เสียงครวญครางมาพร้อมกับฟันเล็ก กัดลงไหล่บึกบึน
“อ้า... เนย... อา...”
ชายหนุ่มเจ็บแปลบในช่วงไหล่แต่แรงรักกับหนักหน่วงรุนแรงจนความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั้งร่าง ความเจ็บจนเลือดซึมไหล่กลับไม่ทำให้แรงยกสะโพกของมือหนาลดน้อยถอยลงเลยสักนิด
ชั่ววินาทีเพลิงอินทรีพลิกร่างน้อยที่ดิ้นพล่าน สอดความเป็นชายเข้าทางด้านหลังของหญิงสาวที่ต้องพลิกกายหันหลังให้กะทันหัน
“อื้อ... คุ... คุณ... ไฟ” หญิงสาวร้องปานร่างแน่งน้อยจะมอดไหม้
ความแข็งขึงที่กดลึกอีกคราช่างวาบหวามรัญจวนใจเหลือเกิน แรงดันหนักหน่วงลึกซึ้ง มือหนาเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นอกนุ่มอย่างหวามไหว
รอยจูบร้อนชื้นลากจากสะโพกเรื่อยผะแผ่วไปตามแผ่นหลังนวลเนียนที่ตอนนี้เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมไหล แต่แรงจูบดูดดุนแผ่นหลังนุ่มกลับรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวผวาอีกครั้งเมื่อแรงจูบที่แผ่นหลังหนักหน่วงมากขึ้นเป็นเท่าตัว แรงบีบเคล้นอกสาวก็หนักมากขึ้นราวกับอกสร้างต้องแตกระบม แรงสะโพกถี่ยิบกระชั้นชิดจนน่าหวาดเสียว
“คุณ... ฟะ... ไฟ... อ่า...”
เสียงหวานเล็ดลอดครางหวิว ร่างแน่งน้อยสั่นไหวจนร่างเล็กๆ กระเพื่อม เล็บเล็กจิกไปตามหมอนบีบมันราวกับระบายความร้อนที่วิ่งไปตามร่าง
เสียงหญิงสาวครางกระเส่าทำให้ชายหนุ่มเพิ่มแรงรักที่เน้นหนักล้ำลึกในด้านหลังอย่างหนักหน่วงรุนแรง สะโพกแกร่งโรมรันปานพายุที่ซัดเข้าหาฝั่ง
“อ้า... เนย...”
ชายหนุ่มร้องครวญ แรงโยกโรมรันมากขึ้น เหงื่อเม็ดใหญ่หยดแหมะลงแผ่นหลังบางจนเปียกชุ่ม แต่ชายหนุ่มกลับไล้เลียดูดกลืนทุกหยาดหยด
“คุณ ฟะ...ไฟ... ช่วยด้วย”
เธอข่มปากเรียกร้องเมื่อความร้อนวิ่งพล่านทั่วร่าง ลมหายใจกระหืดหอบ ร่างกายสาวเบาหวิวราวกับคนที่จะเป็นลม เนย์ญรินทร์เงยหน้าขึ้น กัดฟัน เม้มริมฝีปากไว้แน่น
“โอ้วว... อ่า... อ้า...”
เสียงชายหนุ่มส่งเสียงร้อง แรงถี่ที่ซอยกระชั้นชิดระรัวเร็ว ลมหายใจหอบหนักราวกับวิ่งมานับสิบกิโล ค่อยๆ ผ่อนปรนลมร้อนๆ ออกจากปากเบาๆ
เพลิงอินทรีห่อปาก ผ่อนร่างกายหนา พร้อมแรงกระตุกหนักๆ สองสามที ความเป็นชายที่ขยายใหญ่ในกายสาวก็ฉีดน้ำรักสีขุ่นเข้าใส่กุหลาบสาวทุกหยาดหยด
แรงรักที่รุนแรงหนักหน่วงในคราวหลัง ความหฤหรรษ์ก็วิ่งพล่านสู่ร่างเล็กๆ น้ำใสๆ รินไหลตามเรียวขานุ่มทุกหยาดหยด ร่างน้อยที่พบกับความสุขถึงกับฟุบลงกับที่นอนนุ่มอย่างหมดแรง
ชายหนุ่มยังแนบชิดสนิทสนม อกแกร่งชิดแผ่นหลังบอบบางอยู่อย่างนั้น ลมหายใจที่เหนื่อยหอบค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพลิงอินทรีกดจูบหนักๆ ลงบนต้นคอระหงอย่างวาบหวาม
“ปล่อยนะ!”
เนย์ญรินทร์สั่งเบาๆ เมื่อชายหนุ่มซุกไซ้ลำคอนุ่มราวกับจะปลุกปั่นอีกครา
“ฉันยังไม่อิ่ม” เขากระซิบแหบพร่า
“ไม่! ฉันเจ็บ”
เธอบอกเสียงสั่นพร้อมหลับตาลงอย่างอ่อนแรง
“หึ เจ็บ แต่เธอครางอย่างสุขสมนะเนย” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน แววตาสื่อความหมายว่าสมเพชเหลือคณา
“คุณไฟ!”
หญิงสาวเสียงแข็งขึ้น เขาหมิ่นเกียรติเธอมากเหลือเกิน
“ฉันไม่อิ่ม เธอก็ไม่มีสิทธิ์สั่งให้ฉันหยุดเนย”
เสียงเข้มตวาดดังก้อง พร้อมกับแรงกดที่หนักหน่วงเข้าสู่ด้านหลัง เนย์ญรินทร์สะอื้นฮักๆ อย่างเจ็บใจ ความเป็นชายที่ดุนดันเข้าหาอย่างช้าๆ ทำให้เธอดิ้นรนหนี
“หยุดดิ้น ถ้าเธอยังอยากจะลงจากเตียงหลังนี้” เขากระซิบอย่างเยือกเย็น
“หึ...” เสียงหญิงสาวหัวเราะเยาะให้ตัวเองเบาๆ ช่างน่าสงสารน่าเวทนาเหลือเกิน การกระทำของเขาแตกต่างจากเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
แรงกดลึกหนักหน่วงของความเป็นชายที่ร้อนฉ่าขึ้นอีกครั้ง เนย์ญรินทร์หลับตาลงอย่างเหนื่อยแรง เหนื่อยที่ต้องต้านทานดิ้นรน แต่ไร้ทางรอด
ความร้อนที่แข็งขึงในกายสาว เหยียดขยายจนติดกับผนังนุ่มทำให้เนย์ญรินทร์ข่มฟันกัดปากจนห้อเลือด สะโพกที่ถาโถมบางครั้งหนักและรัวเร็ว บางคราวเชื่องช้าแทบขาดใจ แต่ว่าไม่อาจห้ามความหวามไหวที่เกิดขึ้นได้
น้ำตาเม็ดเล็กซึมไหลที่หางตา ยิ่งเสียงทุ้มร้องครางกระเส่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ช่างบาดลึกในหัวใจดวงน้อยเหลือเกิน ร่างที่ให้เขาเชยชมคงไม่มีค่าต่อเขาเลยสักนิด
สะโพกแกร่งโรมรันเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวพายุที่ซัดเข้าหาฝั่งจนแทบค่อนคืน แรงรักที่มอดดับลงพร้อมกับเสียงไก่ขันยามเช้าที่ส่งเสียงปลุกร้อง
เมื่อพายุสวาทที่แสนยาวนานสิ้นสุดลง ชายหนุ่มก็พลิกกายลุกออกจากเตียง คว้ากางเกงขาก๊วยที่ปล่อยให้ระเนระนาดอยู่กับพื้นมาสวมใส่อย่างลวกๆ ก่อนจะก้าวออกจากห้อง เหล่ตามองหญิงสาวที่เชยชมเพียงเล็กน้อย
ความสงสารเล็กๆ เริ่มซึมซับในหัวใจ ก่อนจะถูกสลัดทิ้ง เหลือเพียงความว่างเปล่า ตามสภาพจิตใจที่เยือกเย็น
“ใจง่ายจริงนะ เนย์ญรินทร์ ลีละเดชา”
เสียงทุ้มเปล่งขึ้น หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ก้าวออกจากห้องไปไม่เหลียวหลัง
น้ำเสียงประโยคสุดท้ายที่ได้ยินสร้างความเจ็บร้าวให้ร่างน้อยสะอื้นไห้ปานจะขาดใจ เสียงเปิดและปิดประตูที่เงียบกริบทำให้หญิงสาวที่นอนซมหมดสภาพอยู่บนเตียงลุกขึ้นนั่ง ร่างระหงที่ซวนเซจวนจะล้มลุกขึ้นยืนส่องกระจกที่อยู่ด้านหน้า
สภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยจุดแดงและรอยปื้นเล็กๆ ทั่วลำตัว ทำให้หญิงสาวแทบเข่าอ่อน ความสาวความบริสุทธิ์ที่เขาเชยชมคงไร้ค่าไร้ราคาเหลือเกิน
“ผู้หญิงใจง่าย” คือสิ่งตอกย้ำเหมาะกับเธอในเวลานี้
ร่างเล็กทรุดลงนั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง หวังจะหนีให้พ้น ประตูคือจุดมุ่งหมาย เนย์ญรินทร์เก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อยยัดใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน ลุกขึ้นแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างทะมัดทะแมง
ชีวิตคุณหนูที่น่าสงสารขอหนีไปตั้งหลักเริ่มต้นใหม่ ไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าต้องทนเป็นเบี้ยล่างให้เขาตอกย้ำซ้ำเติมเหมือนเวลานี้ทุกวันตลอดไป เธอคงทนไม่ได้ถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายใจร้ายเช่นเขา
ร่างเล็กโผเผตรงดิ่งไปยังประตูทันที เพียงก้าวเท้าออกจากห้อง ความเย็นที่สัมผัสปลายเท้าทำให้เธอต้องหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาดู แววตาคู่สวยจ้องสิ่งที่อยู่ในมือราวกับมัจจุราชที่กำลังคร่าชีวิตของเธอ หั่นเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆ ไม่ต่างจากสับละเอียด เนย์ญรินทร์ทรุดลงร้องไห้ปล่อยให้น้ำตารินไหลจนเปียกชุ่ม
กระดาษโน๊ตใบเล็กพร้อมข้อความที่ตวัดเขียนอย่างสละสลวย แต่ความสวยของตัวอักษรกลับกรีดลึกถึงหัวใจคนอ่านเหลือเกิน
‘1,000 บาท สำหรับค่าพรหมจรรย์ที่ไร้ความหมายของเธอ’
ลงชื่อ... เพลิงอินทรี