"พี่ภูผากับพี่เวหานี่นา วันนี้พวกเขาก็ยังฮอตเหมือนเดิมเลยนะ"
"ช่างเขาสิ"
"เหมือนคนๆ นั้นจะหายไปนะ"
"คนๆ นั้น?" ฉันย้อนทวนด้วยความสงสัย ก่อนจะเผลอเหลียวหลังมองไปยังกลุ่มวายร้ายนั่นอีกครั้ง "เธอพูดถึงใครกันปูไท"
"พี่ลําธารน่ะ เธอคงไม่รู้จักหรอก ในเมื่อเธอไม่ค่อยจะสนใจคนสามคนนี้สักเท่าไหร่"
ฉันถอนหายใจทิ้งเบาๆ และในตอนที่กำลังจะหันกลับไปหาปูไทเหมือนเดิมอยู่นั่นเอง ฉันกลับต้องขนลุกซู่ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกสายตาของใครบางคนจับจ้องมา และแน่นอนมันไม่ใช่สายตาที่ดูเป็นมิตรนัก
และที่น่าตกใจมากที่สุดในเวลานี้คงไม่ใช่อะไร นอกจากพบว่าสายตาของไอ้พี่ภูผาโรคจิตนั่นกำลังมองมาที่ฉันอยู่จริงๆ
PHUPHA TALK
กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมผู้หญิงที่ยัยโรคจิตแอบเข้าห้องน้ำชายทิ้งไว้ ทำผมรู้สึกคุ้นเคยแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังจากที่เธอเดินจากไปแล้ว ผมได้หวนกลับไปที่ห้องน้ำชายห้องเดิมอีกครั้ง มันก็ยิ่งน่าตกใจเมื่อผมบังเอิญเจอสายคาดหัวดอกอัญชัน ซึ่งเป็นดอกไม้พันธุ์เดียวกันกับของผู้หญิงที่ผมตามหาอยู่
บังเอิญงั้นเหรอ?
หรือมันเป็นเทรนด์นิยมของผู้หญิงช่วงนี้กัน?
แต่ถึงจะรู้สึกสงสัยปนสับสน แต่ผมก็ไม่วายที่จะหยิบสายคาดหัวดอกอัญชันเส้นนั้นยัดใส่กระเป๋ามาด้วย
"เธอ..." ผมร้องเสียงหลง เมื่อความคิดทั้งหมดหยุดลงพร้อมๆ กับเป้าหมายของสายตาที่ทำให้ผมเกิดคำถามในหัวมากมาย
ยัยโรคจิตผ้าอนามัยแบบสอด!
ยัยนั่นรีบหันขวับหลบสายตาผมในทันที ซึ่งผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปกวนประสาทเธอ ข้อหาที่ทำให้ผมสับสนมากขนาดนี้โดยไม่สนใจเสียงเรียกของเวหาเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ
"ว่าไงยัยโรคจิต เจอกันอีกแล้วนะ"
ผมเอ่ยคำทักทายทันทีที่ปรี่เข้าประชิดตัวเธอได้สำเร็จ และดูเหมือนยัยตัวดีจะไม่ยอมเงยหน้าสบตากับผมเลยสักนิด ต่างจากเพื่อนหน้าซื่อของเธอข้างๆ
"ใครอยากจะเจอกับนายไม่ทราบ" เธอพ่นคำตอบกลับมาเสียงอุบอิบ
"อย่าใจร้ายใส่ฉันนักสิที่รัก"
“…”
ผมเหลือบมองหน้ายัยหน้าซื่อข้างๆ เธอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากทัก
"พวกน้องๆ เรียนคณะอะไร ปีไหนกันครับ?"
"ปะ...ปี 2 คณะบริหารธุรกิจการจัดการค่ะ!"
ยัยตัวดีง้างมือตบแขนเพื่อนตัวเองเบาๆ คล้ายกับไม่พอใจที่เพื่อนหล่อนให้คำตอบผม แต่นั่นล่ะ มันทำให้ผมได้รู้ว่าการจะตามไปแกล้งเธอตามที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ผมควรจะไปทางไหน
"อย่าดึงหน้าทำเป็นเรียบร้อยสิ ในเมือธาตุแท้เธอมันยิ่งกว่าม้าพยศ" ผมหันกลับมาแว้งใส่เธออีกรอบ เพราะเริ่มรู้สึกสนุกกับท่าทางที่ทำอะไรผมคืนไม่ได้ของเธอ
"..."
"แถมยังชอบช่วยตัวเองในห้องน้ำชายเพื่อปลดปล่อยด้วยนะ"
"เงียบสักทีได้ไหม!" เสียงหวานฉายแววความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน และนั่นทำให้ผมยิ่งอยากแกล้งเธอให้หนักมากขึ้นกว่านี้อีก
"ยาคุมน่ะกินหรือยัง? ระวังท้องไม่มีพ่อนะครับที่รัก"
ตึง!!!
