"โมบาย...โมบาย..."
ร่างเล็กขยับตัวตามแรงเขย่าและเสียงเรียก เธองัวเงียและมีสีหน้าขัดใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงสว่างที่ไม่คุ้นชิน
"พี่โฮป..."
"หึ...ไงล่ะเรา ขอมาเฝ้าพ่อดันไปเฝ้าพระอินทร์เสียได้"
"เอ่อ...ขอโทษค่ะ ฉันง่วงแล้วก็เพลียมากเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย"
"ช่างเถอะ จะกลับหรือยังพอดีเสร็จธุระเร็ว" ราเชนทร์ยิ้มอบอุ่นมองร่างสาวน้อยแบบบางที่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเต็มตัวหลังจากเผลอเอนงีบอยู่บนโซฟา
"แล้วแต่พี่โฮปสะดวกก็แล้วกันค่ะ ฉันยังไงก็ได้"
"กลับได้แล้วล่ะ ที่นี่ไม่ได้น่าอยู่" เสียงขององศาแทรกดังขึ้นมาบ้าง เขานั่งกึ่งนอนอยู่ที่เดิมและกำลังกอดอกทอดสายตามายังคนตัวเล็กที่สุดเช่นกัน
"ค่ะ..."
"แล้วพรุ่งนี้จะไปสมัครงานหรือเปล่า" คนเจ็บถามอีก
"ไม่แน่ใจค่ะ ต้องถามเพื่อนก่อน เพราะวันนี้ไม่ได้ไปคงต้องนัดกันใหม่" บัวบงกชตอบกลับอ้อมแอ้ม
"พักเรื่องนั้นไว้ก่อนได้ไหมโมบาย ตอนนี้เรามีปัญหากันนิดหน่อยเรื่อง ฉันกลัวเธอจะไม่ปลอดภัยไปด้วย"
"พ่อ...ผมขอดูแลโมบายเอง จะไปรับไปส่งให้"
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ มันร้ายแรงขนาดหนูจะออกไปไหนมาไหนแล้วอาจเกิดอันตรายได้เลยเหรอคะ" สิ่งที่ค้างคาตั้งแต่คราแรกเผยออกมา อันที่จริงเธออยากถามนานแล้วแต่เกรงจะเสียมารยาท ในเมื่อถูกดึงเข้ามาพัวพันแม้เพียงเล็กน้อยเธอก็ควรมีส่วนร่วมในการรู้สาเหตุนั้นเช่นกัน "กาสิโนของเรามีปัญหา หุ้นส่วนบางคนคิดไม่ซื่อพอจับได้ว่ามันยักยอกเงินก็เลยขัดแย้งกัน ฉันยึดหุ้นของมันมาทั้งหมดและตัดออกจากองค์กร ตอนแรกคิดว่าเขี้ยวเล็บจะหมดแล้วเสียอีก ที่ไหนได้..." "เขาเป็นคนที่ทำร้ายคุณ?"
"เรียกว่าหมาลอบกัดดีกว่า...เอาล่ะทีนี้ก็รู้แล้วว่าทำไม จะทำตัวเป็นเด็กดีนอนอยู่บ้านเฉยๆ ได้หรือยัง"
"ก็ได้ค่ะ...แต่ปิดเทอมตั้งหลายเดือนโมบายอยากหาอะไรทำบ้างนะคะจะได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย"
"ฉันไม่เคยมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย"
แน่นอน...เธอรู้
"คุณมีบ่อน...ถ้าอย่างนั้นให้หนูทำงานในบ่อนได้ไหมคะ" ข้อเสนอที่ทำเอาสองหนุ่มต่างวัยถึงกับตาลุกวาว ไม่นึกฝันว่าบัวบงกชจะกล้าหาญถึงเพียงนั้น หรือเพราะเธออยากได้งานจริงๆ กันหนอ
"ไม่ใช่ที่ที่เหมาะกับเธอนะโมบาย เชื่อพี่เถอะ" "แล้วที่ไหนล่ะคะ ที่เหมาะกับฉัน พี่โฮป...ให้ฉันได้ใช้ความสามารถของตัวเองบ้างเถอะค่ะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ก่อปัญหา อีกอย่างกาสิโนนั่นก็เป็นของคุณเฮิรตซ์ ใครๆ ก็รู้ว่าฉันเป็นลูกบุญธรรม ใครจะกล้าทำอะไรล่ะคะ”
"ฮึ...แล้วคิดว่าเธอจะช่วยอะไรที่นั่นได้เหรอ" องศาแสยะยิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความคิดไร้เดียงสา
เธอไม่รู้หรอกว่า สถานที่อันโสมมนั้น มันช่างต่างกันนักกับชีวิตอันเรียบง่ายเหมือนดอกมะลิอันบอบบางเลยแม้แต่น้อย
"ก็คุณเฮิรตซ์สอนหนูสิ หนูมั่นใจว่าต้องทำได้ แต่ไม่เอาการพนันนะคะ ให้ทำแบบงานบัญชี หรือไม่ก็คอยช่วยเรื่องเอกสาร...นะคะ"
"พ่อ..." ราเชนทร์ทำท่าจะออกความเห็นแต่กลับถูกบิดาส่งสัญญาณมือห้ามเอาไว้เสียก่อน เขาลอบมองคนตัวเล็กที่ดูจะมุ่งมั่นเอาเสียเหลือเกิน
"เข้าท่าดี อยากทำงานขนาดนั้นเชียว"
"ค่ะ หนูอยากหาประสบการณ์ไว้บ้าง จะได้คล่องตัวฝึกความเคยชินเอาไว้ค่ะ"
"เอาเป็นว่าฉันจะลองคิดดูอีกทีก็แล้วกัน โฮป...พาน้องกลับบ้านได้แล้ว"
"ครับพ่อ" ลูกชายรับคำในทันใด ก่อนจะหันไปพยักหน้าเรียกสาวน้อยให้เดินออกไปด้วยกัน
ประตูห้องปิดลง ท่ามกลางความเงียบอันเวิ้งว้างร่างใหญ่บนเตียงคนป่วยกำมือเกร็งเครียดไปทั้งตัว ใช่เพราะอาการเจ็บบาดแผลจากการถูกปองร้ายแต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างต่างหากที่กำลังฮึกเหิมและแผ่ขยายครอบคลุมจิตใจเขาจนเกิดความสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...