คนขี้แยรั้วไร่ติดกัน

1250 Words
ตอนที่ 24 นายแจ้งพร้อมด้วยคนในครอบครัวพร้อมทั้งลูกชายและลูกสาวให้การต้อนรับเขาอย่างดี ทุกคนเรียกเขาว่านายน้อย และที่รู้อีกอย่างคือนายแจ้งนี่ล่ะกับลูกชายที่ถูกมารดานั้นส่งไปสืบเรื่องราวฝั่งตรงกันข้ามในเรื่องนี้ และดังนั้นเองชายหนุ่มจึงมาค้นหาเอาความจริงที่นี่ด้วย เสร็จแล้วกัลย์กฤษณ์ถือโอกาสควบเจ้าแสบที่เขาเคยคลุกคลีในสมัยก่อน เมื่อก่อนมันจำเขาได้ เพียงแค่ดมกลิ่นในตัวเขา มันก็อนุญาตให้นั่งบนหลังได้ แล้วก็พาวิ่งเหยาะๆไปตามเส้นทาง เพื่อตัดลัดไปยังท้ายไร่ที่อยู่สุดปลายเขตรั้ว มีป่าสงวน และไร่ของบุคคลอื่น เขาขี่ม้าบังคับให้มันวิ่งอ้อมไปยังท้ายไร่เพราะทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็นของบิดาและคุณย่า หากถ้าท่านแบ่งไม่ให้กัลย์กฤษณ์นั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และอีกอย่างนั้นที่มารดาสามารถลืมตาอ้าปากได้ ก็ตรงนี้ส่วนหนึ่ง รวมถึงท่านสามารถส่งให้เขาจนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้และกัลย์กฤษณ์ก็อยากจะเห็นหน้าคุณย่าอยากจะไปเยี่ยมท่านกัลย์กฤษณ์จำภาพนั้นได้ประทับใจ คุณย่าท่านไม่เคยแบ่งแยก เพราะท่านเป็นกลางอย่างมากซึ่งในระหว่างที่นั่งควบอยู่บนหลังม้าเจ้าแสบเหยาะย่างออกไปนอกเขตไร่เสียแล้ว มันคึกคะนอง เอาล่ะทีนี้ ทำไง มันเห็นท้องทุ่งโล่งและเป็นป่าทึบแล้วมันก็วิ่งอย่างเดียวเร็วกว่าเดิม กัลย์กฤษณ์ก็ไม่ทันคิดเขาเลยตกใจด้วยซ้ำ จึงพยายามที่จะบังคับบังเ**ยน เมื่อพ้นจากเขตไร่ของตัวเองตรงนั้นเป็นป่าสงวน พื้นที่มีลักษณะสูงต่ำเหมือนเนินเขา “นี่เจ้าแสบแกจะพาฉันออกไปไหนกันไม่เอานะรีบพาฉันกลับบ้านซะ เดี๋ยวนี้ที่โน่นมีหญ้าเกี่ยวให้แกกินฟรีโดยไม่ต้องลำบากเสาะหาเอง”เขาพยายามคุยกับมันเพราะว่ามันเป็นม้าแสนรู้มาก่อนแต่ไม่ทันแล้วเจ้าแสบไม่ฟังเขามันดื้อดึงอาจจะเป็นเพราะมันเห็นฝูงวัวและม้าอยู่ตรงหน้า เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นม้าของใคร สีขาวลำตัวอ้วนพ่วงพี เป็นม้าตัวเมียมิน่าล่ะ มันถึงได้มาไกลขนาดนี้เพราะจมูกไวได้กลิ่นสาว เขาพยายามเหลือบมองดูเจ้าของม้า เนื่องจากอาณาเขตด้านหลังไร่ของเขาติดกับชายป่าและมีพื้นที่ติดต่อส่านหนึ่งเป็นเขตภูเขาที่ครอบคลุมจนถึงรีสอร์ทภูเพียงฟ้า แต่เขาไม่ได้คิดหรอกว่าจะได้พบเจอโจทย์คนสำคัญที่เขาต้องการพบตัว และกัลย์กฤษณ์จึงพยายามเหลียวมองเจ้าของม้าแล้วนั่นเป็นไร่ของใครที่อาศัยอยู่คนละฝั่งกับเขตไร่ของเขา ออกไปทางทิศตะวันตก และก็ต้องยอมรับด้วยว่า สถานที่ตรงนี้เขาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เพราะไม่ค่อยได้สำรวจมาถึงตรงนี้ และเมื่อได้เห็นแล้วก็พบว่าเป็นผู้หญิงไว้ผมยาวและสวมหมวกสีขาวปกปิดเส้นผมทางด้านหลังแต่ดูเหมือนเธอกำลังนั่งสัปหงกอยู่ข้างกระท่อมอย่างที่เห็น และเขานั้นก็รู้สึกแปลกใจยิ่งอีกเหมือนกันกับภาพที่เห็นใครมาสร้างกระท่อมไว้แถวนี้เอถ้าเป็นเขตของป่าสงวนก็คงจะไม่มีใครกล้ามาจับจองหรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดินบริเวณนี้แม้แต่นิดเดียว ทำให้เขาคิดว่าแบบนี้เธอหลับเพลินแน่แล้วนั่นฝูงม้าของเธอก็มีอยู่ห้าตัว ลำตัวสีขาวที่เด่นชัด เดินไปทางด้านโน้น กัลย์กฤษณ์ลงจากหลังม้า และเจ้าแสบไม่รอช้า รีบเหยาะย่างไปทางนางม้าสาวเหมือนลุ่มหลงในทันทีและใช้เชิงรุกใส่ม้าสาวกัลย์กฤษณ์เดินเข้ามาใกล้แล้ว หากเธอยังไม่รู้สึกตัวและคิดว่าหล่อนคงจะอยู่แถวๆนี้ เขาสันนิษฐานเอาไม่งั้นคงไม่กล้าหลับเพราะจะว่าไปสำหรับผู้หญิงนั้นบริเวณแถวนี้ดูเปลี่ยวอย่างมากถ้าหากไม่เกิดความเคยชินล่ะก็ คงไม่กล้านั่งนอนอยู่ที่นี่คนเดียว กัลย์กฤษณ์ต้องการถามให้รู้จักชื่อของหล่อนเท่านั้น “นี่คุณ คุณครับตื่นได้แล้ว” เมื่อเขายืนหยุดอยู่เบื้องหน้าแล้วพิจารณาดูหล่อนเพราะหล่อนไม่ใช่คนผิวขาวแต่ออกจะคล้ำ แต่เป็นผิวในร่มผ้าก็คงไม่คล้ำมาก ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล พับแขนเสื้อ สวมกางเกงยีนส์เก่าซีด และสำหรับเธอคนที่หลับมานานจนมีความรู้สึกว่ากำลังจะถูกจ้องจึงลืมตาขึ้นด้วยสัญชาตญาณเพราะไร่ของเธออยู่ไม่ไกลจากนี้มีชื่อว่าไร่ภูมินทร์เป็นชื่อของบิดาเธอซึ่งเป็นผู้กว้างขวางและผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง เขาตกพุ่มม่าย เพราะคุณเนาวรัตน์ มารดาของเธอเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนเธอมีชื่อว่าภูชยาและยังมีพี่ชายอีกคนชื่อเปรมวิทย์ที่เขาคงแวะไปแถวแหล่งท่องเที่ยวนั่นคือรีสอร์ทที่เปิดใหม่ไม่ถึงเดือนกำลังมีชื่อเสียง และบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างให้ความสำคัญเพราะได้ยินว่า ผู้บริหารที่เข้ามาดูแลเป็นสาวสวยน่ารัก คล่องแคล่ว เก่งกาจ เป็นที่ใฝ่ฝันของหนุ่มๆหลายคนในหนองบัวแดง เห็นพี่ชายพูดอย่างนั้นถึงสาวสวยผู้บริหารตั้งแต่ได้เจอหน้าครั้งแรกของผู้จัดการสาวโรงแรมกึ่งรีสอร์ทแห่งใหม่ ซึ่งภูชยาหมั่นไส้นักที่พี่ชายพูดออกนอกหน้าออกมาด้วยการชมชื่นคนอื่นแบบนั้นเป็นการยกย่องสรรหาใช้คำว่าสวยเหมือนนางฟ้าหากไม่ใช่เธอที่เป็นน้องสาวของเขา ที่ภูชยาอยากจะให้เขาชื่นชมแบบนั้น ในวันนี้เขาคงจะหลงเสน่ห์ผู้จัดการสาวคนเดิมอีกล่ะก็เลยพาลให้ภูชยานั้นชักไม่ชอบหน้าผู้หญิงคนนี้เสียเลย คงจริตจก้านไม่เบา ถึงทำให้พี่ชายของหล่อนหลงจนหัวปักหัวปำแบบนี้ได้ “คุณเป็นใคร” ครั้นพอเปิดเปลือกตาขึ้นมองดูคนตรงหน้า สาวชาวไร่ตกใจพร้อมอุทานออกไปดังๆแล้วก็รีบขยับตัวเหมือนกลัวว่าเขาจะทำอันตรายหล่อน จนว่ากัลย์กฤษณ์ต้องรีบบอก “นี่คุณไม่ต้องกลัวผมหรอกเพราะผมมาดีแปลกใจอยู่อย่างเดียว คุณมานอนเล่นอะไรแถวนี้ ผมชื่อ กัลย์กฤษณ์ครับ ชื่อเล่นว่า กิ้น เออ แล้วไร่ของผมอยู่แถวนี้เหมือนกัน” และเมื่อเขาบอกว่ามาดีนั้นก็ทำให้สาวชาวไร่ที่หลับพักผ่อนไปนาน รู้สึกตัวและได้สติ จึงได้มองเขาอย่างมิตร คลายความหวาดกลัว “ฉันนึกว่าคุณจะเป็นคนร้าย” อีกทั้งภูชยายอมสนทนาด้วย เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านั้นสามารถเชื่อถือใจเขาได้เพราะจากคำพูดและแววตาที่แสดงถึงความจริงใจออกมาและเขานั้นเป็นคนตัวสูงและที่สำคัญคือแสนจะหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียวจึงแนะนำชื่อบ้าง “ฉันชื่อพิ้งค์หรือภูชยาค่ะ เอ้อ พ่อของฉันเป็นเจ้าของไร่ภูมินทร์ เป็นชื่อเดียวกับชื่อท่าน ส่วนแม่ฉันตายไปแล้วค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD