บทที่ 3

1564 Words
"กางเกงในสีขาวงั้นเหรอ? แบบยังเป็นแบบธรรมดาซะด้วย เชยชะมัด" "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้โรคจิต ไอ้ถ้ำมอง!!!" "หุบปากน่า! เธอนั่นแหละที่มันโรคจิต!!" เสียงตะคอกของชายแปลกหน้าทำฉันหยุดเสียงร้องโวยวายในทันที เมื่อสมองสั่งการได้ว่าฉันนี่แหละที่ควรจะโดนกล่าวหาแบบนั้น เพราะดันอุตริเข้าห้องน้ำชาย "เธอมันยัยโรคจิต" "นายนั่นแหละ! ถ้ารู้ว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ จะพังประตูเข้ามาทำไมล่ะ!" "คนเข้าห้องน้ำอย่างน้อยมันต้องมีเสียงน้ำหรือเสียงอะไรบ้าง แต่ว่าห้องนี้มันเงียบเกินไป ฉันเลยคิดว่ามันแปลกๆ" เขาหลุดยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ "ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ...ว่าจะมีนักศึกษาสาวๆ ท่าทางเรียบร้อย แอบเข้ามาช่วยตัวเองในห้องน้ำชายแบบนี้" "อย่ามาดูถกฉันนะ!!!" ฉันตวาดขัดเสียงดัง "ห้องน้ำห้องข้างๆ มันสกปรกฉันเข้าไม่ได้ ฉันเลยจำเป็นต้องมาเข้าที่ห้องนี้ต่างหาก" ชายคนดังกล่าวไม่ตอบใดๆ กลับมา แต่กลับหัวเราะหึในลำคอเบาๆ เขาค่อยๆ ดึงแว่นกันแดดที่สวมอยู่ออกช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัย จนต้องเผลออุทานออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว “พี่ภูผา!!!” "รู้จักฉันด้วยเหรอ? นึกว่าจะไม่รู้จักซะอีก" เขาเหยียดยิ้มน่าหมั่นไส้ ก่อนจะพ่นคำพูดคำจาเลวร้ายออกมาอีก "จะออกไปได้ยัง? คนจะเยี่ยว หรือถ้าจะยืนดูฉันยืนเยี่ยวตรงนี้ฉันก็ยินดีนะ” "ทุเรศ! ใครอยากจะไปดูไอ้นั่นของนายกัน อย่าเอาฉันไปเหมารวมกับสาวๆ ของนายนักสิ" ฉันเอ่ยปากแซะรีบก้าวลงจากคอห่านทั้งๆ อย่างนั้น รู้อะไรไหม? ทั่วหน้าของฉันตอนนี้มันชาเพราะความอับอาย จนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ทั้งที่อยากจะขุดงัดคำพูดแรงๆ โต้กลับไปบ้างก็ตามที แต่พอนึกถึงหน้าพ่อกับแม่แล้ว... คำพูดที่มีในหัวมันกลับปลิวหายไปหมด ฉันรีบตรงไปคว้ากระเป๋าสะพาย เดินชนพี่ภูผาออกไปแบบรีบๆ เพราะไม่รู้จะแบกหน้าไปสู้กับเขาอย่างไรดี ยิ่งเขาเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนอยู่ด้วยแล้ว ฉันก็ยิ่งอยากจะแทรกแผ่นดินหนีหายไปมันเสียตอนนี้ "เฮ้! เดี๋ยวสิ เธอลืมของ!" เสียงเรียกของพี่ภูผาทำเอาฉันหยุดฝีเท้าโดยอัตโนมัติ รีบเหลียวหลังมองกลับไปด้วยความสงสัย "เธอลืมซองยาคุมกับกล่องผ้าอนามัย..." เขาเงียบเสียงลงเล็กน้อยแล้วเหลือบตาอ่านฉลากข้างกล่องผ้าอนามัยก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางยียวน "ผ้าอนามัยแบบสอดซะด้วย เวลาสอดเข้าไปท่าทางจะเสียวไม่ใช่เล่น” "โรคจิต!!" ฉันแผดเสียงลั่นรีบก้มหน้าจ้ำเท้าตรงไปคว้าของจากมือของเขาแบบไม่มีทางเลือก พร้อมด้วยความอายที่แบกไว้กับตัวแทบไม่ไหว ทว่า เขากลับคว้าข้อมือฉันเอาไว้แน่น พร้อมด้วยคำพูดกวนประสาทประโยคสั้นๆ "ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเนี่ยเพราะชอบความเสียวใช่ไหมละ?" "ปะ...ปล่อยนะ!!" "ถ้าอยากเสียว พี่ช่วยเธอได้นะ สนหรือเปล่าล่ะ?" ฉันเม้มปากแน่นรวบรวมความกล้าสะบัดตัวออกจากมือหนาของเขาอย่างแรง ก่อนจะเงยหน้าสบตากลับไปตรงๆ เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าฉันไม่พอใจมากแค่ไหน "ถ้าฉันอยากเสียว เดี๋ยวฉันหารูดเอาตามเสาไฟได้ ไม่ต้องพึ่งของกระจอกๆ แบบที่พี่มีพกติดตัวหรอกค่ะ!” “ธะ…เธอ!!!” "กรุณาเก็บของๆ พี่เอาไว้ตรงนั้นเถอะค่ะ พอดีฉันไม่ชอบเกลือกกลั้วกับของต่ำๆ ไร้น้ำยามีดีแค่พรีเซนต์สักเท่าไหร่" ฉันเหยียดยิ้มใส่ร่างสูงที่อ้าปากพะงาบๆ เหมือนพยายามจะพูดอะไร และแน่นอนฉันไม่รอให้เขาเป็นฝ่ายพูดออกมาบ้างแน่ๆ จึงรีบชิงพูดขัดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อตัดบท "ขอตัวก่อนนะ...พี่-ภู-ผา!" สิ้นเสียง ฉันรีบจ้ำอ้าวออกจากบริเวณหน้าห้องน้ำชายไปทันทีคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ใครอยากจะนอนกับเธอจริงๆ กันล่ะ! มันเป็นมุขหรอกยัยโรคจิตเอ้ย ต่อให้เธอมาแก้ผ้าต่อหน้าฉัน ฉันก็เอาไม่ลงหรอก เผลอๆ จะกระทืบซ้ำด้วย อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย!!!" ฉันหลุดยิ้มสะใจกับน้ำเสียงลนลานของผู้ชายเบื้องหลัง และรีบเร่งฝีเท้าเดินต่อไปเพื่อหวังจะไปให้พ้นๆ เหตุการณ์บริเวณนั้นเสียที ตั้งแต่ที่พ่อเริ่มซื้อหุ้นกับสนามบินยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง จนตอนนี้มีเงินเป็นกอบเป็นกำ และมีชื่อเป็นหนึ่งในสามของหุ้นส่วนของบริษัทสนามบินนั้น ฉันก็อยากให้ตัวเองที่เป็นเพียงลูกสาวคนเดียว เป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวบ้าง... ฉันไม่ได้ทำเพราะคำว่าเศรษฐีใหม่แต่ทำเพื่อหน้าตาของครอบครัว ดังนั้น… อะไรหรือใครที่ฉันอยู่ใกล้แล้วจะทำให้ฉันอดกลั้นไม่ไหว ฉันควรจะถอยห่างออกจากสิ่งของและคนเหล่านั้นให้ไกลที่สุด...รวมไปถึงเรื่องที่ฉันเสียความบริสุทธิ์ให้ตัวผู้ที่ไหนก็ไม่รู้ ทุกอย่างมันจะเป็นความลับที่แม้แต่กระทั่งปูไทเพื่อนรักของฉันก็จะรู้ไม่ได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ชื่อภูผาอะไรนั่น ฉันต้องรีบออกห่างจากเขาให้ไกลที่สุดชนิดที่ว่าอย่าได้เจอหน้ากันอีกเลยยิ่งดี! "อัญชัน!" เสียงหวานๆ ของเพื่อนรัก 'ปูไท' เอ่ยปากทักทันทีที่ฉันผลักประตูร้านกาแฟประจำมหาวิทยาลัยเข้าไปด้วยท่าทางหัวเสีย จนเธอต้องเอ่ยปากทักขึ้นเป็นหนที่สองขณะที่ฉันเดินตรงเข้าไปหาที่โต๊ะ "เป็นอะไรรึเปล่าอัญ ทำไมหน้ามุ่ยแบบนั้นละ?" "ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่ระหว่างทางเจอหมามันไล่นิดหน่อยน่ะ" ฉันตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มเพื่อปัดความสงสัยของเพื่อนรัก และทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด "หมาในมหาลัยรึเปล่า?" "ประมาณนั้นแหละ" ฉันตอบตัดบทพลางคว้าเมนูบนโต๊ะขึ้นมามอง ก่อนจะเริ่มพูดเปลี่ยนเรื่อง "หิวแล้ว กินอะไรดีล่ะ?” "ฉันขอนมปั่นเหมือนเดิมจ้ะ" ปูไทตอบยิ้มๆ ฉันรีบวางเมนูลงกับโต๊ะ แล้วลุกเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มและเค้กตามที่ตั้งใจ ก่อนจะเดินย้อนกลับมานั่งที่เดิมเพื่อเริ่มบทสนทนากับเพื่อนรักต่อ “เป็นยังไงบ้าง?” "ฉันเหรอ?" ปูไทยิ้มกว้าง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อม "ถ้าอัญหมายถึงฉัน ฉันสบายดีจ้ะ" "หมายถึงเรื่องทางบ้านของเธอน่ะ" คำถามของฉันทำเอาคนฟังหุบยิ้มลง แววตาและท่าทางสดใสเมื่อครู่ดูจะหายไปในทันที "ไม่คอยดีเท่าไหร่ เมื่อคืนพ่อเมาอาละวาดแม่อีกแล้ว..." ริมฝีปากและสีหน้าของปูไทที่ดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด มันช่างดูไม่เหมาะเลย ใบหน้าเรียวสวยแฝงไปด้วยความน่ารักต้องเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าสิ "ลำพังแค่หาเงินมาจ่ายค่าเทอมมหา’ลัยก็ลำบากพออยู่แล้ว แต่ว่าพ่อฉันเนี่ยสิ…" เสียงหวานๆ เริ่มสั่นเครือ จนฉันทนไม่ไหวต้องร้องห้ามออกไป "พอเถอะ ถ้าขาดเหลืออะไรเธอบอกฉันได้ตลอดนะปูไท" “…” "ต้องยิ้มให้มันมากๆ อย่าทำหน้าแบบนี้ให้ฉันเห็นอีก มันดูไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด" "อือจ้ะ... ฉันจะพยายามนะ" ฉันฉีกยิ้มมุมปากให้กับคำพูดเพื่อนรักเล็กน้อย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เครื่องดื่มและเค้กที่เดินไปสั่งไว้ ก่อนหน้านี้มาเสิร์ฟพอดิบพอดี "ทะ เท่าไหร่คะ" ปูไทรีบชิงถามราคาพร้อมทั้งควักเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาด้วยท่าทางรีบร้อน "เค้กช็อกโกแลต 2 ชิ้น น้ำส้มปั่น 1 นมปั่น 1 ทั้งหมดก็ 320 บาทค่ะ" "นี่จ้ะ" ฉันรีบพูดตัดบท รีบจ่ายเงินตัดหน้าเพื่อนรักแบบไม่สนใจ "มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง กินให้อิ่ม เก็บแรงไว้ทำงานพิเศษเถอะ" "รบกวนเธออีกแล้ว..." "ไม่เป็นไรหรอก ก็เราเพื่อนกันนี่" ปูไทฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเลื่อนจานเค้กช็อกโกแลตตรงหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วตักเข้าปากด้วยสีหน้าที่มีความสุขแบบสุดๆ ซึ่งฉันคิดว่าสีหน้าและท่าทางของเธอตอนนี้น่ารักที่สุด กริ๊งงง ~ เสียงกระดิ่งประตูร้านกาแฟดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงฮือฮาของนักศึกษาสาวๆ ที่เข้ามาใช้บริการกันในร้าน ทำให้ฉันต้องเหลียวหลังมองบุคคลที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในร้านด้วยความสงสัย ร่างสูงในชุดนักศึกษาพร้อมด้วยแว่นกันแดดสีดำกับเรือนผมสีทองซึ่งถูกจัดแต่งทรงมาอย่างดีทำฉันรีบหันขวับกลับมาที่จานเค้กและแก้วน้ำส้มคั้นของตัวเองในทันที "เป็นอะไรไปเหรออัญ?" ปูไทเอ่ยปากถามทันทีที่เห็นท่าทางมีพิรุธของฉัน "ปะ...เปล่า" เธอย่นคิ้วมองอย่างนึกสงสัย ก่อนจะเป็นฝ่ายปรายตามองไปยังวายร้ายที่ฉันไม่ชอบขี้หน้า "พี่ภูผากับพี่เวหานี่นา วันนี้พวกเขาก็ยังฮอตเหมือนเดิมเลยนะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD