”
ฉันไม่มีอารมณ์มาพูดหยอกล้อด้วยหรอกนะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้วและดูท่าว่าพี่อาร์เองก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้พูดเล่นและฉันก็กำลังเครียดมากไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องส่วนตัว
พี่อาร์เอื้อมมือมาลูบผมฉันอย่างเบามือเหมือนไม่อยากให้ฉันคิดมากกับเรื่องของเขา
ฉันเป็นคนคิดมากอยู่แล้วไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่บางครั้งมาเจอหลายๆ เรื่องรวมกันมันก็เครียดได้นะ
“พักผ่อนด้วยนะครับพี่เป็นห่วง”