7

1179 Words
คุณหญิงปทุมวดีหันหน้าไปมองบันไดบ้านที่ทอดตัวขึ้นสู่ชั้นบน พลางโบกพัดแบบจีนโบราณไปด้วย บ่นให้ม้วนแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านกับแต้วคนรับใช้จอมสอพลอประจำบ้าน ตั้งแต่เช้ายันกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายกว่าๆ อาการบ่นของเจ้าของบ้านก็ยังไม่ทุเลา “โอ๊ย!!...มันจะนอนกินบ้านกินเมืองหรือยังไง ตะวันตรงหัวแล้วยังไม่ลงมาอีก” “คุณหญิงก็ไปปลุกมันสิคะ บ่นให้เหนื่อยทำไมความดันพาลจะขึ้นเอาด้วย” แต้วเสนอแนะ พูดด้วยความหวังดี “นี่นังแต้ว” ปทุมวดีตวาดเสียงสูง “ทำไมฉันต้องเมื่อยตุ้มไปปลุกมันด้วยยะ ถ้ามันไม่มีสมบัติผู้ดี ไม่มีกาละเทศะ ไม่รู้จักเวล่ำเวลาแบบนี้ เห็นทีฉันต้องพูดกับตากรให้รู้เรื่องซะแล้ว” พูดไปโบกพัดไป ระบายความร้อนใจที่มีแน่นอก “นั่นค่ะคุณหญิง มันเดินหาวหวอดๆ ลงมาโน่นแล้วค่ะ” แต้วพูดขึ้นเมื่อเห็นบุคคลที่รอคอยเดินทอดน่องลงมายังชั้นล่าง ปทุมวดีมองลูกสะใภ้ด้วยความชิงชัง ลุกขึ้นพรวดหุบพัดในมือแล้วชี้ไปยังหน้าของคนที่เพิ่งเดินลงมา “นี่แม่คุณ จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง รู้มั้ยว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว หรือว่าตะวันไปตรงหัวหล่อนก็จะไม่ตื่น เป็นสะใภ้บ้านนี้ต้องตื่นก่อนผัว ก่อนพ่อผัวแม่ผัว มาหุงหาข้าวให้กิน ไม่ใช่ตื่นสายเอาป่านนี้” ปทุมวดีเปิดฉากต่อว่าทันที “โธ่...คุณแม่ลืมไปแล้วหรือคะว่าเมื่อวานวันอะไร?” ลูกสะใภ้ตัวดีย้อนแม่สามี “ทำไมจะจำไม่ได้ มันเป็นวันที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย เป็นวันแต่งงานของหล่อนกับตากรน่ะสิ สมองฝ่อจนจำไม่ได้หรือไง?” ปทุมวดีเดือดอีกรอบ “ก็นั่นสิคะ เมื่อวานเป็นวันแต่งงานของคุณกรกับมิว พอตกดึกก็ถึงเวลาส่งตัว แล้วเวลาส่งตัวเขาทำอะไรกันล่ะคะคุณแม่?” ย้อนถามอีกรอบ คนที่ถูกย้อนถึงกับหน้าแดงก่ำกับคำพูดไม่มียางอายของประภาพรรณ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่หล่อนนอนตื่นสายด้วย?” ปทุมวดีถามอย่างเหลืออด เพราะคิดว่าคำถามย้อนยอกสองคำถามนั้นไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่ประภาพรรณนอนตื่นสายแม้แต่น้อย “ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะคะ เกี่ยวเต็มๆ เลยค่ะ” ประภาพรรณพูดยิ้มๆ “ก็คุณกรน่ะสิคะ รีดเลือด รีดพลังงาน คาร์โบไฮเดต โปรตีน น้ำตาลและไขมันออกไปจากร่างกายของมิวซะเกลี้ยงเลย ทำให้มิวหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยค่ะ ขนาดคุณกรลุกไปทำงาน มิวยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ขอตัวนะคะคุณแม่สามี มิวจะไปหาพลังงานมาเพิ่มเติมในร่างกายหน่อยคะ เพราะคืนนี้อาจจะต้องใช้เยอะเหมือนเมื่อคืน” คนที่พูดจบเดินไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรรับประทานทันที เธอไม่ได้โป้ปดหรือพูดจาทะลึ่งเลยสักนิดเดียว ค่ำคืนแสนสุขที่ผ่านมาเธอและพันกรแสดงความรักทั้งคำพูดและทางร่างกายหลายครั้งหลายหน กว่าจะได้หลับก็ปาเข้าไปเกือบสว่าง ยังทึ่งในตัวของสามีเลยว่า ตื่นมาทำงานไหวได้อย่างไร ส่วนเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง หลับเป็นตายตื่นอีกทีก็เที่ยงครึ่ง พอตื่นมาท้องก็ประท้วงหิวทันที เจ้าสาวหมาดๆ จึงอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาหาอะไรทาน ฝ่ายปทุมวดีเมื่อเจอย้อนอย่างนี้เข้าถึงกับลมแทบจับ ทรุดกายนั่งร้องหายาดมจากม้วนคนรับใช้คู่กาย คลีพัดลายสวยออกก่อนจะโบกพัด “ดู ดูมัน เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้หญิงอะไรไม่มียางอาย พูดมาได้ไม่อายปาก” พูดไปสูดยาดมไป ส่วนม้วนกับแต้วช่วยกับนวดขาคนละข้าง บรรเทาอาการลมจับของเจ้านาย แค่ยกแรกนางก็ทำท่าจะแพ้เสียแล้ว “คุณหญิงอย่าลมจับสิคะ ถ้าคุณหญิงลมจับแสดงว่าคุณหญิงแพ้คุณมิวนะคะ คุณหญิงต้องสู้ๆ นะคะ หาทางเล่นงานมันให้ได้” แต้วเอ่ยบอกเจ้านาย ปทุมวดีหยุดดมยาดม หยุดโบกพัดทันที จริงสิ นางจะเป็นลมไม่ได้ ถ้าเป็นลมก็ถือว่าแพ้ลูกสะใภ้ตัวแสบ ไม่ได้นางยอมไม่ได้ “รอให้คุณมิวกินข้าวเอาแรงก่อนก็ได้ค่ะคุณท่าน พอคุณมิวอิ่มท้องเสร็จก็ให้ไปซักผ้าก็ได้ค่ะ กองเบ้อเริ่ม” ม้วนคิดแผนให้เจ้านาย “เออ...ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะแกล้งให้มันซักผ้า ให้มันซักมือมันจะได้เหนื่อยจนหอบรับประทาน” ปทุมวดียิ้มกับแผนแกล้งลูกสะใภ้ “แต่เดี๋ยวก่อน ม้วนกับแต้วถ้าอยู่กับฉันไม่ต้องเรียกลูกสะใภ้ของฉันว่าคุณมิว ให้เรียกมันว่ามันเหมือนกับที่ฉันเรียก ต่อหน้าคนอื่นค่อยเรียกมันว่าคุณมิว ได้ยินใครเรียกมันว่าคุณมิวแล้วมันคันหูยังไงก็ไม่รู้ เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า?” “รับทราบค่ะ” ม้วนกับแต้วประสานเสียงรับคำคุณหญิงเจ้ายศเจ้าอย่างพร้อมกัน ประภาพรรณเดินเข้ามาหาอะไรทานในห้องครัว เปิดฝาหม้อที่ตั้งไว้ตรงเตาแก๊สออกดู ก็พบว่าเป็นหม้อใส่แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากาย เธอเห็นดังนั้นจึงหันไปตักข้าวสวยที่อยู่ในหม้อหุงข้าวใส่จาน แล้วเดินกลับไปยังหม้อแกงอีกครั้ง ตักแกงเขียวหวานกลิ่นหอมราดข้าวสวย ก่อนจะมานั่งกินบนโต๊ะอาหารที่อยู่ในครัว โต๊ะที่คนรับใช้นั่งทานข้าว เมื่อท้องอิ่มร่างกายได้รับอาหารครบห้าหมู่ ประภาพรรณจึงเดินออกมาจากห้องครัว “เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป” เสียงของแม่สามีร้องเรียกลูกสะใภ้เสียงดัง เมื่อเห็นเป้าหมายจะเดินขึ้นไปชั้นบน “มาหาฉันหน่อยสิ” พร้อมกับร้องเรียก ประภาพรรณจึงเดินมาหาปทุมวดี ทรุดกายนั่งบนโซฟาแสนนุ่ม “คุณแม่มีอะไรให้ลูกสะใภ้คนนี้รับใช้ค่ะ?” “หล่อนรู้หรือเปล่าว่าหน้าที่สะใภ้ต้องทำอะไรบ้าง?” ปทุมวดีเริ่มแผน “ไม่ทราบค่ะ เพราะเกิดมาก็เพิ่งเคยสะใภ้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกแล้วอาจจะครั้งเดียวด้วย จึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง” “ในฐานะที่ฉันเคยเป็นสะใภ้มาก่อน และตอนนี้ก็อยู่ในฐานะแม่ผัว ฉันจะบอกเธอเอาบุญก็ได้ หน้าที่ของลูกสะใภ้บ้านนี้ต้องซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว กวาดบ้าน ถูกบ้าน ทำสวน ถางหญ้า รดน้ำต้นไม้ ล้างรถและอีกจิปาถะที่ฉันจะเรียกใช้” ปทุมวดีเชิดหน้าพูด ประภาพรรณนึกอยู่แล้วว่าแม่สามีรสซ่าส์ของเธอ เริ่มเปิดศึกระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ มีหรือที่สะใภ้รสแซ่บอย่างเธอจะยอม แม่สามีจัดมา ลูกสะใภ้คนนี้จัดให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD