คิมห่มผ้าปิดร่างกายเปลือยเปล่าที่ตอนนี้ไร้ซึ่งพิษสงก่อนที่เธอจะผละไปล้างเนื้อล้างตัวบ้าง เธอทิ้งเรื่องราววุ่นวายที่ไม่เกี่ยวกับเธอไว้ด้านบน เธอจะต้องเดือดร้อนอะไรขนาดเขาที่เป็นเจ้าของที่นี่ยังไม่มีทีท่าจะเดือดร้อนอะไร ผู้ชายคนนี้จิตใจทมิฬหินชาติจนน่ากลัว
คิมทำอย่างเขาคือเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวจนร่างกายสดชื่น เธอเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก ดวงตากลมเข้มเลิกขึ้นเมื่อเห็นว่าในนี้มีเสื้อผ้าผู้หญิง ที่เธอคาดเดาว่าเป็นของผู้หญิงเพราะขนาดของมันเล็กถูกแขวนไว้ข้างๆ เสื้อผ้าไซด์ใหญ่ซึ่งน่าจะเป็นของเขา
เสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงยีนส์สีเดียวกัน และช่างดีนักเมื่อมันมีเครื่องในสำหรับผู้หญิง ไม่เว้นแม้กระทั่งรองเท้าผ้าใบ แต่ทุกอย่างล้วนเป็นสีดำรวม ถึงเสื้อผ้าอีกไซด์เป็นรูปแบบเดียวกันเช่นกัน
คนมีเงินนี้ช่าง...คิมแค่คิดอยู่ในใจ
เมื่อเวลาผ่านไปเพียงสองชั่วโมงกว่า คิมที่นั่งหลับไม่ห่างจากเตียงต้องลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่ถี่กระชั้น เมื่อเธอลืมตาขึ้นก็ต้องเห็นเลียมนอนกระสับกระส่าย ใบหน้าปกคลุมไปด้วยเหงื่อ และถุงเลือดก็ใกล้จะหมดแล้ว
“ตัวร้อนมาก” ใบหน้าสวยขมวดเข้าหากันทันที เธอได้แต่หวังว่าแผลคงไม่ได้ติดเชื้อนะ คิมจึงเดินไปเปิดตู้เก็บยา หยิบขวดยาแก้อักเสบและเข็มฉีดยามาจัดการฉีดให้กับชายหนุ่มทันที ในเวลาต่อมาไม่นานนักเขาก็ค่อยๆ สงบลงอีกครั้ง
คิมจัดการกับถุงเลือด เธอไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งเรื่องการแพทย์ ทำเป็นแค่เรื่องที่จำเป็น เธอไม่รู้ว่าร่างกายเขาเสียเลือดไปเท่าไหร่และต้องเติมให้เท่าไหร่ถึงจะพอ แต่เท่าที่ดูจากรูปลักษณ์กายภาพภายนอกแล้ว ไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้วในเวลานี้
เมื่อได้พักสักนิดแล้วร่างกายก็รู้สึกถึงเรี่ยวแรงเธอก็ค่อยๆ เลื่่อนสายตาสำรวจห้องขนาดสิบคูณสิบตารางเมตร จากเสบียงและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลพวกเธอสามารถพำนักอยู่ที่นี่ได้ถึงสิบวันเลย และถ้าต้องเป็นแบบนั้นเขาก็คงกลับมาแข็งแรงหายดีเป็นแน่
แต่ทว่าเป็นเวลาสองวันที่เลียมหลับมากกว่าตื่น ในวันที่สามเขาก็ตื่นขึ้นมาซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเวลาเช้า ใบหน้าซับสีเลือดมากขึ้น ดวงตาแกร่งกวาดมองหาร่างระหงไปทั่ว แล้วเขาก็เห็นเธอนอนคุดคู้อยู่มุมหนึ่งของห้อง อดไม่ได้ที่จะมองภาพความน่ารักด้วยแววตาที่อ่อนโยน
หลายวันมานี้แม้เขาจะสะลึมสะลือแต่ภาพของซาตานน้อยยังฉายชัดตลอดสองสามวันที่ผ่านมา เธอที่คอยเอาใจใส่เขาเป็นทุกข์เมื่อเขาไข้ขึ้นสูงกระสับกระส่ายนอนไม่สบายตัว เธอที่ก้มๆ เงยๆ อยู่เหนือร่างเขาเพื่อเช็ดตัวให้ เขาไม่เคยมีความทรงจำหรือประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน หัวใจทมิฬของเขาอ่อนยวบอย่างเงียบๆ
ในเวลานั้นเอง คิมแม้จะงีบหลับไปแล้ว แต่แล้วจู่ๆ สัญชาติญาณนักฆ่าของเธอก็ปลุกให้เธอต้องตื่นเมื่อรู้สึกถึงการถูกจับจ้อง
“ตื่นแล้ว” คิมเอ่ยและลุกเดินเข้าไปหาเขา
“หิวมั้ย” เธอถาม
“หิว” คำตอบสั้นๆ แต่ทว่าคิมกลับรู้สึกหนาวสั่นเมื่อมองสบประสานสายตาเขา เธอหมายถึงอาหารนะ แล้วเขาเล่ามองเธอแบบนั้นหมายถึงอะไร
คิมปั้นใบหน้านิ่งเฉยได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นเขาไม่พูด เธอก็ไม่พูดจวบจนเขากินโจ้กสำเร็จรูปจนหมด
“เราจะออกกันไปได้หรือยัง”
“ได้” เขาตอบแต่ก็ยังนอนนิ่งๆ จนคิมต้องเลิกคิ้ว เป็นการถามเขาว่า แล้ว...
“ฉันแค่ตอบคำถามเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำตามที่เธอต้องการ”
คิมอยากจะเตะผ่าหมากเขาจริงๆ เมื่อได้ยินแบบนี้
“ตามใจคุณค่ะ” เธอตอบและลุกเพื่อจะไปนั่งที่โต๊ะริมผนังห่างจากเขา
“ใครให้เธอขยับ” เขาวางอำนาจ เอาแต่ใจเหมือนเดิม
“คุณเชื่อมั้ยคะ ว่าตอนนี้ฉันสามารถฆ่าคุณด้วยมือเปล่า”
“ถ้าฉันตายเธอก็จะติดแหง็กอยู่ในนี้และแห้งตายตามฉันไปเช่นกัน”
“คุณพูดถูก เพราะงี้ไงคุณถึงยังมีชีวิตอยู่” เลียมถึงกับยิ้ม
“เอาละฉันล้อเธอเล่น มาช่วยฉันแต่งตัว” คิมไม่ยิ้มกับคำล้อเล่นนั้นใบหน้าเธอยังนิ่งเฉย แต่ก็เข้าไปช่วยเขาตามที่ขาต้องการ เธอจัดการล้างแผลเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขาใหม่อย่างคล่องแคล่ว
ในที่สุดแสงสว่างจากดวงอาทิตย์กระทบสายตาเธอจนคิมต้องหลับตาปี๋ และเมื่อเธอปรับดวงตาเข้ากับแสงได้แล้ว นี่แค่สองสามวันเองนะ ทำไมถึงเกลี้ยงเกลาสะอาดไปทั่ว ดูไม่ออกเลยว่าเมื่อสามวันก่อนสถานที่ นี้พึ่งเกิดสงครามเล็กๆ ถ้าไม่เห็นร่องรอยกระสุนตามผนังอาคาร เพราะผู้คนที่บาดเจ็บล้มตายหายไปจากสถานที่เกิดเหตุยังกับเป็นซอมบี้เลย
“เจ้านาย” ชายตัวใหญ่ในชุดดำหยุดตรงหน้าเลียมพร้อมกับโค้งคำนับ
“รายงานมา”
“เป็นกลุ่มของมาดามชีต้า...” เลียมหลี่ตาลงปกปิดแววตาเหี้ยมเกรียมไว้ “กลุ่มพวกมันลงสู่พื้นดินได้จำนวนหนึ่ง คนของเราไม่มีผู้ใดเสียชีวิต เว้นแต่เหล่าสินค้าในซ้องครับ”
“เท่าไหร่”
“สิบสองคนครับ” เลียมขานรับในคอสั้นๆ เท่านั้น
“แล้วคุณจอนสัน”
“หลังจากที่กลับมา ก็พาคนไปจำนวนหนึ่งตามล่าจัดการกลุ่มกำลังพลที่ถูกยิงจนฮอร์ฯ ตกในป่าครับ”
“ตอนนี้โซเฟียอยู่ที่ไหน”
“คุณจอนสันส่งเธอไปปารีสแล้วครับ” เลียมพยักหน้ารับอีกครั้ง โซเฟียมีหน้าที่ดูแลซ้องของเขา เกิดเรื่องนี้ให้เธอตัวใหญ่แค่ไหนก็ต้องหดหู่เกิดความรู้สึกเศร้าหมองเป็นแน่ โซเฟียเคยเปรยว่าถ้าเธอจะพักผ่อนเธอจะไปปารีส
“เจ้านายจะย้ายไปพักที่ไหนดีครับ”
“ไม่เป็นไร พวกนายกลับไปทำงานต่อเถอะ” เลียมพูดจบก็คว้ามือบอบบางคนข้างกายที่ยืนนิ่งสงบมาโดยตลอดเดินไปยังทิศทางอาคารที่พักของเขาและเธอ