Boss 1 ช่วยมาเป็น Friend with benefit

1255 Words
บ้านของเรนนี่ “เรนนี่!!” “คะแม่?!” ฉันตกใจเมื่อแม่เรียกฉันเสียงดัง “เป็นอะไรเหม่ออยู่ได้เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอกลูกคนนี้นิ!” แม่ของฉันเรียกสติเพราะว่าฉันเอาแต่เหม่อ ฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ได้ยินคำถามนั้นจากคุณเพ้นท์เจ้านายของตัวเอง “งั้น...คุณเคยมีเพศสัมพันธ์หรือเปล่า?” “เป็นอะไรของเขากันนะ?” ฉันงงนิดหน่อยและมันก็ทำให้ฉันไม่กล้าไปทำงานสักทีเพราะกลัวว่าจะมองหน้าของเขาไม่ติดแค่เมื่อวานก็ทำเอาอึดอัดแทบบ้าแล้ว “ใครเป็นอะไรก็ช่างเถอะ! แต่ตอนนี้แกควรไปทำงานได้แล้วเรนนี่!” “จ้าแม่เรนไปก่อนนะสวัสดีค่ะ!” ฉันยกไหว้แม่ก่อนจะคว้ากุญแจรถออกมาซึ่งเป็นมันรถสวัสดิการที่คุณเพ้นท์ให้ฉันมาเพราะงั้นฉันเลยไม่ต้องออกรถเองและเก็บเงินเอาไว้ สวัสดีค่ะก่อนอื่นขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะคะ ฉันชื่อเรนนี่อายุปีนี้ก็ 27 ปีแล้ว ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบใคร ไม่เคยชอบใคร และแน่นอนว่าไม่เคยมีความสมัพันธ์หรือเพศสัมพันธ์กับใครทั้งนั้นเพราะงั้นตอนที่ได้ยินคุณเพ้นท์ถามแบบนั้นเมื่อวานฉันเลยดุเขาไปนิดหน่อยเหมือนกันที่ถามอะไรแบบนั้นออกมา แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกก็ฉันทำงานอยู่กับเขามาตั้งนานยังไม่เคยมีแฟนให้เขาเห็นเป็นตัวตนสักทีนิ เฮ้อออ อ่อ เสียงเมื่อกี้นี้คือแม่ฉันเองเมื่อคืนนี้ฉันแวะมาที่บ้านความจริงฉันอยู่คอนโดติดกับของคุณเพ้นท์เพราะว่าเขาจะได้เรียกใช้งานฉันง่าย ๆ นั่นแหละ ที่จริงตั้งแต่รู้จักคุณเพ้นท์มาฉันก็ยังไม่เคยเขามีแฟนหรือผู้หญิงแต่ตัวตนเหมือนกัน และดีที่เขาไม่มีเรื่องผู้หญิงมาให้ฉันปวดหัว ฉันมีคนรู้จักเป็นเลขาเวลาไปออกงานกับคุณเพ้นท์บางครั้งพวกเธอต้องเป็นไม้กันหมาเพื่อไม่ให้รถไฟของเจ้านายชนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นฉันปวดหัวตายแน่เพราะแค่เรื่องงานก็ปวดหัวแล้ว “จะว่าไปเพื่อนของเขาก็แต่งงานกันหมดแล้วสินะ” ทั้งคุณเปลวและหมอเคนได้ยินว่าพวกตกลงปลงใจกับแฟนที่อายุน้อยกว่าหลายปี ตอนนี้ในกลุ่มก็เหลือเพียงคุณเพ้นท์คนเดียวเท่านั้น เขาออกไปเที่ยวเกือบทุกวันไม่เจอผู้หญิงที่ต้องการบางหรือไงนะ? บริษัท PP “เฮ้อออ!!” เมื่อถึงบริษัทฉันก็ต้องถอนหายใจออกมาเพราะว่าสลัดคำถามของเขาไปไม่ได้เลยอะไรดลใจให้เขาพูดแบบนั้นออกมานะ แต่ช่างเถอะวันนี้เขาคงไม่พูดอะไรแบบนั้นแล้วละมั้ง ปึก! ปึก! ฉันลงจากรถก็พบว่าคุณเพ้นท์เองก็พึ่งมาถึงบริษัทเหมือนกัน “สวัสดีค่ะคุณเพ้นท์” “ครับคุณเรนนี่” เราทักทายกันเหมือนทุกวันแต่วันนี้มันแปลก ๆ แหะ ตึก..ตึก..ตึก... เราทั้งคู่เดินมาที่ลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานของเขาท่านประธานบริษัท PP ที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและขนส่งมากมายเพราะงั้นเลยทำให้งานของเขาเยอะและงานฉันก็เยอะไปด้วย ติ๊ง! “เชิญครับ...” เขาผายมือให้ฉันเดินเข้าลิฟท์ก่อนแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้านายแต่เขาก็ให้เกียรติฉันเสมอเพราะว่าเป็นผู้หญิงนั่นเอง “ขอบคุณค่ะ” ฉันเดินเข้าไปในลิฟท์ “เรื่องเมื่อวานผมขอโทษที่ถามออกไปแบบนั้น” ฉันอุตส่าห์พยายามลืมนะ! “ไม่เป็นไรค่ะ” “แต่ผมแค่เห็นว่าเพื่อนตัวเองไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว เลยอยากรู้ว่ามันดียังไงแค่นั้นแหละ” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนด้วยละ? “ก็ควรถามว่าการมีครอบครัวเป็นยังไงสิคะไม่ใช่ถามว่าเคยมี...อะไรแบบนั้นหรือยัง?” “คุณโกรธผมเหรอ?” เขาหันมามองหน้าของฉัน “เปล่าคะ ฉันแค่บอกเฉย ๆ ว่าคุณใช้คำถามผิดไปหน่อย ฉันเข้าใจค่ะว่าตอนนี้คุณอาจจะโดดเดียวเพราะเพื่อน ๆ ออกไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว” “เฮ้อออ ทำไมต้องรีบมีกันด้วยวะ?” “รีบมี?” “ฉันว่าไม่นะคะเพราะพวกเขาก็สามสิบแล้ว คุณนั่นแหละค่ะถ้าช้าไม่ทันเพื่อนระวังแก่จนไม่มีแรงทำอะไรนะคะ” ฉันแค่แกล้งแซวไปอย่างนั้น พรึ่บ!! “อ๊ะ!” อยู่ ๆ เขาก็เบียดตัวเข้ามาใกล้ฉันและใช้แขนขวางเอาไว้ “ไม่มีแรงทำอะไรเนี่ยคุณเรนนี้หมายถึงเรื่องอะไรเหรอครับ?” เขาถามแต่ทำไมต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้ด้วยเนี่ย?! “ก็หมายถึงแรงเลี้ยงลูกไงคะตอนนี้คุณยังแข็งแรงอยู่สามารถวิ่งตามเด็ก ๆ ได้ ถ้าแกกว่านี้จะวิ่งตามไม่ทันเอานะคะ” ฉันพูดโดยไม่หลบสายตาและไม่มีอาการเขินอายอะไรเพราะชินแล้วแหละกับหน้าหล่อ ๆ ของเจ้านายตัวเองก็นะ 5 ปีแล้วนิที่ฉันทำงานกับเขามา “อ่อ แรงเลี้ยงลูกสินะ..” เขาพูดเบา ๆ ก่อนจะถอยออกไปและลิฟท์ก็เปิดออกเขาเดินออกไปก่อนเลยแหะ แต่ทำไมหูของเขามันแดง ๆ อ่ะ หลายชั่วโมงต่อมา เลิกงาน... ก๊อก ๆ “เข้ามา” ฉันเคาะประตูห้องเพื่อจะบอกลาเขากลับก่อนเพราะว่าได้เวลาเลิกงานแล้ว ฉันเลิกงานห้าโมงเย็นแต่ถ้าวันไหนคุณเพ้นท์อยากให้อยู่ต่อก็จะบอกอีกครั้งแต่วันนี้ไม่ได้บอกฉันเลยจะกลับก่อนเพราะว่ามีนัดกับเพื่อนสมัยมหาลัย “คุณเพ้นท์คะวันนี้ฉันกลับก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิ” เขาเรียกฉันเอาไว้และมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก “คุณเพ้นท์มีอะไรหรือเปล่าคะหรือว่างานมีปัญหาตรงไหน?” ฉันรีบเดินเข้าไปหาเขาอย่างร้อนฉันเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำงานผิดพลาดแม้ว่าจะไม่มีค่อยมีนานแล้วก็ตาม “ไม่ใช่เรื่องงานแต่ร้ายแรงพอกัน” เขาก้มหน้านิ่งฉันจนเริ่มกลัว “คุณเพ้นท์เป็นโรคร้ายเหรอคะ?” “ไม่ใช่แบบนั้น..แต่ก็คงไม่ต่างเท่าไหร่” เขาทำเสียงเข้มมากจนฉันเริ่มทนไม่ไหว “คุณเพ้นท์ค่ะ!” ปึก! ฉันเท้าโต๊ะทำงานของเขาและเรียกเขาเสียงดัง “มีอะไรก็พูดเถอะค่ะแบบนี้ฉันเครียดไปด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าคุณกำลังเป็นอะไรและต้องอะไรเอาแต่พูดอะไรแบบนี้อยู่ได้...” “ผมอยากลองมีความสัมพันธ์อ่ะ” “คะ?!” “บอกตรง ๆ เลยนะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีเลยทั้งความสัมพันธ์และเพศสัมพันธ์” เขาทำหน้าจริงจังมาก “ละแล้วฉันจะช่วยยังไงละคะ?!” เพราะฉันเองก็ไม่ยังเคยเหมือนกัน T^T แต่ว่า...เขายังไม่เคยมีเรื่องอย่างว่าเลยมันเป็นไปได้เหรอ??? “ช่วยมาเป็น Friend with benefit ให้ผมหน่อยสิ” “Friend with...อะไรนะคะ?!” ไอ้ความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนนั่นน่ะเหรอ?! โอ๊ยยยยย!!ฉันปวดหัวมากนะ!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD