“คอนโด บลูลากูนสามย่านค่ะคุณคมเพชร คุณพลอยเดินลงมาส่งคุณพระจันทร์แล้วคุณพระจันทร์ก็ออกมาคนเดียว ฉันไปสอบถามมาแล้วว่าคุณพลอยพักที่ห้องหนึ่งสองสองหก คุณจะมารับคุณพลอยไหมคะ...”
คมเพชรได้รับรายงานเรื่องจันทร์เจ้าขาจากหญิงสาวที่ซุ่มอยู่ที่สวนของคอนโดมิเนียมซึ่งติดตามจันทร์เจ้าขามาแต่แรกโดยที่หล่อนไม่รู้... เจ้าตัวไม่ทันเอะใจแน่ๆ ว่าผู้หญิงสาวที่สวมแบรนด์เนมหัวจรดเท้าและใส่ส้นสูงหลายนิ้วจะเป็นคนที่ติดตามหล่อน ไม่ใช่ผู้ชายแต่งกายมิดชิดอย่างที่หล่อนหวาดระแวงหล่อนจึงถูกตามไม่รู้ตัว เพราะคมเพชรรู้ว่าหล่อนฉลาดเลยหาทางที่ฉลาดกว่าเพื่อจัดการหล่อน หากไม่พลิกแผนหล่อนคงจับได้ การที่เขารู้จักหล่อนดีทำให้เขาเป็นต่อหล่อนอยู่มาก...
ได้รับรายงานแล้วคมเพชรก็เคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างใช้ความคิด
“ไม่ต้อง สลับกันเฝ้ายายพลอยเอาไว้ ถ้าเกิดมีการเคลื่อนไหวหรือว่าย้ายที่อยู่ให้ติดตามไปอย่าให้คลาดสายตา... อย่าลืมเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย... รอฟังคำสั่งจากฉันเอาไว้ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงฉันจะสั่งอีกทีหนึ่ง...”
“รับทราบค่ะ”
คมเพชรวางโทรศัพท์ลง ในสมองคิดหาทางจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น... เขาจะไม่ใช้กำลังกระชากยื้อแย่งสิ่งของที่เขาต้องการ แต่ว่าเขาจะใช้วิธีของเขาเพื่อให้คนหาของที่เขาต้องการมาคืนให้อย่างแยบยล...
“ผมปล่อยคุณไปครั้งหนึ่งแล้ว คุณคงไม่สำนึก... ครั้งนี้ผมจะขยี้คุณให้ตายคามือแน่พระจันทร์” เสียงพึมพำในลำคอพร้อมรอยยิ้มเย็นบนใบหน้า... นึกถึงเจ้าหญิงน้ำแข็งที่มีแต่ความเย็นชาและใบหน้าสวยๆ ที่เชิดตลอดเวลายามเมื่อเห็นหน้าเขา หล่อนน่าจะรู้จักเขาดีว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ แต่หล่อนก็กล้าต่อต้านเขา กล้าหักหลัง กล้าโกหกให้เขาโกรธแค้นมาตลอด มันไม่ได้ง่ายที่จะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป...
อาทิตยะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วหลังจากที่แอดมิทไปสองวัน อาหารเจ็บแน่นบริเวณที่ถูกกระหน่ำต่อยทุเลาลง ตอนแรกแพทย์สงสัยว่าอาจมีเลือดคั่งแต่เมื่อตรวจละเอียดแล้วไม่มีความเสียหายภายในอย่างที่นึกกลัว แผลที่ริมฝีปากถูกเย็บโดยแพทย์ศัลกรรมพลาสติกฝีมือดีของโรงพยาบาล อาการโดยรวมของเขาดีขึ้นจึงกลับบ้านได้... รัศมีดาราวุ่นวายกับการถ่ายละครที่หล่อนเพิ่งชิมลางเป็นนางเอกเรื่องแรก จึงไม่ได้เข้ามาดูแลพี่ชายนัก คนที่มารับพี่ชายจึงเป็นจันทร์เจ้าขา...
มันเป็นการดีที่น้องสาวคนเล็กไม่ได้มาด้วยเพราะว่าจันทร์เจ้าขาได้จัดการวางแผนให้พี่ชายกับวาวพลอยหนีไปอยู่ที่อื่นสักพักเพื่อให้เลยกำหนดแต่งงานไปก่อนแล้วค่อยกลับมาเจรจากับคมเพชรทีหลัง... เรื่องนี้จันทร์เจ้าขาคุยกับวาวพลอยตั้งแต่วันแรกที่ไปหาวาวพลอยแล้วว่าต้องการหลบไปสักพักก่อนโดยที่ยังไม่บอกใครให้รู้ ดังนั้นจันทร์เจ้าขาจึงไม่บอกรัศมีดาราเพราะฝ่ายนั้นคงทนปากแข็งไม่ได้หากคมเพชรมาบีบบังคับถาม...
การตัดสินใจช่วยเหลือให้คนสองคนที่รักกันได้อยู่ด้วยกันอย่างลับๆ และทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถือว่าเป็นการก้าวเข้าไปอยู่ข้างอาทิตยะกับวาวพลอยแบบสุดตัว ซึ่งจันทร์เจ้าขาเต็มใจที่จะทำอย่างนั้นเพราะทั้งสองคือคนที่หล่อนรักและยอมทุ่มเทให้ได้ แม้รู้ว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ตาม...
จันทร์เจ้าขาขับรถเอสยูวีของเพื่อนที่ทำโฆษณาที่บริษัทสกายมารับพี่ชายออกจากโรงพยาบาลแล้วก็วนออกไปรับวาวพลอยที่คอนโดมิเนียม... แล้วไปส่งทั้งคู่ที่ท่ารถทัวร์ของสถานีขนส่งสายใต้เพื่อเดินทางไปพักที่รีสอร์ทของเพื่อนอาทิตยะที่เกาะเต่า จันทร์เจ้าขาเสนอให้ทั้งคู่นั่งรถทัวร์เพราะกลัวว่าโดยสารเครื่องบินแล้วจะถูกเช็คได้ว่ามีการเดินทาง...
“พระจันทร์เช็คแล้วว่ารถของบริษัทนี้ที่นั่งสะดวกและก็บริการดี... จองที่นั่งวีไอพีให้ทั้งสองคนเลย แต่ถึงแม้ว่าจะแจกอาหารและมีห้องน้ำในรถให้แต่รถก็จะจอดให้ลงไปทานอาหารและเข้าห้องน้ำที่ศูนย์อาหาร ลำบากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่นักหรอกนะพลอย” จันทร์เจ้าขอบอกเพื่อนขณะนั่งรอขึ้นรถทัวร์ที่ชานชาลาที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน... เชื่อเต็มอกว่าวาวพลอยไม่เคยนั่งรถแบบนี้แน่
“แค่นี้ก็ดีแล้ว... เราไปได้... แค่พี่รพีไม่หนีจากเรากลางทางก็พอ” วาวพลอยยิ้มประจบอาทิตยะ ฝ่ายชายได้แต่ยิ้มๆ ไม่ตอบไม่พูดอะไร...
จันทร์เจ้าขาได้รู้เรื่องจากวาวพลอยว่าตอนที่วาวพลอยชอบพี่ชายหล่อนตอนแรกนั้นวาวพลอยเป็นคนเข้าหาอาทิตยะก่อน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจด้วยความที่อาทิตยะเป็นคนที่เคร่งขรึม โลกส่วนตัวสูง หากไม่ใช่น้องๆ ที่สนิทกันไม่ว่าจะชวนเขาคุยอะไรก็ตามจะได้คำตอบไม่เกินสามคำ ยิ่งวาวพลอยมีคู่หมายแล้วเขายิ่งทำตัวห่างหล่อนมาก แต่วาวพลอยก็พยายามสนิทสนมกับเขาและจีบเขาก่อนจนอาทิตยะเองเชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายมีใจให้จริงๆ และก็เผลอใจคบหากับวาวพลอยเงียบๆ
วาวพลอยออกตัวเองเขินๆ ด้วยซ้ำว่าหล่อนล่อลวงอาทิตยะมาคบหาจนหล่อนตั้งท้องอาทิตยะถึงได้จริงจังกับการคบหามากขึ้นและยอมพาหล่อนหนีการแต่งงานและรับผิดชอบหล่อนหลังจากที่ผ่านมาปากแข็งไม่ยอมบอกว่ารักมาตลอด ก่อนที่คมเพชรจะแจกการ์ดอาทิตะเคยเข้าไปพบคมเพชรแล้วเพื่อขอวาวพลอยแต่งงานและบอกว่ารักกันกับวาวพลอยแต่คมเพชรไม่ยอมยกน้องสาวให้และยิ่งจัดการให้วาวพลอยอยู่ห่างๆ และไม่มีโอกาสมาพบอาทิตยะ จนวาวพลอยต้องหนีไปกับอาทิตยะเพราะเป็นทางออกเดียวที่เหลือนั่นเองทำให้คมเพชรมั่นใจมากที่มาตามหาวาวพลอยที่บ้านของอาทิตยะ... ซึ่งตอนนี่เขาก็ยังไม่ได้วาวพลอยคืนไป และคงเริ่มทำใจได้บ้างแล้วว่าคงบีบบังคับน้องสาวไม่ได้อีกต่อไป
ได้ฟังเรื่องความรักของทั้งคู่แล้วจันทร์เจ้าขาแทบไม่อยากเชื่อหู แต่ก็คิดว่าน่าจะจริงเพราะพี่ชายหล่อนขรึมๆ ไม่ยอมง้างปากพูดอะไรออกมาง่ายๆ ไม่แสดงออกอะไรเลยสักนิดแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่าพี่ชายหล่อนคงรักวาวพลอยไม่น้อยเพียงแต่เขาคงเป็นคนที่พูดยากและมักเป็นคนที่แสดงออกเงียบๆ แต่การกระทำของพี่ชายครั้งนี้ก็เป็นคำตอบแล้วว่าเขาเลือกวาวพลอย เพราะตอนที่วาวพลอยอ้อนเขาว่าอย่าให้เขาทิ้งหล่อนกลางทางอาทิตยะเองไม่ให้คำสัญญิงสัญญาหวานๆ ใดปลอบปละโลมคนรัก แต่มือหนาที่ยกมาจับมือวาวพลอยกระชับบอกแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี เห็นแบบนั้นแล้วคนที่โสดก็อดอบอุ่นปลื้มปริ่มแทนไม่ได้... แล้วอย่างนี้หล่อนจะวางเฉยไม่ช่วยได้ยังไง
“มีประชุมหรือว่าเรื่องงานก็คุยกันทางเมลหรือเบอร์ใหม่ของพี่นะ” อาทิตยะไม่ลืมบอกน้องสาว...
แม้ว่าจะเป็นบอสใหญ่ของบริษัทสกายแต่ก็ทำงานได้ทุกที่ที่มีการออนไลน์ถึง แต่ที่ทำออฟฟิศไว้ก็เพื่อรวมตัวกันให้เป็นกิจจะลักษณะและก็เพื่อติดต่อลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ แต่คนที่ทำงานจริงๆ กลับชอบทำงานนอกสถานที่หรือไม่ก็หมกตัวนอนคิดงานครีเอทอยู่ในห้องนอนรกๆ ของตัวเองมากกว่า ความยืดหยุ่นนี้จึงไม่ทำให้เกิดเรื่องเสียหายหากว่าไม่อยู่บริษัท เพราะว่ามีคนที่ดูแลติดต่อลูกค้าและเฝ้าออฟฟิศประจำสามารถจัดการงานที่อยู่กับที่ ส่วนคนทำงานก็แยกย้ายกันไปแล้วมารวมกันอีกทีวันนำเสนองานซึ่งแทบเป็นธรรมเนียมไปแล้ว... การย้ายที่ทางสักพักของอาทิตยะจึงไม่เป็นอุปสรรคเท่าใดนัก...
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แล้วค่อยติดต่อกันนะคะ... เขาประกาศเรียกขึ้นรถแล้ว รีบไปเถอะค่ะ” จันทร์เจ้าขาบอก หล่อนสวมกอดพี่ชายและเพื่อนสาวก่อนจะอวยพรให้เดินทางปลอดภัย ขอให้ทั้งคู่ดูแลตัวเองดีๆ ไม่มีคำล่ำลาใดๆ เพราะจันทร์เจ้าขาคิดว่าอย่างไรเสียก็ต้องไปพบกันใหม่เร็วๆ นี้...