หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแล้วเควินก็ไม่ได้เจอหน้าหล่อนอีกแม้ผ่านมาหลายวัน รอสและคาร์ลเป็นคนนำเควินมาที่สำนักงานใหญ่ของคลากสันกรุปที่ตั้งอยู่บริเวณโซนหนึ่งซึ่งเป็นย่านธุรกิจของลอนดอน แม้รูปแบบของอาคารภายนอกจะเป็นประติมากรรมแบบเก่าแค่เควินก็ค่อนข้างพอใจที่การตกแต่งเป็นแบบโมเดิร์น ซึ่งแตกต่างจากบ้านและโรงแรมของคลากสันกรุปที่ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิคหรูหราโอ่อ่าจนเกินพอดี
รอสบอกว่านี่คือความชอบส่วนตัวและเป็นเอกลักษณ์ของคร์ล คลากสัน ซึ่งเป็นโรงแรมต้นแบบของโรงแรมหรูหราหลายๆ แห่งที่แทบจำลองเอาราชวังแวร์ซายมาเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่าโรงแรมกับกาสิโน ที่ใครได้เข้ามาในโรงแรมต่างก็ต้องถ่ายรูปอวดใครสักคนว่าครั้งหนึ่งได้มาที่โรงแรมที่สวยอย่างกับวังที่โด่งดังและมีชื่อเสียงของฝรั่งเศส
เควินเคยนึกค่อนขอดตาของเขาที่บ้าคลั่งความหรูหราว่าเขาคงคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหลุยส์กลับชาติมาเกิดถึงได้ทำอะไรหรูหราขนาดนั้น เป็นเขาเองเขาจะทำโรงแรมที่ดาวน์เกรดลงมาหน่อย แต่เน้นเป็นบูทีกโฮเต็ลที่หรูหรา โมเดิร์นและเน้นความสะดวกสบายครบครันเพื่อการพักผ่อนที่เป็นกันเองมากกว่าหรูหราจนนอนไม่หลับเพราะสีทองของเฟอร์นิเจอร์ในห้องสะท้อนเข้าตา... คาร์ลหัวเราะเขาแล้วก็บอกว่า
“แกอยากต่อยอดอะไรก็ตามใจ มันเป็นสิทธิ์ของแกเมื่อฉันยกให้แกไปแล้ว... แกมีหน้าที่บริหารหรือว่าต่อยอดให้กับคลากสันกรุปให้ใหญ่โตมากขึ้น...”
คาร์ล พูดเหมือนกับเห็นด้วยเกี่ยวกับความคิดของเควิน เขาก็เคยคิดเรื่องนี้ แต่ความหรูหราระดับพรีเมี่ยมพร้อมด้วยราคาห้องพักต่อคืนที่มีแต่คนรวยสุดๆ เท่านั้นที่ยอมจ่ายเพื่อแลกกับความเอกคลูซีฟและเชื่อมั่นได้ว่าแขกที่พักด้วยและต้องพบเจอนั้นจะเป็นคนที่รวยมากๆ ด้วยกันจริงๆ เป็นอะไรที่ใครก็นึกถึงว่าเป็นความคิดและเป็นตัวของคาร์ลเอง หากเขาจะมาดาวน์เกรดโรงแรมตัวเองเพื่อเพิ่มยอดการเข้าพักหรือว่าเพิ่มรายได้มันคงไม่เหมาะในรุ่นของเขา แต่เมื่อเป็นความคิดของทายาทรุ่นใหม่ ที่อยากนำความเปลี่ยนแปลงและเริ่มมองหาตลาดใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ น่าจะเข้าทีกว่า เขาจึงปล่อยให้เควินทำได้อย่างสบายอกสบายใจ....
แม้เควินจะเรียนทันตแพทย์แต่เขาก็มีหัวด้านธุรกิจอยู่เต็มเปี่ยมเพราะหลังจากที่เควินยินยอมเขาทุกประตูเพราะถูกแบล็กเมล์ผู้เป็นตาก็ส่งคนไปติวเข้มเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจและให้เควินศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลากสันกรุปเรื่อยๆ และมีการทดสอบ สิ่งเหล่านั้นเควินไม่ได้เต็มใจ แต่มันล้วนเป็นการบีบบังคับ แต่เขาก็ทำมันได้ดี เมื่อตอนที่เขาต้องมาดูงานที่คลากสันกรุป เขาก็ไม่ได้ดูเหมือนคนที่อ่อนหัดเหมือนที่ผู้บริหารคนอื่นนึกกลัว เขาทำให้คนรุ่นเก่าหลายคนในคลากสันกรุปยอมรับได้ด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ทำให้คาร์ลค่อนข้างพึงพอใจ เพราะวันที่จะต้องโอนหุ้นและกิจการให้หลานๆ ใกล้จะเขามาถึงทุกทีแล้ว เขาไม่อยากให้คนเห็นเรื่องนี้แล้วบอกว่าเสียดายที่เขายกธุรกิจให้คนที่ไม่เหมาะสมดูแล เขาจึงพาเควินมาพิสูจน์ตัวเองซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ...
แต่สิ่งหนึ่งที่คาร์ลไม่พอใจก็คือการที่เควินร้องขอที่พักนอกคฤหาสน์ของเขา...
“อะไรทำให้นายไม่อยากพักที่คฤหาสน์ นายอึดอัดที่ต้องเจอแอลลี่ โซเฟีย เจคและโรเบิร์ตหรือ” คาร์ลสังเกตว่าเควินไม่ค่อยสนิทกับคนในบ้านเท่าไหร่ และคิดว่าเหตุนั้นคือสิ่งที่ทำให้เควินขอย้ายมาอยู่ข้างนอก...
“ไม่ครับ ผมแค่ไม่ชอบสไตล์การตบแต่งของห้องที่พัก... นอนหลับไม่ลง อยากอยู่ห้องที่ตบแต่งเอง ผมมีแพลนว่าอยากซื้อห้องเปล่ากลางลอนดอนไว้สักห้องแล้วตบแต่งเองตามที่ชอบ”
“แกไม่ต้องลำบากไปหาที่พักใหม่หรอก ก็อยู่ที่เดิม ฉันจะยกห้องชุดห้องใหญ่ให้แกอีกห้องหนึ่ง แล้วจะให้คนขนของออกให้หมดเป็นห้องเปล่า แกอยากตบแต่หรือทำอะไรก็ตามใจแก... ห้องนั้นมีห้องสองห้องแกก็ตบแต่งเป็นเรือนหอได้เลย นาเดียก็ชอบห้องสไตล์โมเดิร์นเหมือนแกด้วย”
คำพูดของตาทำให้หัวคิ้วเควินย่นเข้าหากัน... เขาต้องการแต่งห้องตามใจชอบและเป็นสไตล์ของตนเอง เพื่ออยู่คนเดียว แต่ว่าตาของเขาดึงหล่อนเข้ามาเกี่ยวและพยายามยัดเยียดหล่อนให้เขาเหลือเกิน...
“ทำไมต้องอยากให้ผมแต่งงานกับนาถลดานัก...” เขาถามคาร์ลตรงๆ
“นาเดียเป็นคนที่ฉันหาให้นาย และฉันก็รู้จักเธอดี เธอจะเป็นแม่ที่ดีของลูกนาย และอยู่ข้างๆ นายเมื่อนายมาดูแลคลากสันกรุป” เหมือนอย่างที่เขาเคยถามคำถามนี้กับรอส รอสบอกว่าคาร์ลไม่อยากเสียเปรียบดุลให้ใคร เข้าทำนองเรือล่มในหนองทองไม่หายไปไหน คาร์ลอยากให้เควินแต่งงานกับคนที่เขาควบคุมได้และเห็นอยู่ในสายตาของเขาทั้งคู่...
“ทั้งที่รู้ว่าเราไม่ได้เต็มใจแต่งงานกัน คิดหรือไงว่าจะไปรอด”
“มันเป็นเรื่องของอนาคตที่ฉันอยากกำหนดให้แกกับนาเดีย” เสือเฒ่าไม่ได้มองหน้าหลานเมื่อตอบคำถาม ดวงตาเขาเหม่อลอยไปไกล เขาคิดว่าเควินและนาถลดาจะไปด้วยกันได้ นาถลดาคือคนที่เขาเอ็นดูและรักเหมือนหลานแท้ๆ สวนเควินคือคนที่เขาอยากมอบทุกอย่างให้ เขาจึงพยายามแม้กระทั่งบีบบังคับเพื่อให้ทั้งคู่ลงเอยกัน... หากสำเร็จแล้ว มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะบีบบังคับให้ทั้งคู่ทำอะไรที่ไม่เต็มใจอีก...
“ผมก็ไม่รู้ว่าคุณตามั่นใจอะไรนักหนาถึงคิดว่าผมกับยัยนั่นจะเข้ากันได้... จนขนาดบังคับทั้งที่รู้ว่าไม่ได้เต็มใจกันทั้งคู่ คุณตาไม่ให้หนทางผมปฏิเสธผมก็จะไม่ดึงดันที่จะปฏิเสธ แต่บอกได้แค่ว่าคุณตาบังคับผมได้แค่เรื่องแต่งงานผมก็จะแต่ง แต่อย่ามาก้าวก่ายอีกหลังจากนั้นก็แล้วกัน”
เควินจ้องหน้ากับคาร์ล เรื่องที่โดนบีบบังคับเควินทำตามก็จริง แต่ในหัวเขาก็มีความคิดขบถ ซึ่งมันค่อยๆ เริ่มออกลายแล้ว...