สิ่งที่นางพูดเมื่อสักครู่ พิณทิราไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน
“พิณ ฉันขอโทษนะ” ไอศูรย์ประคองบุตรสาวให้ยืนขึ้น
“จริงหรือเปล่าคะคุณท่าน ที่คุณพ่อทำให้บริษัทประสบปัญหา”
พิณทิราถามเสียงเศร้า
ไอศูรย์พยักหน้าให้บุตรสาว
“ฉันเชื่อว่าทางโน้นต้องดูแลหนูเป็นอย่างดี”
“พิณเข้าใจค่ะ”
พิณทิรารับปากด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก เธอระลึกถึงคำสั่งสอนของมารดาก่อนตาย อย่างไรก็คิดเสมอว่าต้องทดแทนบุญคุณของไอศูรย์
กานดากับวิธาดาที่แอบมองทั้งสองพูดคุยกันก็ร้อนรุ่มในหัวใจ เมื่อเห็นว่าไอศูรย์นั้นเมตตาปรานีพิณทิราแตกต่างจากเมื่อก่อน นางและบุตรสาวยังเคยสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร
ขณะที่พิณทิราเดินออกมา วิธาดาจึงขัดขาน้องสาวต่างมารดาจนล้มหัวคะมำ
“โอ๊ย!”
“สมน้ำหน้า แกยังกล้าออดอ้อนคุณพ่ออย่างนั้นเหรอ แต่ยังไงแกก็จะถูกส่งไปอยู่เกาะกับคนเถื่อน ไปอยู่กับคนงานเถื่อนๆ บางทีแกอาจจะมีผัวมากกว่าหนึ่งคนก็เป็นได้ พูดแล้วฉันอยากเห็นวันนั้นเร็วๆ”
วิธาดากระชากผมของพิณทิราให้แหงนหน้าขึ้นมา ก่อนตบฉาดใหญ่อย่างหมั่นไส้แกมรังเกียจ
“โอ๊ย!!!”
พิณทิรากุมใบหน้าที่โดนตบ มองสองแม่ลูกอย่างสะท้อนใจ
“แกอย่าคิดว่าไปอยู่ที่โน้นจะสบาย ฉันจะบอกอะไรแกให้เอาบุญน่ะนังพิณ เขาไม่ได้จัดงานแต่งงานยกย่องเชิดชูแกหรอก แต่เขาเอาแกไปอยู่เฉยๆ เรียกว่าเอาไปเป็นนางบำเรอน่าจะถูก”
กานดาหัวเราะสะใจพร้อมบุตรสาว
พิณทิราสะเทือนใจจนพูดอะไรไม่ออก มองตามสองแม่ลูกที่เดินจากไปหลังจากทำร้ายเธออย่างหนำใจ พาร่างสะบักสะบอมกลับไปยังห้องของตัวเอง
“แม่จ๋า... หนูต้องจาก ไตรสุรเดชไปจริงๆ แล้วนะคะ แม่ช่วยปกป้องคุ้มครองคุณท่านด้วยนะคะ หนูจะแต่งงานแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะเข้มแข็ง จะอดทน จะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค หนูจะไม่อ่อนแออย่างที่แม่สอน”
พิณทิรากอดรูปถ่ายของมารดาแนบอกเรียกกำลังใจให้ตัวเองเข้มแข็งอีกครา
“แม่จ๋าหนูรักแม่นะคะ”
พิณทิราลูบมือบนรูปถ่ายของมารดาด้วยความรักสุดหัวใจแล้วกอดแนบอกอีกครั้งอย่างคะนึงหา
เสียงเคาะประตูหนักๆ หน้าห้องทำให้พิณทิราต้องละจากรูปมารดา เมื่อเปิดประตูออกมาเห็นนวลยืสอยู่หน้าห้อง
“คุณกานดาสั่งให้ไปซื้อของหน่อย เดินไปนะ ไม่มีใครว่างขับรถไปให้” นวลยัดกระดาษใส่มือพิณทิราก่อนสะบัดหน้าเดินจากไป
พิณทิราจำต้องออกไปซื้อของด้านนอกตามรายการ เธอรู้ว่าสองแม่ลูกจงใจแกล้งเพราะของแต่ละอย่างอยู่กันคนละที่ แถมยังไกลมาก ก่อนไปหญิงสาวได้บอกอุ่นเรือนเอาไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นห่วง
เพียงแค่ปิดประตูบ้าน พิณทิราก็ได้ยินเสียงเรียกคุ้นเคยเรียกอยู่ใกล้ๆ
“คุณพ่อ” พิณทิราเรียกอดิศรด้วยความดีใจ
“พิณมีเงินให้พ่อหน่อยไหมลูก”
อดิศรเดินเข้าหาเด็กสาวที่เขาจำต้องอ้างเป็นบิดาอยู่ยี่สิบกว่าปี แต่ลึกๆ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเอ็นดูพิณทิราอยู่บ้าง ที่สำคัญเด็กคนนี้ก็เป็นลูกสาวของพี่ชายเขาเอง
“พิณมีเงินอยู่นิดหน่อยค่ะ”
พิณทิรามองบิดาอย่างสงสาร ยิ่งเห็นสภาพของอดิศร ยิ่งพูดไม่ออก
“เอามาให้พ่อหน่อย นี่เจ้าหนี้ตามหาพ่อจนพลิกแผ่นดินแล้ว”
อดิศรแบมือขอเงินทันที
“พ่อรอเดี๋ยวนะคะ หนูต้องเข้าไปเอาเงินในบ้าน แล้วพ่อกินอะไรหรือยัง”
“ยังเลย แต่ไม่เป็นไร เอาเงินมาให้พ่อ เดี๋ยวพ่อค่อยซื้อกินเอาเอง”
“ค่ะๆๆ”
พิณทิรารีบเข้าบ้านไปอีกครั้ง หญิงสาวมองกระปุกออมสินของตัวเองอย่างเศร้าๆ ก่อนจะตัดสินใจทุบกระปุกอันนั้นเสีย
“พิณมีเงินแค่นี้นะคะพ่อ พ่อเลิกเล่นการพนันได้ไหมคะ”
“พ่อกำลังจะเลิก กะว่าจะถอนทุนคืนสักหน่อย แต่ก็พลาด”
อดิศรพูดอย่างหงุดหงิด
“นี่เสื้อผ้าของพ่อนะคะ หนูซักรีดให้แล้ว”
พิณทิรายื่นถุงใส่เสื้อผ้าให้บิดา
“ขอบใจนะ แล้วนี่จะไปไหนล่ะ”
“คุณกานดาให้หนูไปซื้อของค่ะ”
“งั้นก็ไปเถอะ ขอบใจนะ พ่อต้องไปแล้ว”
“เดี๋ยวค่ะพ่อ”
“มีอะไร” อดิศรมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง
“หนูรักพ่อนะคะ”
อดิศรอึ้งไป ก่อนสวมกอดร่างของบุตรสาวไว้แน่น
“พ่อก็รักหนูนะ ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ อย่าให้ใครมารังแกฝ่ายเดียว หัดหลบหลีกเสียบ้าง”
“ต่อไปหนูคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วค่ะพ่อ”
“หนูจะไปไหน”
“หนูต้องไปแต่งงานใช้หนี้ค่ะ คุณท่านไปยืมเงินเพื่อนมา เพราะเอ่อ... เรื่องที่คุณพ่อไปยักยอกเงินบริษัท”
“ยักยอกอะไร พ่อแค่ขอส่วนแบ่งนิดๆ หน่อยๆ”
อดิศรฮึดฮัดไม่สบอารมณ์
“แต่พ่อต้องไปแล้วนะ”
“ทำไมพ่อไม่กลับมาอยู่บ้านล่ะคะ”
“พี่ไอศูรย์โกรธพ่ออยู่ จะกลับมายังไงล่ะ นี่ๆ ไปได้แล้วเค้าใช้ให้ไปซื้อของไม่ใช่เหรอ”
อดิศรรีบไล่อีกฝ่าย และเดินหนีไปอีกด้าน พิณทิรามองตามหลังบิดาไปจนสุดทาง
“แม่ขา... คุ้มครองพ่อด้วยนะคะ”
หลายวันต่อมา...
“คุณแม่จะทำอะไรคะ”
วิธาดาถามมารดาเมื่อเห็นว่าท่านให้นวลไปเรียกพิณทิรามาพบ
“แม่น่ะแค้นใจนัก ก่อนไปเราน่าจะเลี้ยงส่งอำลามันสักนิด”
กานดาพูดอย่างมาดร้าย แต่เหตุผลที่แท้จริงคือเธอแอบไปเข้าบ่อนมาจนเป็นหนี้การพนัน และยังไม่มีเงินไปใช้หนี้เสี่ยไพศาลเจ้าของบ่อนนั่นเอง
“นี่คุณแม่ญาติดีกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมต้องเลี้ยงส่งมันด้วย”
บุตรสาวพูดอย่างหงุดหงิดใจ
“ยื่นหูมาสิลูกวิ แม่จะบอกอะไรให้ฟัง”
วิธาดายื่นหูไปให้มารดา ก่อนจะตาโต
“จะดีหรือคะคุณแม่ ไหนๆ มันต้องไปเป็นเมียไอ้ผู้ชายเถื่อนอยู่บนเกาะแล้ว ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลย”
วิธาดาถามมารดาอย่างไม่แน่ใจ ครั้งก่อนเธอไม่เห็นด้วยกับมารดา เรื่องที่ให้พวกนักเลงไปฉุดพิณทิรา แต่เพราะได้ฟังคำพูดของมารดามากๆ เข้าเธอก็เลยคล้อยตาม
... แม้เธอจะหมั่นไส้พิณทิราเพราะอิจฉาริษยา แต่เป็นการกระทำที่อยู่ในบ้าน และไม่ได้ทำร้ายให้ย่อยยับถึงเพียงนั้น
“แหม.. ไหนๆ มันก็ต้องไปอยู่เกาะ ไอ้พวกชาวเกาะพวกนั้นได้มันไปเป็นเมียก็ดีใจจนเนื้อเต้น คงไม่คิดถึงเรื่องความบริสุทธิ์หรอกลูก”
กานดาบอกลูกสาวอย่างร้ายกาจ
“นั่นไงมันมาโน้นแล้ว อย่าใจอ่อนเชียวนะลูก”
วิธาดาพยักหน้ารับ ได้ยินมารดาพูดแบบนี้มาตลอด เธอกับพิณทิราเป็นเพื่อนเล่นกันตอนสมัยเด็ก แต่มาผิดใจกันตอนที่ไปโรงเรียน เพื่อนๆ ที่โรงเรียนต่างรักและอยากเป็นเพื่อนกับพิณทิรามากกว่าเธอ ทำให้เธอเริ่มเกลียดชังพิณทิรามาเรื่อยๆ ยิ่งมารดาพูดกรอกหูทุกวัน เธอยิ่งสั่งสมความเกลียดขึ้นเป็นทบทวีคูณ
“คุณท่านมีอะไรเหรอคะ”
“ฉันมีเรื่องให้แกไปทำหน่อย”
กานดาจิกเรียกด้วยสายตาเกลียดชัง
“อะไรเหรอคะ”
“นี่เอกสารสำคัญ ฉันจะให้แกเอาซองนี่ไปให้เสี่ยไพศาลหน่อย นี่แผนที่ไปบ้านของเขา แกเรียนจบสูงคงไปถูกนะ”
พิณทิรายื่นมือไปรับเอกสารในซองกับแผนที่เดินทางมาถือไว้
“รีบไปสิ อย่าชักช้า รีบกลับมาเร็วๆ ด้วย แกต้องกลับมาทำงานบ้านอีกไม่ใช่เหรอ”
กานดาหันไปสบตากับบุตรสาวอย่างร้ายกาจเมื่อพิณทิรารีบเดินออกไปทำธุระนอกบ้านให้นาง กานดาหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กออกมาแล้วต่อสายถึงเสี่ยไพศาลทันที
“เรียบร้อยแล้วค่ะเสี่ย รอเชือดเนื้อหวานๆ ได้เลย”
“ขอบใจมากคุณกานดา ผมจะตอบแทนคุณอย่างงาม”
“แหม... เพื่อเสี่ย กานดายินดีรับใช้ค่ะ อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะคะ”
กานดารีบทวงถามเรื่องหนี้สินที่บ่อนและเงินอีกจำนวนหนึ่งทันที
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ผิดคำพูดหรอกน่า”
ไพศาลกดวางสายด้วยใบหน้ามาดร้าย เขาพึงพอใจพิณทิรามานาน ไม่คิดว่าคราวนี้จะสมหวัง
พิณทิรารีบออกจากบ้านเพื่อนำเอกสารสำคัญที่กานดาฝากไปส่งให้เสี่ยไพศาลทันที โดยมีสายตาคมของใครคนหนึ่งแอบมองอยู่นานแล้ว