ร้านกาแฟร้านนี้อันที่จริงแล้วมันเป็นของพี่สาลูกพี่ลูกน้องของภัคมนพัช แต่พี่สาพบรักและแต่งงานกับอรุณเจ้าของบริษัทสิ่งทอขนาดใหญ่ในอินเดียที่มีสำนักงานอยู่ที่อาคารนี้ หลังจากแต่งงานจึงย้ายไปอยู่อินเดียกับสามี ตอนนั้นภัคมนพัชเพิ่งเรียนจบและไม่ได้ แพลนว่าจะทำงานที่ไหน พี่สาจึงยกร้านนี้ให้ พร้อมกับห้องชุดขนาดใหญ่ในโครงการคอนโดหรูบนถนน สาธุประดิษฐ์ ภัคมนพัชจึงดำเนินกิจการต่อและถือโอกาสเปิดร้านเช่าหนังสือไปด้วยในตัว
นี่คุณ มองอะไร หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือเปล่า” หญิงสาวเอื้อมมือที่วางอยู่ข้างเคาน์เตอร์ไปสะกิดเขาหลังจากที่เขายังมองหล่อนอยู่ไม่กระพริบตา นายคนนี้แปลก หรือว่าจะเป็นพวกไบเซ็กชวลชอบทั้งชายหญิง อย่ามาจีบเชียวนะ แม่จะไล่ออกจากร้านให้ดูเชียว
“คุณ... อาบน้ำล้างหน้ามาหรือเปล่า ผมดูที่ตาคุณเหมือนมีคราบอะไรอยู่เลย...” เขารีบบอกปัดเพราะอายที่ไปจ้องมองผู้หญิงจอมเอาเรื่องอย่างหล่อนเข้าและบังเอิญปัดเข้าหาเรื่องที่เป็นจริงเสียด้วย
“จะ… จริงเหรอ คุณเห็นและก็ดูรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ” หญิงสาวอ้าปากกว้างยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเอง จากนั้นก็ควานหากระจกในลิ้นชักมาส่องหน้าตัวเอง และก็เห็นคราบรอบดวงตาเล็กน้อย ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น มันอาจจะเป็นคราบน้ำตาที่แห้งเกรอะจากที่หล่อนฟุบหลับ หรือว่าเป็นคราบที่หล่อนรีบมาที่ร้านจนล้างหน้าไม่สะอาดก็ได้...
ต้องโทษยัยจีน เด็กในร้านที่ข้ามถนนเอากาแฟไปส่งลูกค้าประจำที่ออฟฟิศฝั่งตรงข้ามแล้วโดนรถชน เดือดร้อนเวคิณที่เห็นเหตุการณ์พอดีต้องพาไปส่งโรงพยาบาลไม่พอเจ้าตัวยังเรียกหล่อนมาที่ร้านกะทันหันเพราะไม่ได้ปิดร้าน ตอนนั้นหล่อนเพิ่งจะหลับตาลงหลังจากปั่นนิยายเสร็จและไม่ได้นอนมาเกือบสิบหกชั่วโมงเลยได้แค่ล้างหน้าแปรงฟันเช็ดเนื้อเช็ดตัวลวกๆ แล้วสวมชุดวิ่งหน้าตั้งออกมาจากคอนโดโบกแท็กซี่บึ่งมาที่ร้าน พอมาถึงลูกค้าก็เข้าร้านเยอะแยะจนทำแทบไม่ทันพอคนซาลงไปหล่อนก็ฟุบหลับเพราะเหนื่อยอ่อน ไม่ได้สนใจไปอาบน้ำที่บริเวณหลังร้านซึ่งมีห้องน้ำและมีห้องพักเป็นสัดส่วนด้วยซ้ำ
“จริงๆ แน่เลย... คุณทำไปได้ไง ไม่อาบน้ำแล้วมาทำงาน” ปัณณ์นิ่วหน้า เขาแค่ล้อหล่อนเล่น แต่หล่อนดันทำจริงๆ คนที่รักสะอาดเป็นเรื่องเป็นราวถึงกับนิ่วหน้า จนเจ้าของร้านกาแฟชักรู้สึกผิด
หญิงสาวจึงเล่าสาเหตุของการไม่ได้อาบน้ำให้เขาฟัง พร้อมกับย้ำว่าหล่อนล้างมือและล้างหน้าแปรงฟันสะอาดเรียบร้อยไม่สกปรกแน่นอน
“ง่วงแล้วทำไมไม่ปิดร้าน แล้วพนักงานคนอื่นไม่มีหรือไง”
“จริงๆ มีพนักงานสามคน แต่ว่าลาออกไปแต่งงานกันเองสองคน เหลือแต่คนที่โดนรถชน ฉันแปะป้าย รับสมัครพนักงานอยู่ที่บอร์ดหน้าร้านนั่นไง แล้วฉันก็ต้องมาเฝ้าต่อปิดร้านไม่ได้เพราะเค้กในตู้มีกำหนดทิ้งวันนี้ ต้องรีบขายให้หมดและก็รอลดครึ่งราคาตอนหนึ่งทุ่มให้ขายเค้กหมดแล้วค่อยกลับบ้านได้”
“โอ้โห งกจริงคุณ... เค้กราคาไม่เท่าไหร่ในตู้นี้ ทำให้คุณยอมอดตาหลับขับตานอน ยอมไม่อาบน้ำ และก็ละทิ้งน้ำใจไม่ไปดูเด็กในร้านที่โดนรถชนเลยเหรอ”
“นี่ๆ มันจะมากไปแล้วนะ... กิจการใคร ใครก็รักและก็ยอมทุ่มเททั้งนั้นแหละ นอกจากเค้กที่ทำให้ฉันปิดร้านไม่ได้แล้ว ยังมีนัดมีทติ้งกับเพื่อนร่วมสำนักพิมพ์ที่จะมาคุยงานโปรเจกต์นิยายเรื่องใหม่ที่ฉันร่วมเขียนด้วยตอนห้าโมงเย็น แล้วเด็กจีนนั่นก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รู้สึกขัดๆ ที่ข้อมือเลยอยากไปเอ็กซเรย์ดูที่โรงพยาบาล เขาไปกับกิ๊กของเขาและกำลังรอเจอหมออยู่ จะกลับอีกทีก็ตอนเย็นโน่น ฉันไม่ต้องไปเยี่ยม เพราะยังไงจีนก็ต้องกลับมาเพราะพักที่นี่ พอใจไหม” ภัคมนพัชเถียงฉอดๆ นึกเคืองคนตรงหน้าที่ต้อนหล่อนจนหล่อนเล่าเรื่องมากมายให้เขาฟังอย่างที่ไม่จำเป็นสักนิด...
“แล้วจะกินไหมน่ะกาแฟ” หล่อนถามเพราะรำคาญจะพูดกับเขา เลยจะไล่เขาดื้อๆ
“ผมคงกินไม่ลงหรอก ถ้าคุณไม่อาบน้ำ”
“ฉันอาบก็ได้ แต่คุณนั่งเฝ้าร้านให้ฉันได้ไหม ห้องน้ำอยู่ตรงมุมโน้นไง” หล่อนชี้ไปด้านในของร้าน ที่ก่ออิฐสีส้มประดับด้วยดอกไม้เป็นกำแพงสูงไว้ เหลือช่องว่างให้เดินเข้าไป หลังส่วนนั้นเป็นห้องน้ำให้ลูกค้าในร้านและถัดเข้าไปเป็นที่พักพนักงานและมีห้องน้ำส่วนตัวของหล่อนอีก หล่อนเองคิดว่าหล่อนควรจะไปอาบน้ำ เพราะเห็นเขาทำท่ารังเกียจแล้วก็รู้สึกผิดต่อลูกค้าอยู่เหมือนกันจึงอยากอาบน้ำ ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากปิดร้าน เพราะว่าเกรงว่าเพื่อนนักเขียนอาจจะมาในช่วงที่ตนไม่อยู่และก็เกรงว่าจะเสียลูกค้าที่จะมาเข้าร้านในช่วงที่หล่อนอาบน้ำ ยอมรับนิดหน่อยว่าตนเองงก...
“เฝ้าได้ไง ผมไม่ใช่พนักงานร้านคุณ แล้วถ้าลูกค้ามาจะให้ทำไง ผมขายของไม่เป็นนะ”
“ถ้าเกิดเขาอยากซื้อกาแฟ นายก็บอกให้เขารอก่อนสิ ส่วนเค้กกับเบเกอรี่ก็ขายตามราคาป้ายแล้วจดเอาไว้ว่าขายอะไรไปบ้าง เดี๋ยวฉันมาคีย์เครื่องเอง ถ้าเกิดลูกค้ารีบเอากาแฟ ก็ชงๆ ไปตามสูตรที่แปะใต้เคาน์เตอร์นี้ก็ได้เดี๋ยวนี้ชงกาแฟใครๆ ก็ทำเป็นทั้งนั้นแหละ ฉันอาบน้ำไม่นานหรอกน่า... อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ฉันไม่ได้ใช้ฟรีหรอก มีอะไรตอบแทนอยู่เหมือนกัน”
“ทำไม จะเลี้ยงหรือไง” การเฝ้าร้านรอหล่อนเป็นที่น่าสนใจเหมือนกัน มันก็โอเคอยู่ที่จะได้ลองทำอะไรแปลกๆ บ้าง หลังจากที่เซ็งกับเรื่องบัดซบโน่นนี่นั่นมากมาย ลองทำอะไรบ้าๆ เพื่อให้หายเซ็งก็ดีเหมือนกัน
“ฉันจะเลี้ยงกาแฟฟรี ส่วนเค้กลดห้าสิบ เอ๊ย ไม่ดีกว่า สิบเปอร์เซ็นต์ ตกลงนะ…” หล่อนไม่อยากลดอะไรให้เขามาก เพราะกลัวสูญรายได้ไปตามประสาคนตระหนี่นิดหน่อย
หญิงสาวเดินไปลากเขามา แล้วหาเสื้อบาริสต้าของลูกน้องคนเก่าชื่อนายโจ ที่มีหุ่นใกล้เคียงปัณณ์ เสื้อกั๊กสีน้ำตาลเข้มที่มีตราสัญลักษณ์ของร้านที่ซักอย่างสะอาดเอี่ยมอ่องเพื่อพนักงานคนใหม่ถูกสวมบนตัวปัณณ์ เพราะหญิงสาวบังคับ มันเข้ากันเหมาะเจาะกับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาสวมอยู่พอดี พอเห็นว่าเขาดูเหมือนพนักงานในร้านคนหนึ่งแล้ว หล่อนก็วิ่งปร๋อเข้าไปอาบน้ำ ไม่สนใจหน้าตาปูเลี่ยนๆ ของปัณณ์เลย เพราะภัคมนพัชต้องทำเวลา เนื่องจากหล่อนเป็นคนที่อาบน้ำนาน คิดอย่างไว้ใจว่านายนั่นคงไม่ทำร้านหล่อนพังหรอกเพราะดูทรงแล้วพอจะไว้ใจได้อยู่...