เอี๊ยดดดดดดดด!!
เสียงล้อรถเบรกลากพื้นดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เนเน่ที่นั่งเหม่อคิดอะไรเพลินๆอยู่สะดุ้งตกใจ รีบหันไปมองคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ เพลิงเมินเฉยไม่ได้สนใจคนที่กำลังมองมา เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้ามาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆบ่อนหรือบ้านพักอาศัยของเขาที่อยู่ท้ายชุมชนสลัมเถื่อน
ดึงความสนใจให้ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณ เห็นบ้านหลังหนึ่งที่มีประมาณสามชั้นซึ่งเป็นปูนทั้งหมดอยู่โดดเดี่ยวห่างจากบ้านหลังอื่นหลายเมตร ไม่ค่อยมีคนสัญจรไปมาสักเท่าไหร่ แม้ว่าเธอจะมาหาเพื่อนรักคนหนึ่งที่นี่บ่อย แต่ก็ไม่เคยเดินมาท้ายสลัมเลยสักครั้ง
"บ้านนายเหรอ!" หญิงสาวเอ่ยถาม พลางหันมองใบหน้าคมคายเพื่อรอคำตอบ ถ้าเป็นบ้านของเขาจริงก็ถือว่าไม่จน แล้วทำไมถึงยังออกปล้นอยู่ เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรหรืออาจจะเป็นเพราะความเคยชิน
เธอได้แต่ตั้งคำถามอยู่ภายในใจ
"....." คนถูกถามเงียบไม่ตอบอะไรกลับไป สายตาคมกริบชำเลืองมองเธอเพียงนิด ก่อนจะเปิดประตูรถก้าวขาลงไปตามด้วยปิดกระแทกอย่างแรง
ปึง!
"ไอ้บ้าเอ้ย! เป็นคนประเภทไหนกันชอบใช้ความรุนแรง" ทำเอาเธอที่มองอยู่สะดุ้งตกใจโพล่งโวยเสียงสั่น แล้วหันหน้ากลับมาเอื้อมมือเปิดประตูรถเพื่อย้ายไปนั่งฝั่งคนขับ ทว่ายังไม่ทันได้เปิดอีกคนก็ชิงเปิดเสียก่อน
ใบหน้าสวยขมวดคิ้วยุ่ง แหงนมองคนตรงหน้าอย่างสงสัยว่าทำไมเขาถึงยังไม่เข้าบ้านไปอีกวนมาหาเธอทำไม ความนิ่งเฉยของเนเน่ทำเอาเพลิงถูกมองถึงกับหงุดหงิดกระชากแขนเธอให้ลงจากรถ โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
หมับ!
"โอ๊ยยยยยย!..จะทำบ้าอะไรอีก" มือเล็กคว้ารั้งประตูไว้แน่น พร้อมกับสะบัดแขนอีกข้างให้หลุดจากพันธนาการ แต่สะบัดแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุด แถมยังถูกบีบแน่นกว่าเดิมจนคนโดนกระทำรู้สึกเจ็บ
"ลงมา"
"จา..จะให้ฉันลงไปทำไม ฉันจะกลับบ้าน" ด้วยความที่ตกใจน้ำเสียงตวาดดุดันของอีกฝ่ายเลยทำให้เสียงที่เธอเอื้อนเอ่ยออกไปสั่นเล็กน้อย
"....." ไม่มีคำตอบจากปากของโจรหนุ่ม มีเพียงดวงตาคมกริบที่จ้องมองเธอเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"นี่..ตอบสิว่าจะให้ฉันลงไปทำไม" เนเน่ถามย้ำ แววตาของเขาดูอันตรายทำเธอเริ่มหวาดระแวง
"กูบอกให้ลงมา" เพลิงเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอ กลับเค้นเสียงลอดฟันเอ่ยสั่งขึ้นแทนเมื่อเริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิมที่ต้องมาพูดอะไรซ้ำๆ เขาเป็นคนไม่ชอบพูดย้ำหรือซ้ำซากถ้าพูดครั้งเดียวแล้วใครไม่ทำตามมักจะลั่นไกทันที ซึ่งตอนนี้เขากำลังข่มอารมณ์ไม่ให้ทำแบบนั้นอยู่
"ไม่!..ฉันไม่ลง นายมีอะไรก็พูดมาสิ"
"กูเป็นคนไม่ชอบพูดซ้ำ"
"ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน มีอะไรก็รีบๆพูดมาถ้าไม่มีฉันจะได้กลับบ้าน"
"หึ! คิดว่าคนอย่างกูจะปล่อยมึงกลับไปง่ายๆงั้นสิ" มุมปากหนาแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ ใครที่มันเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแล้วคงไม่ได้กลับไปง่ายๆ คนอย่างเขารอบคอบพอที่จะไม่เสี่ยง ขืนปล่อยไปมีหวังตำรวจได้โผล่มาบุกจับเขาแน่นอน
เนเน่สตั้นไปชั่วขณะหลังจากได้ยินคำพรั่งพรูที่หลุดออกมาจากปากของโจรหนุ่ม เธอไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ นึกว่าเขาแค่ให้มาส่งเพื่อหนีตำรวจพอปลอดภัยคือจบ แต่จริงๆมันไม่ใช่ สิ่งที่เขาพูดคือเขาไม่ยอมปล่อยเธอกลับไปง่ายๆ เหมือนเขาจะรู้ทันว่าความคิดของเธอว่าจะทำอะไร
"มะ..หมายความว่าไง แต่ฉันช่วยเหลือนายมาส่งนายถึงที่แล้วนะ" เธอพอจะเข้าใจในคำพูดของเขาว่าหมายความว่าอะไร แต่ก็ยังพยายามยืดเยื้อต่อรองเพื่อหวังให้เขาปล่อย แม้ว่าความหวังจะดูริบหรี่จนแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ แต่เธอเชื่อว่าบุญคุณที่ได้ช่วยเหลือเขาไปจะทำให้เขารู้คุณเปลี่ยนใจเป็นปล่อยเธอกลับ
"ส่งแล้วยังไง?"
"นายก็ต้องปล่อยฉันกลับสิ"
"เหอะ! ปล่อยกลับให้มึงเอาตำตรวจมาลากคอกูอะเหรอ" เพลิงเค้นเสียงเหอะอย่างเย้ยหยัน มองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเหยียด "อย่าพูดอะไรสิ้นคิดเพราะมึงจะดูโง่ จะลงมาเองหรือจะให้กูลากลงมา"
"ไม่! นายปล่อยฉันไปนะ ฉันสัญญาจะไม่แจ้งตำรวจไม่ยุ่งเรื่อง..อึก!" ถ้อยคำขาดหายไปเมื่อโดนหมัดหนักๆเหวี่ยงอัดใส่หน้าท้องอย่างแรง จนตัวงอทันทีที่ความจุกเข้าเล่นงาน หญิงสาวนิ่วหน้าเล็กน้อยกลั้นความรู้สึก ก่อนที่จะถูกโจรหนุ่มถือวิสาสะอุ้มขึ้นพาดบ่า
"อึก! ไอ้เลวปล่อยกู" แต่เธอก็พอยังมีแรงหลงเหลืออยู่ ดิ้นพล่านกระหน่ำทุบกำปั้นลงบนแผ่นหลังแกร่งหวังเอาชีวิตให้รอดพ้นจากเงื้อมมือซาตาน ไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะโดนอะไรต่อหลังจากนี้
ความเจ็บปวดแค่นี้ทำอะไรคนอย่างเนเน่ไม่ได้ เพราะเธอแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงทั่วๆไป ถูกฝึกการเอาตัวรอดและการต่อสู้มาบ้าง แม้รู้ว่าสู้แรงผู้ชายป่าเถื่อนอย่างเขาไม่ได้ แต่เธอจะสู้ให้ถึงที่สุดไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็ตาม
---------------------------------------
อีคนชอบใช้ความรุนแรง เนเน่ต่อยมันคืนเลยลูก
(อ่านจบแล้วถูกใจและคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ)