ป้าแต้วรีบกุลีกุจอไปหยิบร่มมากางให้คุณนายเจ้าของบ้าน
หญิงวัยกลางคนทั้งสองเดินไปหยุดรออยู่ทางเข้าบ้านเมื่อเห็นสองหนุ่มสาววิ่งผ่านฝนมาเรียบร้อย สายตาของคุณนายมุกมณีเอ็ดลูกชายที่ไม่ยอมหาร่มหรือหาอะไรมาบังฝนให้ฝ่ายหญิง ปล่อยให้ฝ่ายหญิงตัวเปียกม่อลอกม่อแลก แต่ก็อดใจชื้นไม่ได้ที่เห็นหนูเพลินพิศมาถึงบ้านพร้อมกับลูกชายตนเองอย่างปลอดภัย สายตาคู่นั้นอาฆาตซะจนชาติพยัคฆ์รับรู้ได้แต่เขายังทระนงตนเดินผ่านสายสายฝนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรต่างจากหญิงสาวที่จามหลายครั้งตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว
เพลินพิศเห็นคุณมุกมณียืนรออยู่แล้วจึงรีบวิ่งตัวสั่นเข้ามาหาใต้ชายคาบ้านไม้หลังมหึมา แต่ยังไปไม่ถึงเสียงตะโกนของท่านก็ดังขึ้นพร้อมผินใบหน้าไปต่อว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “หนูเพลินตัวเปียกหมดเลยลูก แกดูแลหนูเพลินยังไงถึงปล่อยให้น้องวิ่งผ่าฝนเข้าบ้าน ถ้าน้องไม่สบายล่ะจะว่ายังไง”
‘เอาอีกแล้ว แม่เห็นผู้หญิงน่ารักๆ ดีกว่าลูกชายตัวเองอีกแล้ว’ ชาติพยัคฆ์เสยผมเปียกชื้นขึ้น พิงแผ่นหลังมองท่านโอ๋เด็กน่ารัก
“เอ่อ เพลินวิ่งเข้ามาเองค่ะคุณป้า อย่าโทษคุณคนนี้เลยนะคะ” หล่อนรีบแก้ต่างให้ชายหน้าหล่อ หล่อนก็วิ่งเข้ามาเองเพราะกลัวเสียงฟ้าผ่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก่อนรีบกู้สถานการณ์ไม่อยากให้ทะเลาะกันเพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ หล่อนยกมือไหว้คุณมุกมณีกับหญิงวัยกลางคนอีกคนที่ไม่รู้จัก
“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่เพลินมาถึงช้ากว่าที่เคยบอกไว้นะคะ”
หญิงวัยกลางคนทั้งสองรับไหว้ก่อนคุณมุกมณีจะพูดต่อ “ไม่เป็นไรจ้ะ ช่วงนี้หน้าฝนเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก แค่เห็นว่าหนูเพลินปลอดภัยป้าก็ดีใจแล้ว”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า ฮัดชิ้ว!” พูดยังไม่ทันจบคำก็ต้องจามออกมาหูตาแดงก่ำไปหมด เพลินพิศรู้สึกอายที่ต้องมาทำตัวเป็นภาระจึงไม่ยอมให้ใครมาช่วยถือกระเป๋า แต่แล้วหล่อนต้องผงะเมื่อถูกชายคนนั้นสาวเท้าเข้ามาแย่งกระเป๋าสะพายออกจากหลังแล้วโยนไปให้ชายวัยกลางคนท่าทางนอบน้อม
“อุ๊ย! นี่คุณ จะเอากระเป๋าดิฉันไปไหนคะ”
“ดูแลตัวเองให้ให้ดีก่อนเถอะแม่คุณถึงค่อยห่วงอย่างอื่น ลุงเติม ช่วยเอากระเป๋าแขกของคุณแม่ไปไว้ข้างบนทีนะครับ” ชาติพยัคฆ์พูดรวบรัดตัดตอนแล้วเดินตัวปลิวเข้าไปในตัวบ้านจนคนเป็นแม่ต้องหลิ่วตามองตามแผ่นหลังกำยำนั้น ในวินาทีนั้นมุมปากของคุณมุกมณีมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชักจะอยากให้ลูกชายตัวดีลงเอยกับหนูเพลินพิศของตนเสียแล้ว หันไปมองข้างกายก็เห็นป้าแต้วยิ้มมุมปากไม่ต่างจากตนเอง
“หนูเพลินอย่าโกรธพี่เสือเลยนะ ลูกชายป้าก็แบบนี้แหละ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เราเข้าบ้านกันเถอะจ้ะ”
“เสือ?” หล่อนทวน หลังนึกขึ้นได้ว่าคุณมุกมณีเคยบอกว่าคนที่จะไปรับตนเองที่สถานีขนส่งในอำเภอมีชื่อว่า ‘เสือ’ และเขาก็ไม่มารับปล่อยให้หล่อนเดินหลงทางหาทางเข้าไร่อยู่นานสองนาน
“ใช่จ้ะ พี่เสือเป็นลูกชายคนเดียวของป้า ตอนไปรับหนูพี่เสือไม่ได้แนะนำชื่อให้รู้จักเหรอจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ”
“เอ๊ะ! หรือมันจะไม่ได้ไปรับหนู!!”
คุณมุกมณีร้อนใจพูดเองเออเองคิดไปต่างๆ นานา คิดแล้วพาลอารมณ์พุ่งปรี๊ดขึ้นสูงหากชาติพยัคฆ์ไม่ได้ไปรับหนูเพลินพิศจริงตนจะตามขึ้นไปบิดหูให้ขาดเลย! เห็นคู่ควงดีกว่าแขกของแม่อย่าให้รู้เชียวชาติพยัคฆ์ได้เจอดีแน่