เลยต้องตามไปดูคนที่ว่าป่วยนั่นเสียหน่อย ส่วนบุตรสาวไม่ได้ให้ตามมาเพราะกลัวว่าหากเขาป่วยมีไข้จริง ลูกอาจติดไข้ได้ พลินเคาะประตู เมื่อด้านในเงียบเลยเปิดเข้าไป ไม่พบใครในนั้น จึงวางโถใส่ข้าวต้มลงบนโต๊ะ ไม่นานประตูถูกกระชากเปิดออกพร้อมคนที่ได้ยินมาว่าไม่สบาย ยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ตรงนั้น อ้อ แถมหน้าบึ้งตึงให้ด้วย “ไข้ลดบ้างหรือยังคะ” บารมีเงียบไม่ยอมตอบ เลยเข้าไปใกล้ๆ “ขอพลินดูหน่อยนะคะ” แล้วแตะแขนเขาเบาๆ พอสัมผัสได้ว่าตัวไม่ร้อนเท่าไร ก็ตั้งท่าจะกลับ บารมีโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงงอนๆ “ขอร้องเถอะ ช่วยง้อพี่บ้างได้ไหม” พลินชะงัก ขมวดคิ้วถาม “คะ?” “อย่าทำกับพี่เหมือนพี่เป็นคนอื่น พี่อยากให้พลินทำอะไรให้พี่พิเศษกว่าคนอื่นๆ จะได้ไหม เอาใจใส่พี่หน่อย” คนป่วยเรียกร้องความสนใจ พลินยิ้มรับคำสั้นๆ “ค่ะ” พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีแข็งขึงใส่ บารมีก็อ่อนยวบ ยื่นมือมาพร้อมออดเบาๆ “ขอพี่ชื่นใจหน่อย”