บุษบาได้แต่แอบมอง

894 Words
ลูกคนใหญ่อาสาถือหนังสือไปขอกำลังรบแต่ถูกยิงตาย ลูกคนเล็กจึงอาสาไปแทน ใจพระภิรมย์ฯ ก็เริ่มเปลี่ยนไป ข้าศึกเข้ามายึดบ้าน จับพระภิรมย์ฯ และคนในบ้านเป็นตัวประกัน พร้อมทั้งบังคับให้บอกความลับของกองเสือป่า พระภิรมย์ฯ ไม่ยอมบอก ยอมตายเสียดีกว่าที่จะต้องขายชาติ ต่อมาข้าศึกก็ล่าถอยไป หลังเหตุการณ์สงบ พระภิรมย์ฯ ก็ได้ประจักษ์แจ้งถึงคุณประโยชน์ของเสือป่าและลูกเสือป่า จึงสมัครเข้าเป็นเสือป่าด้วยความเต็มใจ เพื่อทำประโยชน์แก่ประเทศชาติในที่สุด ศรเข้าใจแล้วว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนสยามเตรียมพร้อมกับการรับมือสงครามที่อาจขยายมาถึงสยาม จึงทรงพระราชนิพนธ์บทละครพูดเรื่องนี้ขึ้น เพื่อให้คนสยามเกิดความรักชาติและรู้จักเสียสละเพื่อประเทศชาติ อีกประการหนึ่งเพื่อให้ชาวสยามได้เห็นถึงความสำคัญของกองเสือป่าและกองลูกเสือ เมื่อถึงฉากของสวัสดิ์กับอุไรซึ่งเป็นฉากจบ ศรจึงเลี่ยงออกมาก่อนเพราะถือว่าเขามาดูละครแล้วตามที่แม่ต้องการ แต่ไม่ได้อยากมาดูหน้าเมียที่แม่จัดหาให้ เพราะเห็นตอนนี้หรือเห็นทีหลังก็คงมีค่าเท่ากัน นั่นคือเขาไม่พึงใจที่จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่รัก บุษบาแต่งกายงดงามยืนอยู่ด้านหน้าป้ายปิดประกาศรอบการแสดงละคร เพื่อรอคอยผู้ชมละครออกมาสอบถามข้อมูล ทว่าผู้ชมคนแรกที่เดินออกมาจากด้านในก็ทำให้บุษบาต้องหลบเร้นเรือนกายหลังผ้าม่าน ด้วยเรือนร่างสูงใหญ่และใบหน้าที่ตรึงใจนั้นไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เขาก็แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย เจ้าของร่างสูงนั้นเดินจ้ำอ้าวราวกับจะหนีใคร เพราะเขาไม่ได้เดินออกมาดูป้ายติดประกาศรายชื่อนักแสดงหรือรอบการแสดงต่อไปอย่างที่ผู้ชมคนอื่นๆ มักทำกัน ‘เขากำลังจะกลับ’ เพราะทิศทางที่เขาเดินไปคือสถานที่จอดรถ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมานี้หล่อนไม่ได้เจอเขาเลยสักครั้ง แม้ว่าการรับงานที่โรงละครอาจทำให้มีโอกาสเจอกัน แต่หล่อนก็มั่นใจว่าความเจ็บปวดนั้นเจือจางลงแล้วอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อได้พบเขาอีกครั้งในเวลานี้ หล่อนกลับเจ็บเสียยิ่งกว่า ด้วยระลึกรู้ว่าหัวใจนี้ไม่เคยลืมเลือน ทว่าผู้คนที่ทยอยออกมาจากโรงละครทำให้บุษบาต้องหันไปให้ความสนใจ เพราะเป็นดังที่คาดไว้ทุกคืนหลังจากการแสดงละครสิ้นสุดจะมีชาวต่างชาติมาสอบถามเรื่องราวของละครที่แสดงจบไป ด้วยบางอย่างผู้รับชมอาจตีความหมายของการแสดงได้ไม่ถูกตามสารที่ผู้แสดงต้องการสื่อ เช่นในเวลานี้ คุณนายแหม่มของมิสเตอร์เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่สุดในย่านพาหุรัดเข้ามาสอบถามว่าเข้าใจเนื้อเรื่องถูกแล้วใช่หรือไม่ ด้วยคุณแหม่มคิดว่าบทละครเรื่องนี้กำลังสอนให้คนสยามคิดดีทำดี “ใช่ค่ะแหม่ม พระเจ้าอยู่หัวทรงใช้บทละครเป็นการบอกเล่าเรื่องราวและสอนชาวสยามให้รักเสียสละรักบ้านเมือง และต้องจำไว้ว่าหากทำดีก็จะได้ดี หากทำชั่วก็จะได้ชั่วค่ะ” “แล้วหญิงสยามอย่างอุไรเล่าคะ ในฐานะที่คุณเป็นหญิงสยามเช่นกัน คุณคิดอย่างไรที่อุไรยอมเสียพ่อแทนที่จะบอกความลับ” บุษบายิ้มเล็กน้อยกับคำถามเพราะสิ่งนี้คงติดค้างอยู่ในตัวผู้ชมละครแทบทุกคน เมื่ออุไรยอมให้พ่อตายดีกว่าจะบอกความลับ “นั่นคือสิ่งที่อุไรพึงทำค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ล้วนแต่รักชาติและหวงแหนประเทศได้เท่าเทียมกัน อุไรเป็นตัวแทนของหญิงสยามที่แสดงให้เห็นว่าประเทศชาติสำคัญกว่าทุกสิ่ง และพ่อของหล่อนก็ภูมิใจที่หล่อนตอบเช่นนั้น เพราะหากเป็นฉัน ฉันก็จะทำอย่างเช่นที่อุไรทำค่ะ” คำตอบของบุษบาสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าคุณนายแหม่ม และทำให้คนที่เดินกลับเข้ามาถึงกับชะงัก อมยิ้มอยู่ในสีหน้า นึกชื่นชมคุณพนักงานของโรงละครที่สามารถอธิบายให้หญิงต่างชาติได้เรียนรู้เรื่องราวของชาวสยามผ่านเสียงไพเราะและกิริยาที่นุ่มนวล ศรก้าวเดินเข้าใกล้อยากเห็นหน้าคุณพนักงานของโรงละครนี้นัก เพราะหาได้ยากที่กุลสตรีจะมีความคิดก้าวหน้าและสามารถตอบคำถามคุณนายแหม่มเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างชาญฉลาด เห็นทีเขาจะต้องแจ้งให้คณะผู้อำนวยการการแสดงละครในวันนี้ช่วยตกรางวัลให้คุณพนักงานน้ำเสียงไพเราะนี้อย่างงาม ทว่าแม่ที่เดินออกมาจากด้านในก็ทำให้เขาต้องมุ่งความสนใจไปที่แม่ก่อน เพราะที่ตัดสินใจเดินกลับมาที่โรงละครอีกครั้งก็ด้วยคิดได้ว่าควรต้องให้แม่เห็นว่าเขามาแล้ว หากหนีกลับไปก่อน โดยไม่ให้ท่านทราบว่ามาหรือไม่มา คงไม่เป็นการดีแน่ ดังนั้นแม้เขาจะไม่ยินดี แต่เขาก็ไม่ควรเสียมารยาท
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD