บทที่ 4

1749 Words
"พี่ภูผากับพี่เวหานี่นา วันนี้พวกเขาก็ยังฮอตเหมือนเดิมเลยนะ" "ช่างเขาสิ" "เหมือนคนๆ นั้นจะหายไปนะ" "คนๆ นั้น?" ฉันย้อนทวนด้วยความสงสัย ก่อนจะเผลอเหลียวหลังมองไปยังกลุ่มวายร้ายนั่นอีกครั้ง "เธอพูดถึงใครกันปูไท" "พี่ลําธารน่ะ เธอคงไม่รู้จักหรอก ในเมื่อเธอไม่ค่อยจะสนใจคนสามคนนี้สักเท่าไหร่" ฉันถอนหายใจทิ้งเบาๆ และในตอนที่กำลังจะหันกลับไปหาปูไทเหมือนเดิมอยู่นั่นเอง ฉันกลับต้องขนลุกซู่ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกสายตาของใครบางคนจับจ้องมา และแน่นอนมันไม่ใช่สายตาที่ดูเป็นมิตรนัก และที่น่าตกใจมากที่สุดในเวลานี้คงไม่ใช่อะไร นอกจากพบว่าสายตาของไอ้พี่ภูผาโรคจิตนั่นกำลังมองมาที่ฉันอยู่จริงๆ PHUPHA TALK กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมผู้หญิงที่ยัยโรคจิตแอบเข้าห้องน้ำชายทิ้งไว้ ทำผมรู้สึกคุ้นเคยแบบไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่เธอเดินจากไปแล้ว ผมได้หวนกลับไปที่ห้องน้ำชายห้องเดิมอีกครั้ง มันก็ยิ่งน่าตกใจเมื่อผมบังเอิญเจอสายคาดหัวดอกอัญชัน ซึ่งเป็นดอกไม้พันธุ์เดียวกันกับของผู้หญิงที่ผมตามหาอยู่ บังเอิญงั้นเหรอ? หรือมันเป็นเทรนด์นิยมของผู้หญิงช่วงนี้กัน? แต่ถึงจะรู้สึกสงสัยปนสับสน แต่ผมก็ไม่วายที่จะหยิบสายคาดหัวดอกอัญชันเส้นนั้นยัดใส่กระเป๋ามาด้วย "เธอ..." ผมร้องเสียงหลง เมื่อความคิดทั้งหมดหยุดลงพร้อมๆ กับเป้าหมายของสายตาที่ทำให้ผมเกิดคำถามในหัวมากมาย ยัยโรคจิตผ้าอนามัยแบบสอด! ยัยนั่นรีบหันขวับหลบสายตาผมในทันที ซึ่งผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปกวนประสาทเธอ ข้อหาที่ทำให้ผมสับสนมากขนาดนี้โดยไม่สนใจเสียงเรียกของเวหาเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ "ว่าไงยัยโรคจิต เจอกันอีกแล้วนะ" ผมเอ่ยคำทักทายทันทีที่ปรี่เข้าประชิดตัวเธอได้สำเร็จ และดูเหมือนยัยตัวดีจะไม่ยอมเงยหน้าสบตากับผมเลยสักนิด ต่างจากเพื่อนหน้าซื่อของเธอข้างๆ "ใครอยากจะเจอกับนายไม่ทราบ" เธอพ่นคำตอบกลับมาเสียงอุบอิบ "อย่าใจร้ายใส่ฉันนักสิที่รัก" “…” ผมเหลือบมองหน้ายัยหน้าซื่อข้างๆ เธอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากทัก "พวกน้องๆ เรียนคณะอะไร ปีไหนกันครับ?" "ปะ...ปี 2 คณะบริหารธุรกิจการจัดการค่ะ!" ยัยตัวดีง้างมือตบแขนเพื่อนตัวเองเบาๆ คล้ายกับไม่พอใจที่เพื่อนหล่อนให้คำตอบผม แต่นั่นล่ะ มันทำให้ผมได้รู้ว่าการจะตามไปแกล้งเธอตามที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ผมควรจะไปทางไหน "อย่าดึงหน้าทำเป็นเรียบร้อยสิ ในเมือธาตุแท้เธอมันยิ่งกว่าม้าพยศ" ผมหันกลับมาแว้งใส่เธออีกรอบ เพราะเริ่มรู้สึกสนุกกับท่าทางที่ทำอะไรผมคืนไม่ได้ของเธอ "..." "แถมยังชอบช่วยตัวเองในห้องน้ำชายเพื่อปลดปล่อยด้วยนะ" "เงียบสักทีได้ไหม!" เสียงหวานฉายแววความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน และนั่นทำให้ผมยิ่งอยากแกล้งเธอให้หนักมากขึ้นกว่านี้อีก "ยาคุมน่ะกินหรือยัง? ระวังท้องไม่มีพ่อนะครับที่รัก" ตึง!!! ยัยตัวดีลุกพรวดจากเก้าอี้ ถลึงตาจ้องผมด้วยท่าทางโกรธจัดท่ามกล่างเสียงซุบซิบต่างๆ นาๆ ของคนที่เห็นเหตุการณ์ พาลให้ยัยหน้าซื่อข้างๆ เธอลุกขึ้นตาม และนั่นทำให้ผมอดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ใจเย็นๆ นะอัญ" "ใจยงใจเย็นอะไรกัน ที่ห้องน้ำยังรูดกับพี่อยู่เลยไม่ใช่เหรอครับน้องอัญ" ผมจงใจพูดแหย่เธอหนักขึ้นไปอีก ยิ่งเห็นยัยตัวดีโกรธจนตัวสั่นแบบนี้แล้วมันรู้สึกเหมือนได้เอาคืนยังไงไม่รู้แฮะ! สะใจชะมัด!! "อย่ามาพูดมั่วๆ นะคะ!" เธอกระแทกเสียงตอบด้วยอาการโมโหโดยยังคงคุมน้ำเสียงและปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด "ถ้าให้ฉันต้องรูดกับพี่ สู้ฉันไปรูดกับเสาไฟข้างทางคงจะมันส์กว่าล่ะมั้งคะ" "ปากดีจริงๆ ถ้าได้รูดด้วยครั้งนึงคงจะเสียวใช่เล่นเลยนะ" ผมจงใจใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามปอยผมข้างหูของเธอ ก่อนจะเหลือบตามองเธอที่ดูจะไม่ยอมสบตาผมเลยสักนิด แถมยังเอาแต่ยืนนิ่งคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาใดๆ "หึ รูดเหรอ? พี่กำลังจะหาเรื่องฉันอยู่ใช่ไหมคะ?" "พี่พูดจริงๆ นะ มารูดกับพี่สักครั้งนึงท่าจะมันส์ดี" ผมเว้นช่วงหายใจเล็กน้อย ก่อนถือวิสาสะคว้าตัวเธอมากอดแน่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอาการขัดขืนไม่พอใจ "งั้นเรามารูดกันในร้านตอนนี้เลยเป็นไง?" ผมจงใจรุกเธอรุนแรงขึ้นไปอีก โดยการถือโอกาสใช้มือทั้งสองข้างกระชากชุดนักศึกษาตัวเล็กที่เธอสวมอยู่ออก จนกระดุมหลุดผึงออก เผยให้เห็นบราเซียร์สีดำตัวจิ๋วกับหน้าอกได้รูปที่ซ่อนอยู่ภายใน “นาย!!!” เธอโวยวายเสียงดังแข่งกับเสียงฮือฮาที่จับจ้องมายังเราทั้งคู่ไม่เลิก หล่อนง้างมือขึ้นสูงก่อนจะพุ่งเข้าใส่ผมในทันที แต่โชคดีที่ผมดันคว้าข้อมือเธอไว้ได้ซะก่อน "คิดจะตบฉันมันเร็วเกินไปที่รัก" ผมหัวเราะหึในลำคอ พลางใช้มืออีกข้างกระตุกยางรัดผมที่ถูกรวบเป็นบันบนหัวเธอออก ก่อนจะผละออกในทันที "เปลือยๆ โป๊ๆ ผมยุ่งๆ แบบนี้ เหมือนนางเอกหนังโป๊เลยว่ะ” ผมหัวเราะลั่น จ้องมองภาพหญิงสาวผมยุ่งเหยิงต่างจากครั้งแรกที่เราเจอกัน ทำให้เวหาเพื่อนรักที่มองเห็นเหตุการณ์หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังจนพาลให้คนอื่นๆ หัวเราะตามผมผู้ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในมหาวิทยาลัย "สภาพดูไม่ได้เลยนะที่รัก อาบน้ำสักหน่อยไหม?" ไวกว่าเสียง ผมรีบคว้าน้ำส้มคั้นบนโต๊ะมาไว้กับตัวก่อนจะเทมันรดหัวยัยตัวดีตรงหน้าท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ แต่มันก็น่าแปลก... ที่ยัยนี่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผมแกล้ง เพราะเธอไม่ยอมเดินหนี หรือร้องไห้โชว์ความอ่อนแอ แต่กลับยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอยู่แบบนั้น ต่างจากเพื่อนหน้าซื่อของเธอที่ดูจะเป็นห่วงท่าทีของเพื่อนตัวเองเหลือเกิน แล้วไง? ผมไม่สนใจหรอก ก็แกล้งมาขนาดนี้แล้วจะให้หยุดได้ยังไงไหว? ขอเอาคืนที่โดนยัยบ้านี่ตอกหน้าที่หน้าห้องน้ำสักหน่อยก็แล้วกัน! "น้ำส้มก็กินแล้วต่อไปเอาเค้กหน่อยไหมที่รัก?" ผมคว้าจานเค้กช็อกโกแลตบนโต๊ะที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดมาไว้กับตัว ทว่า...ทุกๆ อย่างกลับหยุดชะงักลง เมื่อเสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนราคาแพงของผมดังขึ้น "ขอตัวเดี๋ยวนะ" ผมบอกเธอยิ้มๆ อย่างนึกเสียดาย แล้ววางจานเค้กกลับลงที่เดิม ก่อนจะคว้าโทรศัพท์เดินหันหลังออกห่างจากเธอไปคุยเล็กน้อย [ไอ้ภู นี่ลุงเองนะ] เสียงเข้มๆ ที่ผ่านสายทำให้ผมรีบกรอกเสียงตอบกลับไปในทันที "ว่าไงลุงกฤษณ์?" [เมียเอ็งที่ให้ลุงช่วยเช็คให้น่ะ ลุงรู้ตัวแล้วนะ] "ยัยนั่นเป็นใคร?" [เด็กคนนั้นชื่อ นางสาวอัญชลี อัสระศิริ ชื่อเล่นชื่ออัญชัน เรียนอยู่ปี 2 คณะบริหารการจัดการ] อะ...ไอ้ลุงกฤษณ์มันว่าไงนะ!! [ทางบ้านดูเหมือนจะเป็นเจ้าของบริษัทการบินชื่อดังในเมือง จัดว่ามีหน้ามีตาพอสมควรเลยละ... ไอ้หลานรักของลุงนี่ตาถึงจริงๆ!] สิ้นเสียงของลุงกฤษณ์ ขาทั้งสองข้างของผมแทบทรุด สมาร์ทโฟนในมือเกือบร่วงหลุดมือเพราะรู้สึกอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูก อัญชลีงั้นเหรอ? ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะได้ยินว่ายัยหน้าจืดนี้เรียกยัยตัวแสบนี้ว่าอัญเหมือนกัน... แถมสองคนนี้ก็อยู่ปี 2 คณะบริหารการจัดการอีก หนะ นี่อย่าบอกนะว่า... "อัญชัน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ยัยหน้าจืดพยายามเรียกเพื่อนตัวเองที่ยืนนิ่งงัน ก่อนจะเริ่มเร่งเสียงให้ดังขึ้น "อัญชลี!!" ผมเหลียวหลังมองยัยตัวแสบอีกครั้งช้าๆ ท่าทางเธอในตอนนี้ดูจะโกรธและโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟเป็นอย่างมาก ให้ตายยังไงผมก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองอยู่ดี… ผมไม่ควรจะเรียกเธอว่ายัยตัวแสบแต่ควรจะต้องเรียกเธอว่าอัญชันถึงจะถูก "ธะ... เธอ ไม่ใช่สิ" “…” "หนะ...น้องอัญชัน" "หุบปากไปซะ!" เธอเค้นเสียงโกรธเคืองสั่ง และนั่นทำให้ผมเงียบเสียงลงเหมือนถูกสะกด ท่ามกลางสายตางุนงงของผู้เห็นเหตุการณ์ในร้าน รวมไปถึงไอ้เวหาด้วยเช่นกัน "เฮ้ๆ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ?" ไอ้เวหารีบฝ่าฝูงคนพุ่งเข้ามายังเราทั้งคู่ อาจเป็นเพราะว่ามันคงเห็นสถานการณ์ที่ต่างออกไป "น้องอัญชันครับ... คะ...คือพี่ภูขอโทษนะ" ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียง พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกแบบรีบๆ เพื่อหวังจะเอาไปสวมทับให้เธอ ทว่า... "ไปตายซะไอ้เวรเอ้ย!!" อัญชันไม่ยอมฟังผม เธอรีบคว้าจานเค้กบนโต๊ะพุ่งเข้าโปะใส่หน้าของผมแบบเต็มๆ ท่ามกลางความตกใจของนักศึกษาสาวๆ สาวกความหล่อของผม "คนอย่างพี่น่ะ แม่งสวะ!!!" เธอโวยวายลั่นร้านคล้ายกับปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่ผมทำใส่เธอเอาไว้ออกมา และยังไม่ทันที่ผมจะเริ่มอ้าปากเอ่ยคำแก้ตัว ผลัก!! ฟุ่บ!! อาการเจ็บจี๊ดเกิดขึ้นทันทีที่อัญชันพุ่งเตะขาผ่าหมากใส่ผมที่ไม่ทันระวังตัว จนล้มฟุบคุกเข่าลงกับพื้น เพราะความจุกและปวดหนึบทำให้ผมหมดแรงที่จะลุกขึ้นยืน มันทั้งโคตรจุก โคตรเจ็บ และโคตรอาย อายสาวๆ ไม่เท่าไหร่ แต่อายไอ้เวเนี่ยสิ แม่งยิ่งกว่าโคตรของโคตรอาย!! "หนะ...น้องอัญ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD