“พี่ไม่ได้กลัวเสียหน่อยวิกกี้ พี่ก็แค่ไม่ชอบบรรยากาศของที่นั่นก็เท่านั้น” ที่จริงเธอไม่ได้กลัวผีอย่างที่วิคตอเรียพูดเลยสักนิด การที่เธอไม่ยอมไปโรมาเนียก็เพราะเธอฝันเห็นปราสาทแห่งนี้อยู่บ่อยๆ และยังมีเสียงของใครบางคนกำลังเรียกหาเธออยู่ เสียงที่เธอรู้ว่ามันมาจากไหน เสียงของผู้ชายคนหนึ่งมันดังมาจากปราสาทชวนสยองหลังนั้น เสียงของผู้ชายคนนั้นมันดังอยู่ในหัวของเธอมาตลอดหลายปีที่ผ่าน คงเพราะสาเหตุนี้แหละที่เธอไม่ยอมไปโรมาเนียเสียที
คุณวีรดานั่งเงียบ พิจารณาสีหน้าและท่าทางของบุตรสาวคนโต อาการแปลกๆ เมื่อเอ่ยถึงปราสาทเซเวอร์ลัส มันมีอะไรที่เธอไม่รู้หรือเปล่าเกี่ยวกับปราสาทแห่งนั้น
“บอกเถอะว่าพี่แอนนี่กลัวผี”
“ไม่ได้กลัวเสียหน่อย วิกกี้อยากไปโรมาเนียกับพี่ไหม” ถ้าหาตัวช่วยไปโรมาเนียน่าได้คงดีไม่น้อย ไปคนเดียวมันรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างไงไม่รู้ ทางที่ดีพาวิคตอเรียไปด้วยคงอุ่นใจขึ้นหน่อย
“วิกกี้ไปไม่ได้หรอกพี่แอนนี่ ถ้าวิกกี้ไปแล้วใครจะดูแลงานที่บริษัท”
“มีอะไรหรือเปล่าแอนนี่”
คุณวีรดาถามบุตรสาวคนโตอย่างเป็นห่วงหรือมันเกี่ยวกับเรื่องที่จะไปโรมาเนีย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่ แอนนี่ก็แค่ไม่อยากไปก็เท่านั้น ขี้เกียจไปเจอญาติทางฝ่ายคุณปู่นะคะ ที่จริงคุณปู่น่าจะยกมรดกทั้งหมดที่โรมาเนียให้บรรดาลูกๆ หลานๆ ของท่านที่นั่นไป ไม่เห็นต้องยกให้แอนนี่”
“คุณปู่คงมีเหตุผลที่ยกสมบัติให้พี่แหละน่า วิกกี้ว่าพี่แอนนี่คิดมากไปหรือเปล่า นี่ถ้าคุณปู่ยกให้วิกกี้นะ วิกกี้จะรีบไปโรมาเนียทันทีเลย” วิคตอเรียหันไปบอกพี่สาวอย่างอารมณ์ดี การที่คุณปู่ยกมรดกบางส่วนที่โรมาเนียให้พี่สาวของเธอมันย่อมที่ต้องมีเหตุผลแน่นอน บางทีท่านคิดว่าหากยกให้ญาติๆ ทางฝ่ายลูกบุญธรรม คนเหล่านั้นอาจขายปราสาทเซเวอร์ลัสไปก็ได้
“แม่ก็คิดเหมือนวิกกี้นะแอนนี่ คุณปู่ต้องมีเหตุผลแน่ที่ยกปราสาทเซอเวอร์ลัสให้ลูก” คุณวีรดานั่งเงียบ พิจารณาสีหน้าและท่าทางของบุตรสาวคนโต อาการแปลกๆ เมื่อเอ่ยถึงปราสาทเซเวอร์ลัส มันมีอะไรที่เธอไม่รู้หรือเปล่าเกี่ยวกับปราสาทแห่งนั้น
เหอะ!…เหตุผลบ้าบออะไรกัน อเล็กซานเดรียสบถในใจ เธอยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่าเพราะอะไรคุณปู่ถึงได้ยกปราสาทเซเวอร์ลัสให้เธอ แล้วยังไอ้เสียงบ้าๆ นั่นอีกที่ตามรบกวนเธอตลอดเวลา แค่คิดก็หงุดหงิดในหัวใจ สงสัยเธอต้องไปโรมาเนียให้เร็วที่สุด บางทีอาจพบสาเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งหมดก็ได้
“ใช่จ้ะ”
“พี่แอนนี่รีบไปโรมาเนียเถอะค่ะ ไปถึงที่นั่นก็ได้รู้เองแหละว่าคุณปู่คิดยังไงถึงยกมรดกบางส่วนที่โรมาเนียให้”
“มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละวิกกี้”
“งั้นวิกกี้ขอตัวก่อนนะคะคุณแม่ พี่แอนนี่”
“ไปเถอะจ้ะ แม่ก็จะขึ้นห้องแล้วเหมือนกัน” คุณวีรดาเอ่ยบอกบุตรสาวทั้งสอง
อเล็กซานเดรียเงยหน้ามองมารดากับน้องสาวคนเล็กเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าครุ่นคิด เธอรีบไปโรมาเนียตามคำพูดของวิคตอเรีย บางทีสิ่งที่เธอสงสัยและอยากได้คำตอบมันอาจอยู่ที่ปราสาทเซเวอร์ลัสก็ได้ เสียงถอนหายใจดังออกมายาวเหยียดเมื่อนึกถึงความฝันที่เธอฝันติดต่อกันมาหลายปี เสียงของผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมถึงพยายามเรียกหาเธอด้วยชื่อนั้น ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่หรือของเธอเสียหน่อย“หรือเร่งกำหนดการไปโรมาเนียให้เร็วขึ้น” อเล็กซานเดรียบ่นพึมพำกับอยู่ในใจ ก่อนตัดสินใจลุกเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นอีกคน
/////////
22 : 20 นาฬิกา
ประตูห้องน้ำถูกผลักออก ตามด้วยร่างสูงโปร่งในสภาพกึ่งเปลือย มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพันกาย บนต้นคอระหงมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดเอาไว้ สองเท้าก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างเชื่องช้า สายตากวาดไปหากระเป๋าเอกสารที่มารดาให้ไว้เมื่อเช้า เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างในกระเป๋ามันมีอะไรอยู่
หญิงสาวก้าวเดินตรงไปยังโซฟาตัวใหญ่ทันที เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เธอต้องการมันถูกวางอยู่ตรงนั้น มือขวาดึงผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นเช็ดผมลวกๆ เพียงไม่กี่ก้าวเจ้าของร่างสูงโปร่งก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ากระเป๋าเอกสารใบ อเล็กซานเดรียนั่งลงพร้อมขาเรียวยกขึ้นมาวางบนโซฟาเนื้อนิ่ม
“ข้อมูลอะไรกันที่คุณพ่อเก็บเอาไว้ให้เรา”
เสียงหวานบ่นพึมพำอย่างสงสัย สองมือรีบเปิดกระเป๋าเอกสาร สายตามองแฟ้มสีดำที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น มือข้างหนึ่งดึงแฟ้มเอกสารสีดำออกมา อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดมารดาถึงเพิ่งมอบเอกสารเหล่านี้ให้เธอ
อเล็กซานเดรียเปิดแฟ้มเอกสารสีดำทันทีด้วยความอยากรู้ สิ่งแรกที่สายตาของเธอเห็นก็คือประวัติความเป็นมาของปราสาทเซเวอร์ลัส ตั้งแต่ผู้ครอบครองปราสาทแห่งนี้คนแรกจนถึงรุ่นคุณปู่ ยิ่งอ่านข้อความในกระดาษ คิ้วเรียวสวยก็ยิ่งขมวดเข้าหากันอย่างประหลาดใจ
“ทำไมประวัติของปราสาทเซเวอร์ลัสถึงได้เป็นแบบนี้ คนที่ครอบครองเป็นเจ้าของปราสาทคนแรกก็คือ อลูคัส วลาดิเมียร์ แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ไม่ใช่คนในตระกูลของเซเวอร์ลัสเสียหน่อย ปราสาทเซเวอร์ลัสถูกสร้างมาเกือบพันปีแล้วนี่นา ตกลงคุณปู่เป็นเจ้าของปราสาทเซเวอร์ลัสรุ่นที่เท่าไรกันล่ะเนี่ย เฮ้อ...นี่ถ้ามีรูปของคนที่เป็นเจ้าของปราสาทก็น่าจะดีกว่าดี”
อเล็กซานเดรียบอกตนเองอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าใด กับข้อมูลที่มีเพียงเล็กน้อยของปราสาทเซเวอร์ลัส เหนือสิ่งอื่นใดเธออยากรู้มากกว่า เจ้าของเสียงที่เรียกหาเธอมาตลอดหลายปีเป็นใครกัน เธอเองก็ไม่ได้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมากนัก แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่อะไร ในเมื่อเมืองไทยก็มีเรื่องเหนือธรรมชาติเหล่านี้ บางทีประเทศอื่นก็น่าจะมีเหมือนกัน
“ปราสาทน่าสยองแบบนี้น่าจะชวนยัยจันทร์ไปต้องสนุกแน่ๆ”
หญิงสาวนึกไปถึงเพื่อนสนิทที่ชอบเรื่องเหนือธรรมชาติ แจ่มจันทร์ไม่เคยกลัวผีและชอบท้าทายเรื่องเหนือธรรมชาติเสมอ แต่แปลกที่แจ่มจันทร์ไม่เคยเจอผีเลยสักครั้ง ส่วนภัทรวดีนั่นไม่ต้องพูดถึงเพราะเพื่อนคนนี้ของเธอกลัวเรื่องผีเป็นที่สุด อเล็กซานเดรียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อนึกเรื่องสนุกที่เธอจะทำ
‘สนุกแน่คราวนี้’
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...