ยัยตัวดีลุกพรวดจากเก้าอี้ ถลึงตาจ้องผมด้วยท่าทางโกรธจัดท่ามกล่างเสียงซุบซิบต่างๆ นาๆ ของคนที่เห็นเหตุการณ์ พาลให้ยัยหน้าซื่อข้างๆ เธอลุกขึ้นตาม และนั่นทำให้ผมอดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
"ใจเย็นๆ นะอัญ"
"ใจยงใจเย็นอะไรกัน ที่ห้องน้ำยังรูดกับพี่อยู่เลยไม่ใช่เหรอครับน้องอัญ" ผมจงใจพูดแหย่เธอหนักขึ้นไปอีก ยิ่งเห็นยัยตัวดีโกรธจนตัวสั่นแบบนี้แล้วมันรู้สึกเหมือนได้เอาคืนยังไงไม่รู้แฮะ!
สะใจชะมัด!!
"อย่ามาพูดมั่วๆ นะคะ!" เธอกระแทกเสียงตอบด้วยอาการโมโหโดยยังคงคุมน้ำเสียงและปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด "ถ้าให้ฉันต้องรูดกับพี่ สู้ฉันไปรูดกับเสาไฟข้างทางคงจะมันส์กว่าล่ะมั้งคะ"
"ปากดีจริงๆ ถ้าได้รูดด้วยครั้งนึงคงจะเสียวใช่เล่นเลยนะ" ผมจงใจใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามปอยผมข้างหูของเธอ ก่อนจะเหลือบตามองเธอที่ดูจะไม่ยอมสบตาผมเลยสักนิด แถมยังเอาแต่ยืนนิ่งคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
"หึ รูดเหรอ? พี่กำลังจะหาเรื่องฉันอยู่ใช่ไหมคะ?"
"พี่พูดจริงๆ นะ มารูดกับพี่สักครั้งนึงท่าจะมันส์ดี" ผมเว้นช่วงหายใจเล็กน้อย ก่อนถือวิสาสะคว้าตัวเธอมากอดแน่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอาการขัดขืนไม่พอใจ "งั้นเรามารูดกันในร้านตอนนี้เลยเป็นไง?"
ผมจงใจรุกเธอรุนแรงขึ้นไปอีก โดยการถือโอกาสใช้มือทั้งสองข้างกระชากชุดนักศึกษาตัวเล็กที่เธอสวมอยู่ออก จนกระดุมหลุดผึงออก เผยให้เห็นบราเซียร์สีดำตัวจิ๋วกับหน้าอกได้รูปที่ซ่อนอยู่ภายใน
“นาย!!!”
เธอโวยวายเสียงดังแข่งกับเสียงฮือฮาที่จับจ้องมายังเราทั้งคู่ไม่เลิก หล่อนง้างมือขึ้นสูงก่อนจะพุ่งเข้าใส่ผมในทันที แต่โชคดีที่ผมดันคว้าข้อมือเธอไว้ได้ซะก่อน
"คิดจะตบฉันมันเร็วเกินไปที่รัก" ผมหัวเราะหึในลำคอ พลางใช้มืออีกข้างกระตุกยางรัดผมที่ถูกรวบเป็นบันบนหัวเธอออก ก่อนจะผละออกในทันที "เปลือยๆ โป๊ๆ ผมยุ่งๆ แบบนี้ เหมือนนางเอกหนังโป๊เลยว่ะ”
ผมหัวเราะลั่น จ้องมองภาพหญิงสาวผมยุ่งเหยิงต่างจากครั้งแรกที่เราเจอกัน ทำให้เวหาเพื่อนรักที่มองเห็นเหตุการณ์หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังจนพาลให้คนอื่นๆ หัวเราะตามผมผู้ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในมหาวิทยาลัย
"สภาพดูไม่ได้เลยนะที่รัก อาบน้ำสักหน่อยไหม?" ไวกว่าเสียง ผมรีบคว้าน้ำส้มคั้นบนโต๊ะมาไว้กับตัวก่อนจะเทมันรดหัวยัยตัวดีตรงหน้าท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์
แต่มันก็น่าแปลก... ที่ยัยนี่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผมแกล้ง เพราะเธอไม่ยอมเดินหนี หรือร้องไห้โชว์ความอ่อนแอ แต่กลับยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอยู่แบบนั้น ต่างจากเพื่อนหน้าซื่อของเธอที่ดูจะเป็นห่วงท่าทีของเพื่อนตัวเองเหลือเกิน
แล้วไง? ผมไม่สนใจหรอก ก็แกล้งมาขนาดนี้แล้วจะให้หยุดได้ยังไงไหว? ขอเอาคืนที่โดนยัยบ้านี่ตอกหน้าที่หน้าห้องน้ำสักหน่อยก็แล้วกัน!
"น้ำส้มก็กินแล้วต่อไปเอาเค้กหน่อยไหมที่รัก?"
ผมคว้าจานเค้กช็อกโกแลตบนโต๊ะที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดมาไว้กับตัว ทว่า...ทุกๆ อย่างกลับหยุดชะงักลง เมื่อเสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนราคาแพงของผมดังขึ้น
"ขอตัวเดี๋ยวนะ" ผมบอกเธอยิ้มๆ อย่างนึกเสียดาย แล้ววางจานเค้กกลับลงที่เดิม ก่อนจะคว้าโทรศัพท์เดินหันหลังออกห่างจากเธอไปคุยเล็กน้อย
[ไอ้ภู นี่ลุงเองนะ] เสียงเข้มๆ ที่ผ่านสายทำให้ผมรีบกรอกเสียงตอบกลับไปในทันที
"ว่าไงลุงกฤษณ์?"
[เมียเอ็งที่ให้ลุงช่วยเช็คให้น่ะ ลุงรู้ตัวแล้วนะ]
"ยัยนั่นเป็นใคร?"
[เด็กคนนั้นชื่อ นางสาวอัญชลี อัสระศิริ ชื่อเล่นชื่ออัญชัน เรียนอยู่ปี 2 คณะบริหารการจัดการ]
อะ...ไอ้ลุงกฤษณ์มันว่าไงนะ!!
[ทางบ้านดูเหมือนจะเป็นเจ้าของบริษัทการบินชื่อดังในเมือง จัดว่ามีหน้ามีตาพอสมควรเลยละ... ไอ้หลานรักของลุงนี่ตาถึงจริงๆ!]
สิ้นเสียงของลุงกฤษณ์ ขาทั้งสองข้างของผมแทบทรุด สมาร์ทโฟนในมือเกือบร่วงหลุดมือเพราะรู้สึกอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูก
อัญชลีงั้นเหรอ? ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะได้ยินว่ายัยหน้าจืดนี้เรียกยัยตัวแสบนี้ว่าอัญเหมือนกัน... แถมสองคนนี้ก็อยู่ปี 2 คณะบริหารการจัดการอีก หนะ นี่อย่าบอกนะว่า...
"อัญชัน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ยัยหน้าจืดพยายามเรียกเพื่อนตัวเองที่ยืนนิ่งงัน ก่อนจะเริ่มเร่งเสียงให้ดังขึ้น "อัญชลี!!"
ผมเหลียวหลังมองยัยตัวแสบอีกครั้งช้าๆ ท่าทางเธอในตอนนี้ดูจะโกรธและโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟเป็นอย่างมาก ให้ตายยังไงผมก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองอยู่ดี…
ผมไม่ควรจะเรียกเธอว่ายัยตัวแสบแต่ควรจะต้องเรียกเธอว่าอัญชันถึงจะถูก
"ธะ... เธอ ไม่ใช่สิ"
“…”
"หนะ...น้องอัญชัน"
"หุบปากไปซะ!" เธอเค้นเสียงโกรธเคืองสั่ง และนั่นทำให้ผมเงียบเสียงลงเหมือนถูกสะกด ท่ามกลางสายตางุนงงของผู้เห็นเหตุการณ์ในร้าน รวมไปถึงไอ้เวหาด้วยเช่นกัน
"เฮ้ๆ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ?" ไอ้เวหารีบฝ่าฝูงคนพุ่งเข้ามายังเราทั้งคู่ อาจเป็นเพราะว่ามันคงเห็นสถานการณ์ที่ต่างออกไป
"น้องอัญชันครับ... คะ...คือพี่ภูขอโทษนะ" ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียง พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกแบบรีบๆ เพื่อหวังจะเอาไปสวมทับให้เธอ ทว่า...
"ไปตายซะไอ้เวรเอ้ย!!" อัญชันไม่ยอมฟังผม เธอรีบคว้าจานเค้กบนโต๊ะพุ่งเข้าโปะใส่หน้าของผมแบบเต็มๆ ท่ามกลางความตกใจของนักศึกษาสาวๆ สาวกความหล่อของผม
"คนอย่างพี่น่ะ แม่งสวะ!!!" เธอโวยวายลั่นร้านคล้ายกับปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่ผมทำใส่เธอเอาไว้ออกมา และยังไม่ทันที่ผมจะเริ่มอ้าปากเอ่ยคำแก้ตัว
ผลัก!!
ฟุ่บ!!
อาการเจ็บจี๊ดเกิดขึ้นทันทีที่อัญชันพุ่งเตะขาผ่าหมากใส่ผมที่ไม่ทันระวังตัว จนล้มฟุบคุกเข่าลงกับพื้น เพราะความจุกและปวดหนึบทำให้ผมหมดแรงที่จะลุกขึ้นยืน
มันทั้งโคตรจุก โคตรเจ็บ และโคตรอาย อายสาวๆ ไม่เท่าไหร่ แต่อายไอ้เวเนี่ยสิ แม่งยิ่งกว่าโคตรของโคตรอาย!!
"หนะ...น้องอัญ"