อาหารมื้อเย็นไม่ได้เป็นอาหารไทยเพราะว่านาถลดาและแม่บ้านโรสไม่ได้พร้อมใจกันทำ รวมทั้งการมาของวริษาวดีไม่ได้เป็นเรื่องที่รู้ตัวก่อนจึงไม่มีการจัดการอะไรไว้ต้อนรับหล่อนเลย... แต่กระนั้นอาหารที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกใจแขกคนใหม่ของคฤหาสน์ เพราะว่าหล่อนชอบอาหารสไตล์ยุโรปอยู่แล้ว
คาร์ลดูเหมือนไม่ค่อยพอใจหญิงสาวผู้มาใหม่ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างที่กินข้าว แอลลี่สีหน้าบ่งชัดว่าเกลียดวริษาวดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่สาวไทยหันไปมองหมอโรเบิร์ต คนที่หวงหมอหนุ่มราวกับเป็นงูจงอางหวงไข่ก็แทบขู่ฟ่อประกาศตนเป็นศัตรูอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนาถลดาไม่ได้มีท่าทีใดๆ กับหญิงสาวผู้มาใหม่เพราะเจ้าตัวมาในฐานะเพื่อนสนิทของเควิน และไม่ได้แสดงออกให้ใครได้รู้ว่าเป็นคนรักเควิน ไม่ว่าคนทั้งคู่จะรักกันปานจะกลืน หรือแอบอยู่ห้องเดียวกันหล่อนก็ไม่สนใจ ขอเพียงสองคนนี้ไม่ได้ทำให้คาร์ลลำบากใจ นาถลดาก็จะไม่มีทางไปก้าวก่ายเรื่องราวของทั้งคู่แน่นอน
“เควินจำเรื่องห้องที่แกพูดกับตาไว้ได้ไหม... วันพรุ่งนี้จะมีคนมาจัดเตรียมห้องให้ตามที่แกต้องการ เป็นห้องทางปีกตะวันออก เชื่อมสองห้องติดกัน ตอนที่คนเอาเฟอร์นิเจอร์ออกไปแล้วแกสามารถเข้าไปดูที่ห้องได้ว่าจะทำอะไรต่อ” หลังจากมื้ออาหารและเป็นของหวานเลิศรส คาร์ลก็เริ่มชวนคุย
หลายๆ คนมองที่คาร์ล เพราะไม่รู้คาร์ลหมายถึงอะไร
“พอดีเควินอยากทำห้องหอใหม่และก็ตบแต่งเอง ฉันเลยยกห้องชุดที่มีสองห้องให้แก่เขาไปตบแต่งถ้าเร่งงานและใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยไม่เอาบิลด์อิน ก็อาจจะเสร็จก่อนแต่งงาน จะได้ใช้เป็นห้องหอไปเลย”
ช้อนของหวานในมือนาถลดาเกือบหลุดมือหล่อน หญิงสาวหันไปมองเควินเขาก็จ้องหน้าหล่อนตอบแบบท้าทาย...
หล่อนไม่ได้ตกลงจะอยู่ห้องเดียวกับเขาเลย... หญิงสาวแทบไม่ได้หันไปมองวริษาวดีซึ่งกำลังเก็บอาการขุ่นเคืองเมื่อรู้ว่า เควินต้องแต่งงานกับนาถลดาและถูกจัดให้อยู่ด้วยกัน...
“คุณเควินไม่ได้มีแพลนที่จะอยู่ที่คอนโดมิเนียมที่สำนักงานใหญ่หรอกหรือคะ” นาถลดาท้วง เพราะเขาชอบการตบแต่งที่นั่นและแพลนจะอยู่อาศัย หากพากันอยู่ที่คอนโดมิเนียม นอกจากจะไม่ต้องอยู่ด้วยกันและความไม่สนิทกันหลังจากแต่งงานระหว่างเขากับหล่อนจะไม่มีใครสนใจ เพราะที่นั่นต่างคนต่างอยู่กันเสียเป็นส่วนใหญ่
“ฉันอยากให้เควินกับนาเดียพักที่บ้านหลังนี้มากกว่า ฉันเลยยกห้องว่างให้เควินจัดแต่งห้องในแบบที่เขาชอบและเธอก็ชอบเหมือนกัน พวกเธอสองคนชอบการตบแต่งแบบทันสมัยมากกว่าความคลาสสิกเหมือนกันเลย... แค่เควินไปดูห้องแล้วก็ออกแบบมา ฉันจะให้คนมาเนรมิตให้อย่างที่พวกเธอต้องการและก็รวดเร็วที่สุด”
คำพูดยิ้มๆ ของคาร์ล ทำให้นาถลดาขยับตัวอย่างอึดอัดเล็กน้อย... หล่อนไม่อยากเพิ่มโอกาสให้ได้ใกล้ชิดกับเควินสักเท่าไหร่เลย ยิ่งไปอยู่ห้องด้วยกันแบบนั้น ถึงเขาไม่ทำอะไรหล่อน หล่อนก็คงรู้สึกอึดอัดไม่น้อย...
“ไว้หลังมื้อเย็นแล้ว ผมรบกวนแม่บ้านโรสพาผมกับนาเดียไปดูห้องด้วยก็ดีครับ... ผมจะได้ไปแพลนงานคร่าวๆ ไว้คืนนี้เลยว่าจะตบแต่งอย่างไรบ้าง” เควินรู้อยู่แล้วว่าคาร์ลมีลิสต์รายชื่อโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ และมีแคตตาลอคสินค้าหลายแบบในมือ เขาสามารถเลือกสินค้าตบแต่งจากแบรนด์ดังมาจัดห้องได้ง่ายดาย เพราะกำลังเงินถึง...
ก็ยังดีที่เขาไม่ชวนหล่อนไปสองคน นาถลดานั่งคิดอยู่ในใจ
ห้องทุกห้องในคฤหาสน์ล้วนได้รับการดูแลรักษาให้พร้อมใช้งานเสมอ ห้องที่คาร์ลเลือกให้เควินนำมารีโนเวทใหม่ก็เช่นกัน มันไม่ต่างกับโรงแรมหรูที่มีห้องแสนสวยงามสไตล์บาโรคในห้องมีรูปปั้นวิจิตรอยู่หลายชิ้น รวมทั้งผนังที่วาดลวดลายและมีเส้นสายสีทอง ผ้าม่านก็เป็นผ้าทอดิ้นทองประดับอย่างดี... นาถลดาค่อนข้างโล่งใจที่เห็นห้องสองห้องแยกกันเป็นส่วนตัวชัดเจน ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก
โชคดีที่เควินสั่งให้วริษาวดีไปที่ห้องของหล่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นคงมีคนบอกเควินว่าห้ามเปลี่ยนแปลงอะไรห้องสวยๆ และงดงามวิจิตรนี่เลย เพราะนาถลดาทันได้ยินคร่าวๆ ว่าวริษาวดีชอบสถาปัตยกรรมแบบนี้มากกว่าสไตล์โมเดิร์น นาถลดาไม่รู้ว่าสองคนนี้เข้ากันได้อย่างไร เควินชอบความเรียบง่ายทันสมัยเหมือนคนรุ่นใหม่ ส่วนวริษาวดีกลับชอบการตับแต่งสไตล์บาโรคชอบความหรูหราเหมือนคาร์ลไม่มีผิด...
“คงจะไม่ง่ายมากหากต้องทำให้ห้องนี้เป็นห้องเปล่าเรียบๆ” เควินพึมพำ ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนของเขามาเปิดโปรแกรมสเกทภาพ มือถือของเขาเป็นแบบหน้าจอใหญ่และมีปากกาด้วย เขาร่างแบบห้องคร่าวๆ และแม่บ้านโรสที่รู้ทุกเรื่องของบ้านแม้กระทั่งความกว้างของห้องและทิศทางลม แดด บอกขนาดของห้องและพาเขาเดินชมห้อง โดยมีนาถลดาเดินตามไปเงียบๆ ไม่ออกความเห็นใด เพราะลำพังหล่อนแม้ไม่ได้ชอบการตกแต่งที่หรูหราของคฤหาสน์แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหล่อนเป็นแค่ผู้อาศัยจึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรและชินแล้ว แต่รู้ว่าเควินไม่ยอมชินและเขาไม่ชอบอะไรทำนองนี้ อีกทั้งเขาเป็นหลานของคาร์ล หากอยากเปลี่ยนอะไร ก็ไม่ผิดอยู่แล้ว...
“ถ้ามีคนมากๆ งานที่ว่ายากก็ง่ายแหละค่ะ... แต่อาจจะยากตอนที่ขนย้ายข้าวของ... ของในห้องนี้คาร์ลจะเอาไปไว้ที่โรงแรมเผื่อว่าจะต้องใช้ตกแต่งห้องพักแขกต่อไปได้”
“ขอบคุณแม่บ้านโรสที่พามาดูห้องนะครับ... ผมจะคุยกับช่างอีกทีวันพรุ่งนี้เพราะว่าผนังและห้องน้ำจะมีการแก้ไขหลายจุด ท่าทางจะใช้เป็นห้องหอตอนแต่งงานไม่ทัน...” เควินหันมามองนาถลดา หล่อนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะตาเบิกกว้างเมื่อเขาเปรยๆ กับแม่บ้านโรสขึ้นมา
“หลังจากแต่งงานแล้วคงต้องไปอยู่ห้องผมด้วยกันสองคนจนกว่าห้องนี้จะแล้วเสร็จ”
นาถลดาปากสั่น หล่อนอยากพูดอยากอธิบาย อยากตกลงกับเขามากๆ ว่าหล่อนไม่มีทางขออยู่ห้องเดียวกับเขาอย่างเด็ดขาด พรุ่งนี้มาการเริ่มรีโนเวทห้องนี้ หล่อนจะลงทุนจ่ายเงินเองและจ้างช่างมาสมทบเอง เอาให้เสร็จงานภายในวันเดียวเลยก็ได้ หากว่ามันทำให้หล่อนไม่ต้องอยู่ห้องเดียวกันกับเขา...
“ก็ไม่แน่หรอกค่ะ... คนของเราเยอะ โดยเฉพาะในหน่วยก่อสร้างและตบแต่งภายใน... นอกนั้นยังประสบการณ์ดีอีกด้วย คุณไปคิดก่อนได้เลยค่ะว่าจะต้องการให้เป็นแบบไหน แล้วก็ไปออกแบบจัดวางพวกเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้เลยค่ะ... เร่งช่างทำทั้งวันทั้งคืน อาจจะเสร็จก่อนวันแต่งงานก็ได้ค่ะ... อีกตั้งครึ่งค่อนเดือน”
ถึงแม้ว่าป้าโรสจะเข้มงวดรวมทั้งจุ้นเรื่องชาวบ้านไปหน่อยแต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่นาถลดารู้สึกรักและขอบคุณนางได้มากขนาดนี้
เควินพยักหน้ารับ ใจจริงเขาอยากตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์บิลด์อินด้วยซ้ำสำหรับการออกแบบตกแต่งภายในบ้านตนเองครั้งแรกของเขา... แต่ด้วยความที่เขาเกรงใจผู้เป็นตาและคิดว่าหากใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเคลื่อนไหวจัดแต่งในมุมใหม่ได้เมื่อต้องเปลี่ยนแปลงอะไรจะได้ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องเหนื่อยให้ต้องมานั่งทุบมานั่งทำลายข้าวของที่สร้างไว้อย่างตั้งใจอีกด้วย...
“เควิน ฉันขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหม” หญิงสาวเรียกเขาเอาไว้เมื่อออกมาจากการสำรวจห้องและเดินกลับบริเวณห้องที่ตนเองเคยพัก หลังจากแยกกับแม่บ้านโรสแล้ว
“ผมไม่ว่าง จะไปหาน้ำฝน เอาไว้ค่อยคุยกันก็แล้วกัน” เควินโบกมือปัดๆ บอกชัดว่าเรื่องการไปพบวริษาวดีสำคัญกว่าเรื่องที่หล่อนจะพูดเอามาก แล้วเขาก็เดินจากไป
เหลือไว้เพียงแต่นาถลดา ที่ยืนมองตามเขาไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี... เขาเกลียดหล่อนมากขึ้นทุกวันทั้งที่จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ชีวิตหลังจากนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย