ตอนที่ 5 ชื่อตอน มิควรหยอกล้อต้าเกอ18+

1484 Words
เสี่ยวโซ่วห่มผืนผ้าของหวงต้าเกอ และแอบเร้นกายเปิดเข้าในห้องของบุรุษ ยามเข้าภายในได้นางก็มองหาน้ำร้อน ขณะกำลังดึงผืนผ้าห่มกายออก ร่างหนาก็มากอดนางที่ด้านหลัง และกระซิบเบาๆ “เหม็นคาวนักเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดเลย ทั้งเรือนผมของเจ้า ทั้งใบหน้าของเจ้าเหนียวเหนอะหนะไปหมดแล้ว เสี่ยวโซ่ว” เสียงแหบๆกระซิบที่ข้างหูของเด็กสาว และยืนบังนางไว้มิให้ใครเห็น ยามที่คนรับใช้ของตนเองนั้นรู้งานของตนมาก เร่งไปหาบน้ำร้อนมาและตั้งเครื่องอาบน้ำให้เสร็จสรรพ และหายวับไปทันที เด็กสาวหน้าแดงยามที่นางถูกเปลื้องผ้าออกไปจนสิ้น และอุ้มร่างน้อยๆไปวางในอ่างน้ำ หวงเกาเทียนกอดรัดนางแน่นและจุมพิตตามกายของนางไปทั่ว ฝ่ามือก็ลูบยอดอกน้อยๆ บดบี้ขยี้ไปมาจนร่างเด็กสาวดิ้นเร่า ผวากอดกายแกร่งจนแน่น “หวงต้าเกออย่าเจ้าค่ะ ข้ากลัว อร้าย อรึ้ย” “เสี่ยวโซ่ว เจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่ว่า เหตุใดต้าเกอจึงมิอยากให้เจ้าแตะกายนัก ต่อไปอย่ากลั่นแกล้งต้าเกออีกเข้าใจหรือไม่หืม” “อรื้อ ข้ามิดื้อแล้ว อร้า แอร๊ย เจ็บ อรื้อ เอานิ้วท่านออกไปนะ แอร๊ย ซี้ด แอร๊ย” มือแกร่งล้วงลงที่กลางกายสาว ทิ่มนิ้วกลางที่เรียวยาวดันพรวดในคราเดียว ร่องเนื้อนุ่มๆบีบรัดจนกายหนุ่มแน่นนั้นครางออกมาดังๆ และรัดนางในอกแน่น ดึงใบหน้าหวานมาบดขยี้จุมพิต และชอนไชนิ้วในกายสาวถี่ๆ จนร่างบางถ่างขาดิ้นเร่าดวงตาเหลือกลานส่ายสะบัดกายอย่างแรง น้ำหวานแตกพร่าในทันทีที่ถูกถอดถอนนิ้วเข้าออกถี่ๆ “แอร๊ย กรี้ด อร้าย” ร่างสาวน้อยดิ้นเร่าแลบลิ้นน้ำตาริน นางสั่นกระตุกกายถี่ๆบีบรัดนิ้วของบุรุษจนแทบหัก กว่าจะถอนนิ้วออกมาได้ก็ต้องรอกายน้อยๆสงบลงเสียก่อน เสี่ยวโซ่วแลบลิ้นออกมาจนสุดอีกครา ยามที่่บุรุษถอนนิ้วออกช้าๆ และดึงมาไล้เลียในปากตน ก่อนจะทิ่มพรวดลงไปอีกสองนิ้วและทิ่มตำถี่ๆ จนร่างสาวน้ำแตกพุ่งสาดกระเซ็นหวีดร้องลั่นขึ้นมา “กรี้ด แอร๊ย อรึ้ย อิ๊” ยามนางสงบลง ครานี้นิ้วมือหนาก็ถอนนิ้วที่แฉะชุ่มออกไป และดันลงในปากน้อยๆ และขบกัดใบหูขาวๆกระซิบขึ้นมาเบาๆ เป่าลมหายใจร้อนๆเข้าสู่ใบหูนาง และส่งเสียงลมหายใจฟืดฟาดขึ้นมา เหมือนม้ากลัดมันตัวหนึ่ง “เจ้าเห็นแก่นกายม้าศึกของต้าเกอแล้วใช่มั้ยเสี่ยวโซ่ว หากวันใดต้าเกอทนมิได้อีกครา ต้าเกอจะดันหัวเบ่งบานนี้เข้าไป และขย่มขยี้กลีบเนื้อน้อยๆตรงนี้ให้ป่นปี้ไปเสียเลย ซี้ด อยากทำให้เจ้าดิ้นจนขาดใจตายไปเสียเลย โอว อยากมุดหัวเบ่งบานนี้ กระแทกดันในกลีบเนื้อแน่นๆน้อยๆนี้จริงๆ โอว” ร่างหนาครวญคราง และเด้งแก่นกายสีกลีบเนื้อสาวรุนแรง ใช้สองมือบีบกลีบทั้งสองแบะชิดติดท่อนลำ และสีผ่านเหมือนแผ่นแป้งห่อเนื้อลำโต เสียวซ่านจนสองร่างน้ำแตกพร่าไปพร้อมกัน เสี่ยวโซ่วน้ำลายยืดหยดจากปลายลิ้นน้อยๆ ดวงตาฉ่ำปรืออย่างรุนแรง ใบหน้าคมจึงโน้มลงมา บดเบียดปลายลิ้นแลกลิ้นคลุกเคล้าไปกับนางเสียอย่างหลงลืมตน กว่าจะยอมถอนลิ้นออก ร่างสาวก็ทรุดลงหอบหายใจแรงไปแล้ว “อร่า ขออภัยสาวน้อย ต้าเกอเกิดกำหนัดเป็นคราแรก เจ้าเป็นสตรีเดียวที่เคยเห็นกายของต้าเกอนับจากแม่นมและมารดา จากนี้ไปหากต้องทำพิธีสู่วัยหนุ่ม ต้าเกอจะทำกิจกับเจ้า พาเจ้าเข้าสู่วัยดอกไม้เบ่งบาน บดขยี้จนกลีบดอกไม้ชุ่มฉ่ำเลยทีเดียว อา จำไว้ให้ดีเล่าอย่าให้ใครมาช่วงชิงไปได้โดยเด็ดขาด” เอ่ยแล้วก็อาบน้ำให้นางใหม่ กอดรัดเช็ดกายให้และกอดแน่นติดเป็นปลิง จนนางแต่งกายได้ในยามมีคนมารายงานการทหาร เสี่ยวโซ่วได้โอกาสหนี นางจึงกระโดดแผลวหายไปในทันที ร่างหนามองตามนางไปและดึงผืนผ้าที่นางสวมใส่ มาสูดดมต่อหน้าทหารสื่อสารอย่างพึงใจ ทหารสื่อสารมิใส่ใจอันใด เร่งรายงานข่าวสารจากชายแดนในทันที “รายงานซื่อจื่อขอรับ หวงอี้เกาต้าชินหวางส่งสาส์นแสดงความห่วงใยมาถึงขอรับ ทรงดีพระทัยมากที่ติดตามซื่อจื่อจนพบแล้ว และรู้ว่าทรงปลอดภัยดีขอรับ เอ่ยว่าให้กระหม่อมเสี่ยงภัยส่งสาส์นกลับไปให้ได้ ทรงบาดเจ็บและคิดถึงบ้านและครอบครัวมากขอรับ ตรัสเอ่ยขอกำลังใจขอรับ” “อา พระบิดาของข้าบาดเจ็บเช่นนั้นหรือ เช่นนี้ทัพของฝ่าบาทคงแย่แล้ว ข้าจะเร่งส่งสาส์นไปและปรึกษาหานไท่เวยโดยเร่งด่วน เจ้าไปหากินดื่มในครัวเสียก่อนเถิด อาบน้ำที่หลังครัวนั้นเลย มีผืนผ้าของข้าใช้ผลัดเปลี่ยนเสีย อย่ามากพิธีเลยเร่งไปเสียก่อนที่จะมิได้พักกาย เร่งไปเสียเถิดไป” “ทราบแล้วขอรับ” ทหารลับลุกไปอย่างเร่งรีบ พอหาครัวพบเจอข้าวร้อนๆก็พุ้ยเข้าปากอย่างหิวโหยจนแทบจะติดคอตาย ผู้คนทำครัวเร่งมาลูบหลังให้ ทหารลับน้ำตารินรับน้ำมาดื่ม กินไปทั้งน้ำตายัดข้าวลงท้อง ยัดไปยัดไปและร่ำไห้โฮขึ้นมา “ตลอดทางข้าพบพี่น้องร่วมชาติตกตายมาตลอด มิอาจช่วยอันใดได้ ต้องเร้นกายหนีมาส่งสาส์น หิวมิเท่าใดแต่ใจเจ็บ ข้าเจ็บในอกนัก ที่ช่วยคนตายมิได้เลย” ทหารในครัวถอนหายใจออกมาเบาๆ และขยี้หัวทหารส่งสาส์นที่คุ้นเคยกัน และกอดรัดในวงแขนเขย่าหัวเบาๆ และปลุกปลอบใจอีกครา “ทำใจเสียเถิด หน้าที่ของเจ้าจะช่วยคนได้อีกนับหมื่นนับล้าน สาส์นนั้นมีค่าเท่ากับกองทัพทั้งหมดและแคว้นนี้ ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ข้าและกองทัพก็จะทำหน้าที่ให้ดีเช่นกัน เราจะกอบกู้แคว้นกลับคืนมาให้ได้ มิให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายอีก พวกมันต้องได้รับความตายนับล้านครั้ง ที่บังอาจมาเหยียบย่ำแผ่นดินของเรา เราต้องทวงแค้นนี้กับทหารฉีอันมาให้ได้ ” ทหารส่งสาส์นนามว่าอาเฮ่า พยักหน้าตักน้ำแกงไก่ร้อนๆซดลงกลืนลงไปทั้งน้ำตา ยามทหารอื่นผ่านไปมาก็มาตบบ่าเบาๆ สอบถามข่าวคราวกันและฝากความคิดถึงไปสู่ทัพใหญ่ ที่ถอยร่นกันมาคนล่ะทาง ทหารสื่อสารพยักหน้าหงึกๆ รับคำฝากไปทั้งน้ำตาตน “ข้าจะส่งสาส์นไปให้ถึงขอรับ หากมิได้จะหาทางส่งต่อไปแม้ว่าตัวจะต้องตาย อย่างไรคงจะไปหอสื่อสาร คัดลอกความไว้และกระจายคนส่งสาส์นออกไปขอรับ” ยามบทสนทนาของทหารสื่อสาร มาถึงหูของเมิ่งฉีเซิงที่เดินผ่านมาได้ยินเข้า ก็ทำให้เมิ่งฉีเซิงขบคิดไปมา และเดินเข้าไปหาทหารสื่อสารในทันที “พี่ชายท่านว่าหนทางกลับไปลำบากนักใช่หรือไม่ ถ้าหากว่าบินบนฟ้า ท่านมองหนทางไปชัดหรือไม่ ข้ามีปีกเหล็กจะพาท่านขึ้นฟ้าไป ท่านสนใจหรือไม่ แต่ว่าหากเจอพายุเราอาจตกลงมาตาย แต่บินไปบนฟ้าแน่นอนว่าข้าศึกจับเรามิได้แน่” “ฮร้า ท่านมีของดีเช่นนั้นเชียว หากเจ้าทดลองแล้วมิตาย ข้าจะลองดูอีกคนหนึ่งก็มิเสียหายใช่หรือไม่” ทั้งหมดมองตากันและเร่งลุกไปดูการฝึกปีกเหล็ก ที่คนบินนั้นสวมผ้าบุขนแกะนุ่มๆ และมีสิ่งครอบดวงตากันสายลมอีกด้วย ทั้งยังมีการเหน็บอาวุธแบบพิเศษ มิให้หล่นตามลมไปด้วย อาเฮ่าน้ำตารื้นและตกลงหัดบินในทันที ยามบินไปมาในเมืองได้ ก็นำทางเมิ่งฉีเซิงไปที่ค่ายใหญ่ในทันที ทั้งสองบินมินานก็ถึงค่ายทัพใหญ่ ทำเอาองค์ฮ่องเต้ตื่นเต้นกับปีกเหล็กมากๆ ถึงกับเร่งมาลูบคลำและหัวเราะเมิ่งฉีเซิง เจ้าแห่งกลไกที่คุ้นหน้าตากันอยู่แล้ว ในยามที่ทรงขอให้ช่วยซ่อมเครื่องกลไกในกองทัพอยู่เสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD