กล้องส่องชู้

แต่งกับพี่ดีแน่

ตอนที่ 2

“บรรยากาศดีจังเลยค่ะ” เอมอรเอ่ยขึ้นหลังจากชม บรรยากาศกลางแม่น้ำปิง แพอาหารถูกเรือลากจูงสวนกระแสน้ำขึ้นไป มองเห็นแสงสีภายในเมืองยามค่ำคืน แพถูกลากจูงคดเคี้ยวไปตามลำน้ำ ห้องอาหารระดับวีไอพีสำหรับสองที่ ทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว

“เอมชอบมั้ย”

“ชอบค่ะ” สายลมพัดเข้ามาเป็นระยะ ๆ อากาศเย็นกำลังดี อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็ดึงมือของเธอไปกุมเอาไว้แล้วพูดขึ้น

“เอม..แต่งงานกับพี่ได้มั้ย” ณัฐกิตติ์หยิบแหวนทองคำในกระเป๋าเสื้อส่งให้หญิงสาว เขาไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากนัก แต่บรรยากาศกลางแม่น้ำก็ทำให้คำขอครั้งนี้สุดแสนจะโรแมนติก

“พูดแบบนี้...พี่จะล้อเอมเล่นใช่มั้ยคะ” เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่หญิงสาวคิดว่าเขาพูดเรื่องจริง แต่เธอก็เขินจนต้องพูดมันออกมา พูดจบเธอก็ยิ้มแบบอาย ๆ เสหันมองไปทางแม่น้ำ

“ไม่นะเอม เราก็คบกันมา..ตั้งหนึ่งปีแล้ว พี่ก็เลย..อยากจะขอเอมแต่งงาน..พี่อยากดูแลเอม..ครับ” กว่าที่เขาจะเรียบเรียงคำพูดให้สวยหรูได้ก็ทำเอาเกือบแย่ เพราะไม่เคยขอผู้หญิงคนไหนแต่งงานมาก่อนในชีวิต

“พี่คิดดีแล้วเหรอคะ..เอมเป็นแค่แม่ค้าขายกาแฟ ไม่มีอนาคตหรอกนะคะ หนี้สินก็มีตั้งเยอะ จะเป็นภาระให้พี่เปล่า ๆ นะสิ” ที่เธอเรียนจบมาแล้วยังไม่มีใคร ก็เพราะไม่อยากให้คนคนนั้นต้องมารับภาระหนี้สิน แม่ของเธอนั้นมีหนี้เยอะ รวมทั้งตัวของเธอด้วย

“ไม่หรอกจ้ะ...เรามาสร้างอนาคตด้วยกันสิครับ พี่จะไม่ให้เอมลำบากเลย”

“พี่พูดจริงเหรอคะ”

“จริงสิเอม...พี่หลงรักเอมตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน” เอมอรนึกภาพเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เขามาประคองเธอไม่ให้หกล้มลงมาจากการปีนเก้าอี้ขึ้นไปกางเต็นท์สนาม และคิดว่าณัฐกิตติ์จะสามารถดูแลให้ความสุขกับเธอได้ อีกอย่างเขาก็เป็นสุภาพบุรุษไม่เคยล่วงเกินเธอเลย

“อืม...แต่งก็แต่งค่ะ”

“ขอบคุณนะครับ...” ณัฐกิตติ์ถือโอกาสหอมแก้มบาริสต้าคนสวย

หลังจากที่ณัฐกิตติ์ได้ขอเอมอรแต่งงานสำเร็จ ทางญาติผู้ใหญ่ก็มาสู่ขอเอมอร ทั้งคู่แต่งงานตามพิธีแบบชาวเหนือ

สามปีผ่านไป

ณัฐกิตติ์แต่งงานกับเอมอรได้สามปีแล้ว ปัจจุบันเขาอายุ 35 และภรรยา อายุ 26 และตอนนี้เอมอรก็ได้ไปทำงานเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง กิจการร้านกาแฟที่เป็นอาชีพของหญิงสาวก็เลยต้องปิดตัวลง ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ประสบปัญหาในเรื่องของโควิดระบาดที่ผ่านมา

“เอมไปทำงานก่อนนะพี่บอล”

“เอมถ้างานประชาสัมพันธ์มันเหนื่อยมากนัก เอมยังอยากจะเปิดร้านกาแฟอยู่มั้ย พี่จะให้เพื่อนหาทำเลใหม่ให้”

“เอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะพี่บอล..เอมว่าทำงานนี้ไปก่อน ส่วนร้านกาแฟเอาไว้ให้เศรษฐกิจดีกว่านี้อีกสักหน่อยค่อยเปิดก็ได้ค่ะ”

ณัฐกิตติ์ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นรวม ๆ โอที และค่าตกเบิกต่าง ๆ รวมกันก็สี่หมื่นห้า อีกอย่างณัฐกิตติไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิง เงินจึงเหลือมาให้ภรรยาในแต่ละเดือนเยอะพอสมควร ส่วนเอมอร ที่ผันตัวไปทำงานเป็นสาวประชาสัมพันธ์ของโรงแรม

ก็ทำให้เธอต้องแต่งตัวสวยทุกวัน จากที่เธอไม่ค่อยแต่งหน้า ก็ต้องแต่งหน้าทุกวัน และพื้นฐานเอมอรเป็นคนที่มีบุคลิคดีสวยสง่าอยู่แล้ว แค่แต่งหน้าทาปากก็สวยหยาดเยิ้มอย่าบอกใครเชียว ตากลมโตใบหน้ารูปไข่ ปากเรียวเล็กจมูกโด่งเชิดขึ้น ทำให้เธอสวยขึ้นตั้งเป็นกองแถมรูปร่างก็สะโอดสะองค์ ผิวขาวละเอียดใสแบบสาวเหนือ เอมอรจึงเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ โดยเฉพาะแขกที่มาเห็นเธอ เพราะพวกเขาทั้งหลายไม่รู้ว่าประชาสัมพันธ์สาวสวยคนนี้ มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว

แต่เอมอร เธอก็นิสัยเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน ไม่มีประวัติด่างพร้อยเสียหายเรื่องผู้ชายเลย ณัฐกิตติ์และเอมอรรักกันมากไม่เคยมีเรื่องทะเละเบาะแว้งอะไรกันที่รุนแรงเลย จะมีก็เพียงแค่ความเห็นไม่ลงตัวเรื่องวันนี้จะทานอะไร ก็แค่นั้น ณัฐกิตติ์ดูแลภรรยาให้มีความสุขได้ตามอัตภาพที่เขาพึงจะทำได้ ส่วนเรื่องบนเตียงทั้งสองมีร่วมกันประมาณเดือนละครั้งถึงสองครั้งต่อเดือน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะช่วงนี้ณัฐกิตติ์จะต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดนาน ๆ ถึงจะกลับมาพักกับภรรยาที่บ้านสักครั้งหนึ่ง แต่เอมอรก็ไม่ได้ฝืนใจสามีแต่อย่างใด เพราะเธอรักสามีมาก เวลามีใครมาจีบเธอ เธอก็จะเล่าให้สามีฟังทุกครั้งซึ่งเธอก็บอกไม่สนใจเพราะเธอมีลูกมีผัวแล้ว