ตามรายงานล่าสุดสถานที่ที่เลียม โอ’ ไบรอัล อาศัอยู่ตอนนี้คือคฤหาสน์ของตระกูล โอ’ ไบรอัล ที่อยู่ในพื้นที่ล้อมรอบกว่าห้าสิบไร่ของทิวไม้ป่ารกทึบหนาแน่น ตามชายป่าเต็มไปด้วยกับดัก ใครก็ตามที่เข้าไปไม่มีโอกาสได้ออกมา เส้นทางเข้าออกทางเดียวเท่านั้นที่ไร้กับดักซึ่งมีเพียงเส้นทางนี้เส้นเดียวแต่เส้นทางเหล่านี้แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้รับอนุญาตเยื้องย่างเข้าใช้เมื่อใดเพียงการบุกรุกไม่กี่ก้าวก็กลายเป็นเป้าเคลื่อนที่ให้เหล่าบอดิการ์ดประลองฝีมือกันทันที
แต่ทว่าภายในคฤหาสน์อันใหญ่โตที่รายล้อมไปด้วยระบการรักษาปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมนี้ ด้านในกลับหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่เต็มใจจะอยู่ที่นี่ ซึ่งทุกคนไม่ได้รู้สึกเลยว่าสถานที่ที่ห่างไกลตัวเมืองจะทันสมัย เต็มไปด้วยความสะดวกในทุกๆ ด้าน ทั้งอาหารชั้นเลิศ เครื่องนุ่งห่มแบรนด์ดังมากที่สุดของโลกภายนอกที่ต่างก็ต้องแย่งกันจองของเหล่าเซเลป แต่ที่นี่ไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายแค่มีเงินจ่ายก็สามารถเป็นเจ้าของได้ทันที
เลียม โอ’ ไบรอัล หรือคนที่นี่ต่างเรียกเขาว่า นายท่านเลียม ใบหน้าเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มขณะกำลังชื่นชมอาณาจักรที่เขาเตรียมไว้แห่งที่สอง เขาเป็นนายใหญ่ของที่นี่ด้วยวัยเพียง 35 เท่านั้น คนภายใต้การปกครองต่างก็ถูกเดากันไปต่างๆ นานาว่าเขามีขุมกำลังคนเทียบเท่ากองทัพหนึ่งกองทัพเลยทีเดียว
“นายท่าน...” ด้านหลังมีชายกำยำสวมชุดสีดำทั้งชุดสองมือประสานไว้ด้านหน้าศีรษะโค้มลงเล็กน้อย “นักฆ่าชายทั้งสี่คนตายหมดแล้วครับ”
เลียมไม่เปลี่ยนสีหน้าใดๆ คนตายที่นี่มีแทบทุกวี่วันจนเขาชินชา เขาโบกมือครั้งหนึ่งคนที่เข้ามารายงานก็เตรียมถอยออกไป หากไม่มีคำสั่งใดเพิ่มมาก็ให้จัดการเผาศพตามธรรมเนียมปฎิบัติกันเป็นประจำ
“เดี๋ยว!” ชายชุดดำที่กำลังจะถอยจากไปหยุดชะงัก “ผู้หญิงเป็นอย่างไรแล้ว”
“ตอนนี้จะให้เธอทำอะไรก็ได้ครับ...”
“หักดิบ...” ชายชุดดำขานรับและถอยออกไป เลียมยิ้มน้อยๆ มองอาณาจักรที่ตนสร้างขึ้นมาด้วยฐานะทายาท โอ’ ไบรอัล เมื่อห้าปีก่อนคุณปู่ได้สิ้นลมด้วยโรคชราภาพในวัย 98 ปี เหล่าเครือญาติแทบล้มทั้งยืนที่ในพินัยกรรมคุณปู่ยกทุกอย่างให้กับเขา เขาที่เป็นอาชญากรระดับโลก เมื่อจู่ๆ ทั้งเงินทอง เส้นสายอำนาจก็กลับสู่เข้ามือเขาอีกครั้ง เขาใช้เวลาแค่หนึ่งปีจัดการทำลายหลักฐานการเอาผิดเขาจนหมดสิ้น
ตอนนี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดเขาได้ ทุกระบบจึงใช้ศาลเตี้ยในการกำจัดเขาแทน ในแต่ละวันล้วนมีคนมากมายต่างมาตายกันไม่หยุดหย่อน รางวัลค่าหัวอันมหาศาล...หึหึหึ เลียมหัวเราะในคอด้วยความเย้ยหยัน
บรื้นนนน เสียงเครื่องยนตร์รถหรูที่เคลื่อนเข้ามาหลังจากได้รับอนุญาต คนที่ก้าวลงมาคือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ทว่า!...ครานี้รัฐมนตรีช่วยฯ กลับไม่ได้มาเพียงลำพัง
“ใครมากับรัฐมนตรีช่วยฯ” เลียมเอ่ยถามทันที ชายกำยำชุดดำขยับออกมาจากมุมมืดภายในห้อง
“จะออกไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ครับ” เลียมไม่ต้องรอนาน “นางบำเรอคนล่าสุดครับ” คำตอบนี้ทำเอาเลียมเลิกคิ้ว แค่นางบำเรออย่างงั้นเหรอ
“ไปสืบมาว่าตอนนี้ครอบครัวของรัฐมนตรีช่วยฯ อยู่ปกติดีหรือไม่” การแฝงตัวเข้ามาที่นี่เขาเจอมาหลายรูปแบบ แต่การที่มีผู้รู้ว่ารัฐมนตรีช่วยฯ เป็นลูกค้าของเขา...น่าสนใจ!
“ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน”
“เข้าห้องพักแล้วครับ”
“เปิดกล้อง” ห้องพักของแขกผู้ทรงเกียรติที่นี่ จะมีกล้องซ่อนไว้ เป็นกล้องที่มีเทคโนโลยีที่สามารถตัดสัญญาณรบกวนได้
“กล้องจับอะไรไม่ได้เลยครับ” ชายชุดดำยื่นไอแพคส่งให้เจ้านายดูว่ากล้องที่ติดตั้งไว้เป็นจอดำ เลียมคิ้วขมวดเข้าหากันทันที กล้องที่เขาใช้ไม่มีอุปกรณ์ใดรบกวนสัญญาณได้ แต่เหตุใดกัน!
“สองคนที่เข้าไปในห้อง ยังไม่มีใครออกมาเลยใช่มั้ย”
“ครับท่าน”
“บุก!” เลียมวางไอแพคในมือและลุกจากเก้าอี้ เดินตรงไปยังห้องพักของรัฐมนตรีช่วยฯ ในทันที ตั้งแต่ที่หญิงสาวคนนั้นเข้ามาตอนนี้ผ่านมา 15 นาทีแล้ว
“นาย!!” ทันทีที่เลียมเดินกึ่งวิ่งมาถึงห้องพักรัฐมนตรีช่วยฯ สิ่งที่เขาเห็นคือรัฐมนตรีช่วยสลบไสลนอนอยู่บนเตียง ภายในห้องไม่มีใครอีกนอกจากชุดราตรีสีดำที่ถูกถอดทิ้งไว้ หญิงสาวคนนั้นหายไปแล้ว
เลียมมองไปรอบๆ ห้อง เส้นทางด้านนอกเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด กล้อง...เขาเดินไปที่ตำแหน่งของกล้องทั้งสามและต้องยกยิ้ม กล้องไม่ได้ถูกรบกวนสัญญาณ แต่มันพังทั้งสามตัว เธอมีอุปกรณ์ค้นหากล้องแต่ไม่ได้มีอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ “ฉลาดมาก” เลียมเอ่ยชมเสียงเบา “ส่งคนของเราขึ้นไปบนหลังคา...จับเป็น” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องมา ไม่มองร่างที่หมดสติของรัฐมนตรีช่วยฯ เลยสักนิด