SENIORS28:ห่วงความรู้สึก

2196 Words
SENIORS 28 ***************************** [AR : SAID] ผมกลับมาที่ห้องของตัวเองหลังจากที่ไปส่งเหมยเสร็จ ผมชอบไปนั่งเฝ้าเหมยที่หน้าหอเธอนะไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมจะอยู่เฝ้าจนกว่าเธอจะปิดไฟแล้วผมถึงจะกลับ ผมแค่รู้สึกว่าการที่เราได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักต่อให้เธอจะไม่รู้มันก็ทำให้เราแม่งโคตรมีความสุขเลยว่ะ ทีแรกผมเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ทำอยู่มันเรียกว่าความรักหรือเปล่า จนกระทั่งผมมาคิดๆ ดูแล้วผมไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย เหมยแม่งเป็นคนแรกที่ทำผม ผมก็เลยรู้ไงว่าการที่ตัวเองทำแบบนี้มันคือการที่เราอยากเอาใจใส่คนที่เรารัก แต่วันนี้เหมยขอร้องให้ผมกลับไปพักผ่อนไม่ต้องมาเฝ้าเธอแล้วผมก็เลยยอม ช่วงนี้ที่ผมยอมเหมยทุกอย่างเพราะผมไม่อยากให้เธอเครียดหรือคิดมากกับเรื่องของผม แค่เรื่องงานของเธอก็เยอะอยู่แล้ว หวานเองก็ชอบมาเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ ว่าพักนี้ดูเหมยซึมๆ ไปไม่ร่าเริงเหมือนเดิมเลย ผมเองก็ไม่อยากเอาเรื่องของตัวเองไปทำให้เธอต้องไม่สบายใจด้วยเลยเลือกที่จะตามใจเธอทุกอย่างและชวนเธอไปผ่อนคลายด้วยเผื่อจะดีขึ้น ผมเดินไปที่ลิฟต์กำลังจะกดลิฟต์ไปที่ห้องของตัวเองมิหวาก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้เข้ามาหาผม ผมเองก็ตกใจเหมือนกันที่เธอมาหาผมดึกๆ แบบนี้ และผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ด้วยที่เธอมาหาผมถึงที่พักแบบนี้ อย่างที่บอกว่าผมไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทเข้านอกออกในในที่ที่เป็นส่วนตัวของผม แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย นี่ถ้าเป็นเหมยวิ่งเข้ามาหาผมแม่งจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เป็นคนที่ผมไม่คิดที่จะชอบสักนิด ช่วงนี้มิหวาเองก็ชอบตามผมไปทุกที่ไม่ว่าผมจะทำอะไรไปที่ไหนเธอมักจะถามตลอดเหมือนว่าเราเป็นแฟนกัน ผมเองก็ต้องบ่ายเบี่ยงเพราะไม่อยากจะปฏิเสธเธอบ่อยๆ จนทำให้เธอเสียหน้า เวลาที่ผมอยู่ห้องพิเศษในวันที่ไม่มีเรียนมิหวาก็จะมาหาผมและขอเข้าไปนั่งในนั้นด้วย ทั้งที่ผมก็บอกว่าไม่ว่างแต่เธอก็อยากอยู่กับเขาอย่างนั้น และนี่ก็ยังตามมาอีก แม่งโคตรเหนื่อย ตอนนี้ก็ดึกแล้วไงและผมก็อยากพักด้วยแต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาเจอคนที่ไม่อยากเจอ “อาร์ไปไหนมาอ่ะเรานั่งรอตั้งนาน” ผมยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองคือมันใช่เรื่องที่เธอจะต้องมาถามผมแบบนี้ป่ะ ผมอยากบอกเธอตรงๆ นะว่าไม่ต้องมาตามหรืออะไรกับผมแล้ว เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอนอกจากเพื่อนที่ร่วมเรียนคลาสเดียวกันเท่านั้น และยิ่งเธอทำแบบนี้มันยิ่งทำให้ผมเบื่อหนักมากและไม่อยากยุ่งกับเธอ เพราะถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงคนอื่นพวกเธอก็แค่เข้ามาพูดคุยเรื่องต่างๆ เท่านั้นหรือไม่ก็ปรึกษาเรื่องงานไม่ได้มาตามติดผมเหมือนที่มิหวาทำ ที่จริงผมเองก็บอกเธอไปแล้วนะว่าเราเป็นเพื่อนกันแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังและถึงยังตามผมอยู่แบบนี้ แม่งเอ้ย คนที่ผมอยากจะตามกลับบอกให้ผมเลิกตาม ผมที่ผมไม่อยากให้มาตามก็ดันมาตาม เฮ้อ “เราไปข้างนอกมาน่ะ” ผมตอบแค่นั้นเพราะไม่อยากให้เธอถามอะไรมากกว่านี้ การที่ผมไปไหนมาไหนไม่บอกเธอมันก็ไม่ใช่ความผิดของผมป่ะ เพราะผมอยากมีพื้นที่ส่วนตัว และเธอเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมไง ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าผมกำลังตามจีบเหมยอยู่เธอก็เข้าหาผมมากขึ้น นั่นแหละที่ทำให้ผมรำคาญ “มิหวามีอะไรอีกมั้ยอ่ะพอดีเราเหนื่อยจะไปนอน” “ใจร้ายกับเราอีกแล้วนะอาร์ นี่เรามารออาร์เป็นชั่วโมงเลยนะ” มิหวาทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้ผมถึงกลับถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย รู้งี้ผมไปอยู่เฝ้าเหมยที่หอของน้องก็คงจะดีหรอกว่ะ แม่งจะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้โคตรน่าเบื่อ ก็ไม่รู้จะต้องพูดยังไงให้เธอเข้าใจว่าผมไม่ได้อยากให้เธอทำแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงที่จะไม่ทำร้ายความรู้สึกของเธอไง “อาร์จะใจร้ายทิ้งเราแบบนี้เลยเหรอ?” “เราเปล่า” “เห็นหน้าเราก็ทำหน้าเหมือนไม่อยากพูดด้วยแบบนี้เราเสียใจนะ” “แล้วมีอะไรกับเราอ่ะ เราเหนื่อยนะมิหวา” ผมทำหน้าเหนื่อยใจออกมาเพื่อให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรมารบกวนผมในเวลาแบบนี้ ถ้าอยู่มหาลัยผมแม่งจะไม่ว่าไรเลยไง แต่นี่มันดึกแล้วการที่เธอมาหาผมแบบนี้มันเหมือนล้ำเส้นกันยังไงไม่รู้ เวลาแบบนี้จะมีใครกล้าที่จะมาหาผมบ้างล่ะเพราะส่วนมากแล้วก็จะเกรงใจผมทั้งนั้น ผมเองก็ไม่กล้าไปหาใครในเวลานี้เหมือนกันนอกจากเหมย “ถ้าไม่สำคัญคุยพรุ่งนี้ได้มั้ย?” “ทีกับน้องคนนั้นไม่เห็นอาร์จะพูดแบบนี้เลยนะ” ผมที่กำลังจะเดินหนีก็หยุดเดินก่อนจะหันไปมองหน้ามิหวาที่มองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อกี้เธอตั้งใจพูดประชดผมงั้นเหรอ พูดเหมือนว่าเราสองคนเป็นแฟนกันและผมกำลังนอกใจเธองั้น ผมเองก็อยากจะบอกเธอตรงๆ เหมือนกันนะว่าเธอกับเหมยไม่เหมือนกัน สำหรับเหมยแล้วผมยินดีที่จะทำให้ทุกอย่างโดยที่เธอไม่ต้องร้องขอ แต่กับเธอผมไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากเพื่อนเท่านั้น และยิ่งเธอทำแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่พอใจหนักเข้าไปอีก การที่ผมจะไปไหนมาไหนหรือทำอะไรกับเหมยมันก็ไม่แปลกเพราะผมกำลังตามจีบน้องอยู่ไง “มิหวาพูดแบบนี้ต้องการอะไรจากเรา?” ผมถามทันทีและน้ำเสียงผมก็ติดไม่พอใจด้วยเพื่อให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผม ผมจะไปไหนมาไหนกับใครมันก็เป็นเรื่องของผมในเมื่อผมไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตัวผมจะทำอะไรก็ได้ไง และเธอก็ไม่ใช่เจ้าของผมด้วยเพราะงั้นเธอจะพูดแบบนี้ไม่ได้ พอเธอเห็นว่าผมเริ่มจะรำคาญเธอก็หลบสายตาผมทันที เพราะผมไม่เคยใช้น้ำเสียงนี้กับใครเธอเองก็น่าจะรู้ว่าผมแม่งเป็นคนที่ใจเย็นมาก แต่ถ้าผมเริ่มทำเสียงรำคาญนั่นแปลว่าไม่ควรที่จะพูดอะไรต่อ จะบอกอะไรให้นะผมน่ะเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากเลยเว้ย แต่ถ้าใครที่ทำให้ผมหมดความอดทนนั่นน่ะคือคนที่ผมไม่เอาแล้วและไม่สนใจแล้ว ที่ผมยอมเหมยทุกอย่างเพราะเธอเป็นกรณียกเว้นและเธอก็เป็นคนเดียวที่ผมจะไม่มีวันเบื่อเธอด้วย ผมยังจำวันที่เธอไปเฝ้าผมที่โรงพยาบาลตอนรถล้มได้ดี ต่อให้อยากลืมยังไงก็ลืมไม่ลงว่ะ “ต้องการให้เราขอโทษเหรอที่ให้มิหวามารอเราแบบนี้” “เปล่า คือเรา…” “อยากจะคุยอะไรกับเราล่ะ คุยเลยก็ได้เราเหนื่อยแต่เรารับฟังได้” “ถ้างั้นเดี๋ยวเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้ อาร์ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ” มิหวาที่เห็นว่าผมทำหน้าเบื่อหน่ายออกมาแล้วถอนหายใจอยู่หลายครั้งก็รีบพูดตัดบทเหมือนกลัวว่าจะทำให้ผมทนไม่ไหว อืม เมื่อกี้ก็เกือบไม่ไหวจริงๆ นั่นแหละ “เราขอโทษนะที่มารบกวนอาร์แบบนี้” “ครับ” “ฝันดีนะ” “ฝันดีครับ” ก่อนที่ลิฟต์จะปิดผมก็บอกฝันดีมิหวา ผมรู้ว่าเธอเองก็อยากจะให้ผมไปส่งแต่วันนี้ผมเหนื่อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้ไปวิ่งมาก็ได้เลยไม่อยากไปส่งเธอเอาไว้วันหลังแล้วกัน ที่จริงทุกวันผมก็ไม่อยากไปส่งหรอกแต่ก็ไม่อยากปล่อยให้เธอกลับเอง แต่วันนี้คงต้องปล่อยให้เธอกลับเองแล้วล่ะเพราะผมแม่งเหนื่อยจริงๆ พอมาถึงห้องผมก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์เหมย ผมอยากโทรหาเธอนะแต่คิดว่าเธอเองก็คงจะเหนื่อยเหมือนกันเลยไม่อยากโทรไปรบกวน ผมบอกฝันดีเธอในข้อความไลน์ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำ แล้วพรุ่งนี้จะได้ไปรับน้องด้วย อาร์_อากะอิ : หลับฝันดีนะครับ อาร์_อากะอิ : คิดถึงน้องเหมยของพี่อาร์ที่สุดครับ วันต่อมา ผมตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปรับเหมย วันนี้เธอมีเรียนช่วงเช้าเลยกะว่าจะพาเธอไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปมหาลัย วันนี้ผมไม่มีเรียนแต่ก็มีงานที่ต้องทำที่มหาลัยเลยจะเข้าไปทำด้วย พอเดินลงมาด้านล่างก็เห็นมิหวายืนยิ้มอยู่หน้าทางเข้า เห็นอย่างนั้นผมก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายออกมาทันที ผมคิดว่าเธอจะเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้าหาผมแต่ไม่ได้ตามติดผมขนาดนี้ บางทีการที่เธอทำแบบนี้มันก็น่ารำคาญเหมือนกันนะยิ่งเธอเห็นผมไม่พูดเธอก็ยิ่งทำ เมื่อคืนก็ทีหนึ่งแล้วนี่ก็ยังจะทำอีกเหรอวะ ไม่คิดว่ากูแม่งจะเบื่อบ้างไง ไอ้ที่พูดไปทั้งหมดน่ะมันไม่เข้าหูเธอเลยเหรอ “เราคิดไว้แล้วเชียวว่าอาร์จะต้องตื่นเช้า เราขอติดรถไปด้วยนะ” ถ้ามานั่งรอขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องมาขอเหอะ แม่งกระโดดขึ้นรถเลยง่ายกว่าเยอะ ผมถอนหายใจเพราะทำอะไรไม่ได้ไงจะปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วยเพราะเธอมายืนอยู่ตรงหน้าผมขนาดนี้แล้ว “เราจะต้องไปรับน้องด้วยอ่ะ” ผมเพิ่งไลน์ไปบอกเหมยว่ากำลังจะไปรับให้เธอลงมารอเลยเพราะใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็น่าจะถึงแล้ว พอมาเจอแบบนี้ผมก็กลัวว่าเหมยจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเหมยจะไม่ได้คิดอะไรกับผมก็ตาม แต่คือเข้าใจป่ะว่าตอนนี้ผมกำลังทำคะแนนกับเธออยู่ก็เลยไม่อยากให้มีปัญหาตามมา และดูท่าว่าเธอเองก็มีผู้ชายเข้าหาเยอะเหมือนกันต่อให้เธอจะไม่เล่นด้วยสักคนแต่ผมก็อยากจะเป็นคนที่เธอเลือกไง “น้องเหมยน่ะเหรอ?” มิหวาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่แต่พอเธอมองหน้าผมที่จ้องหน้าเธอ เธอก็ยิ้มกลบเกลื่อนทันที ผมเองก็พอจะดูออกว่ามิหวาไม่ชอบเหมยที่เหมยชอบไปไหนมาไหนกับผม แต่แล้วไงวะในเมื่อผมมีสิทธิ์ที่จะไปไหนมาไหนกับเหมยตอนไหนก็ได้ ผมโสดเหมยโสดมันก็ไม่ผิดอะไร ผมไม่ชอบให้เธอมาเจ้ากี้เจ้าการเหมือนตัวเองเป็นเข้าของผมแบบนี้ “ถ้างั้นเราขอติดรถไปด้วยนะ ไหนๆ ก็มาแล้วอ่ะ” “…” “ให้เราติดรถไปด้วยนะอาร์” “ครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยพยักหน้าให้เธอไปด้วย เรื่องที่มิหวาจะไปรถคันเดียวกับผมเหมยเองก็ยังไม่รู้ ก็ไม่รู้ว่าเธอจะโอเคหรือเปล่าที่มีอีกคนติดรถไปกับเรา ที่จริงแล้ววันนี้ผมตั้งใจจะใช้รถบิ๊กไบก์ขี่ไปหาเหมยนะเพราะเธอบอกว่าวันนี้ใส่กางเกงยีนส์ เธอมีลงพื้นที่น่ะ แต่พอมิหวามาแบบนี้ผมก็ต้องใช้รถยนต์ไปแทน [AR : SAID END]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD