เพลินพิศกลัวว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่จึงคิดหาคำโกหกให้ท่านสบายใจ หล่อนเจียมตัวว่ามีสถานะเป็นแค่ลูกจ้างไม่ควรทำให้เจ้าของบ้านทะเลาะกันและที่สำคัญตอนนี้หล่อนก็กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยเพราะฉะนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องโกรธเคืองเขาต่อหน้าคุณมุกมณี
“ไม่ใช่อย่างที่คุณป้าคิดหรอกค่ะ คุณเสือเป็นคนไปรับเพลินแต่พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันเลยค่ะ”
เพลินพิศตอบยิ้มๆ ก่อนจะจามออกมาอีกครั้ง ขณะนั้นป้าแต้วกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวนำมาวางบนหัวไหล่บอบบางก่อนประคองขึ้นไปส่งถึงหน้าห้องนอนจนเพลินพิศรู้สึกเกรงใจและประทับใจความเมตตากรุณาของหญิงวัยกลางคนทั้งสอง
“อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยแล้วลงมาหาป้าที่ข้างล่างนะจ๊ะ ป้าจะให้เด็กตั้งโต๊ะอาหาร ห้องนี้ป้ายกให้หนูเพลินส่วนห้องพี่เสืออยู่ฝั่งตรงข้าม ป้านอนห้องข้างล่างนี้เองมีอะไรจะถามก็เรียกป้าหรือไม่ก็พี่เสือนะจ๊ะ” คุณมุกมณีบอกอย่างใจดีพาหญิงสาวรุ่นลูกรุ่นหลานเข้าไปดูห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้เหมือนกันกับตัวบ้านขนาดสองชั้นที่เป็นไม้สักทั้งหลักตั้งตระหง่านบนภูเขาไม่ไกลนักเป็นไร่ชา สำนักงาน และโซนสำหรับนักท่องเที่ยว
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
เพลินพิศยกมือไหว้ท่านด้วยความนอบน้อม ตื้นตันใจทอดสายตามองไปรอบห้องนอนที่หรูที่สุดเท่าที่ในชีวิตหล่อนเคยได้พักอาศัย ความเมตตาที่เคยได้รับจากคุณยายแจ่มตอนนี้หญิงวัยกลางคนตรงหน้ามอบมันให้เด็กกำพร้าอย่างหล่อนเช่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรจ้ะ หนูเพลินอาบน้ำเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายซะก่อน ป้ากับป้าแต้วลงไปรอข้างล่างนะจ๊ะ”
“ค่ะคุณป้า” ยิ้มหวานให้ท่านเลยผ่านไปยิ้มหวานให้ป้าแต้ว เพลินพิศเดินตามไปล็อกห้องก่อนจะจามออกมาสุดเสียงเพราะคัดจมูกตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว หล่อนรีบอาบน้ำสระผมด้วยความรวดเร็วสวมใส่ชุดสบายๆ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสำหรับใส่นอน
เพลินพิศจัดเสื้อผ้าเข้าใส่ตู้อดหลับตาปี๋บ่อยครั้งไม่ได้เพราะด้านนอกฝนยังคงตกหนัก ลมพัดแรงแล้วยังมีฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะๆ สงสัยพรุ่งนี้แหละมั้งหล่อนถึงจะได้โทรบอกคุณยายแจ่มว่าเดินทางมาถึงบ้านสุขสวัสดิ์แล้ว เพลินพิศเก็บทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยก็เดินไปยังประตูเปิดออกเป็นเวลาเดียวกับชาติพยัคฆ์เดินออกมาจากห้องเช่นเดียวกัน หล่อนมองเขาหัวจรดเท้าแววตาไม่เป็นมิตร
‘ทีแรกก็ดีใจอยู่หรอกที่เขาให้ติดรถเข้าไร่มาด้วยแต่พอรู้ว่าเขาเป็นใครหล่อนก็ชื่นชมไม่ลง คนบ้า คนนิสัยไม่ดี ปล่อยให้หล่อนยืนรอเก้อตั้งสองชั่วโมงเป็นต้นเหตุให้หล่อนต้องเดินตากแดดตากลมตากฝนจนเนื้อตัวร้อนรุ่ม มันน่าฟ้องคุณป้าให้ดุนัก!’
หญิงสาวเชิดปลายคางใส่อย่างถือดีรีบเดินนำเขาลงมาชั้นล่างของบ้านไม้หลังใหญ่โต ก่อนหน้าหล่อนไม่มีเวลาได้สำรวจพอเห็นเต็มตาอย่างนี้ก็อดประทับใจในการดีไซน์ไม่ได้ มันเหมือนบ้านในฝันของหล่อน แต่ก็คงเป็นได้แค่ฝันเพราะเด็กบ้านแตกอย่างหล่อนลำพังมีบ้านให้ซุกหัวนอนกับมีข้าวกินครบสามมื้อก็ดีมากแค่ไหนแล้ว ทว่าสัมผัสอุ่นวูบตรงต้นแขนทำให้พวงแก้มเพลินพิศแดงเปล่งปลั่งรีบก้มหน้าลงมองพอเห็นเป็นมือชาติพยัคฆ์ก็ตกใจ
“อุ๊ย! คุณเสือ! ปล่อยแขนดิฉันนะคะ”
“ก็ไม่ได้อยากจับเท่าไหร่แต่เห็นเงอะๆ งะๆ ไม่รู้จักทางไปห้องอาหารผมก็เลยจะพาไปก็เท่านั้น”
“ดิฉันไม่ได้เงอะๆ งะๆ นะคะ”
“อ๋อเหรอ เชื่อตายแหละแม่คุณ ตกลงว่าจะตามผมมาไหม?” ชาติพยัคฆ์เลิกคิ้วขึ้นสูงยียวนกวนอารมณ์เด็กใหม่ในบ้านที่ตัวเองไม่รู้จักมาก่อนแต่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูชอบกล น่ารักจนอยากจะจับกดลงใต้ร่างสักทีสองทีแล้วให้เงินสักก้อนเป็นค่าตัว คิดแล้วก็อดกระหายไม่ได้สงสัยว่าเขาจะห่างเรื่องอย่างว่ามานานหน่อยปฏิกิริยาก็เลยดี ขนาดเด็กกะโปโลก็ยังเผลอไผลคิดอยากร่วมรักด้วย
ไม่สิ! สำหรับเขาไม่ใช่ร่วมรัก แต่เป็นได้แค่เซ็กซ์!
เพลินพิศหน้ามุ่ย “ตามค่ะ แต่คุณเสือไม่ต้องจับแขนก็ได้ ดิฉันโตแล้วเดินเองได้”
“โตเหรอ?” ชายหนุ่มทวนพลางเลื่อนสายตาลงมามองหน้าอกหล่อนที่ไม่ได้นูนเด่นอะไรแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ที่เขาพาขึ้นไปขย่มบนเตียงบ่อยๆ เลย เขากัดริมฝีปากล่างพลางครุ่นคิด “อืม... แค่นี้เขาไม่เรียกว่าโตมั้ง คงจะไม่เกินไซส์บี เอ๊ะ หรือแค่ไซส์เอปลายๆ น๊า”