5

3046 Words
“คุณธรณ์คะ” สายป่าน ผู้จัดการแผนกต้อนรับของรีสอร์ตเรียกเสียงหวาน วิ่งตามหลังชายหนุ่มมา ขณะออกจากห้องสำหรับคุยกับพนักงานในช่วงสายของวันรุ่งขึ้น ธรณ์ชะลอความเร็วลง กระนั้นก็ไม่ได้หยุดเดิน ถามโดยไม่มองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ “มีอะไรหรือป่าน”           “คือ... รายการซ่อมที่ช่างบอกคุณธรณ์ไป คุณธรณ์อนุญาตให้ซื้อวัสดุได้เลยไหมคะ”           คราวนี้ธรณ์ต้องหยุดเดิน แล้วหันมาถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมไม่น้อย “ได้ครับ แต่ส่งราคาเทียบหลาย ๆ เจ้าให้ผมดูก่อนนะ แล้วก็ช่างซ่อม ผมขอทีมใหม่ ไม่เอาช่างหน้าเก่าแล้ว”           “แต่ป่านว่า...”           “หรือเมื่อก่อนก็ทำแบบนี้ทุกครั้ง จนมันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ขาดทุนยับ ถ้าใช่ ผมก็คงต้องบอกตามตรงเลยว่าน่าจะเปลี่ยนพนักงานใหม่ทั้งหมด จะได้ไม่เหลือพนักงานที่แอบกินนอกกินในอีก เด็กฝาก เด็กเก่า ญาติใคร ผมก็จะไม่สน ไม่แคร์ คุณป่านว่าดีไหมครับแบบนี้”           สายป่านหน้าเสีย ยิ้มแหย ๆ แล้วเงียบไป ลอบถอนลมหายใจเบา ๆ เพราะที่ชายหนุ่มย้อนถามกลับมา นอกจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว เธอและลูกน้องเก่ายังเป็นคนลงมือทำอย่างที่เขาว่ามาอีกด้วย โกงเงินนิด ๆ หน่อย ๆ จนเจ้าของเดิมขาดทุนยับจริง ๆ              สายป่านใช่คนไร้หัวนอนปลายเท้าเสียที่ไหน สายป่านเป็นน้องสาวคนละแม่กับเจ้าของเดิม เมื่อก่อนเธอมีหุ้นอยู่ที่นี่ แล้วเลยออกปากขอรับหน้าที่ผู้จัดการแผนกต้อนรับเอง สุดท้ายเมื่อมันขาดทุนยับจึงขายพร้อมกับหุ้นของพี่ชายต่างมารดาให้ธรณ์ไปจนหมด           แต่เมื่อรีสอร์ตแห่งนี้เปลี่ยนมือ และยังคงใช้พนักงานชุดเดิมอยู่ เธอจึงได้ทำงานที่นี่ต่อ           วันแรกที่พบธรณ์ สายป่านก็ตกหลุมรักเขาในทันที ท่วงท่าของเขาดูสุภาพจริงใจ ดูเป็นกันเอง แต่พอได้คุยกันแล้ว เธอก็รู้ว่าธรณ์ เพียงแค่ทำตัวให้เป็นคนยิ้มง่ายเท่านั้น แต่แท้ที่จริงเขาถือตัวอยู่ไม่น้อย ไม่คุยเล่นโต้ตอบอย่างที่สายป่านคิดไว้ในคราวแรก           และหญิงสาวก็อยากลิ้มรสความเป็นกันเองของธรณ์บ้าง เหมือนอย่างแม่สาว ๆ พวกนั้นที่เข้าพักห้องใกล้กับเขา มันคงดีไม่น้อยที่ธรณ์ให้ความสนิทสนมด้วย           สายป่านถามเรื่องงานเพื่อรั้งเขาไว้ อยากคุยกับเขาต่ออีกนิด “แล้วทัวร์ของคุณไตรภพล่ะคะ”            ธรณ์พยักหน้าเบา ๆ บอกเสียงเป็นการเป็นงานว่า “ผมฝากป่านดูแลด้วยก็แล้วกัน”           เขาจากไปแล้ว และไม่เคยพูดจาเล่นหัวอะไรกับพนักงานในนี้เลยสักคน สายป่านได้แต่ยืนมองอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ค่อยหันหลังกลับไปจัดแจงงานของตัวเอง   เช้าวันนี้อาการของพรรณวษาค่อยดีขึ้น แต่ไอลดากลับมีอาการคลื่นเ**ยนอาเจียนแทนที่เธอ “สงสัยเมื่อคืนลองเมนูของพี่ธรณ์จานนั้นแน่ ๆ เลย” ไอลดาบ่นถึงเรื่องที่นั่งกินอะไรกันตรงระเบียงจนดึก ธรณ์หายไปยังห้องครัวกลับมาพร้อมหมึกที่คนงานได้มาสด ๆ จากทะเล แล่เป็นชิ้น จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดและวาซาบิส่งให้ แล้วไอลดาก็บ้าจี้กินกับเขาไปด้วย “ท้องเสียไหมด้า” พรรณวษาบ่น พอนึกออกว่าเป็นจานไหน เพราะเธอยังจำหนวดหมึกที่ม้วนพันนิ้วธรณ์ตอนหยิบขึ้นมาโชว์ได้อยู่เลย “ไม่เสียหรอก เคยแพ้อาหารคราวก่อนก็ไม่ท้องเสียนะพรรณ มีแค่อาเจียนอย่างเดียว” “พรรณว่าเรากลับกันวันนี้ดีไหม จะได้ไปหาหมอด้วย”           ไอลดาที่ยังอยู่ในห้องน้ำ เปิดน้ำล้างหน้าจนเรียบร้อย ค่อยหันมายิ้มสดใสให้ บอกอย่างฝืน ๆ ว่า “ไม่เป็นอะไรมากหรอกน่า นี่ก็ดีขึ้นแล้ว อยู่อีกวันเหอะนะพรรณ นะ นะ”           พรรณวษาร้องรับในคอสั้น ๆ พยางค์เดียว ก่อนจะพากันออกไปกินมื้อเช้าตอนเกือบ ๆ จะสิบโมง กินข้าวแล้วก็นั่งตากลมที่บาร์ต่อ กลางวันแบบนี้ไม่มีแขกคนไหนออกมานั่งเลยแม้แต่คนเดียว ธรณ์แวะมาหาคุยด้วยตอนพวกเธอนั่งรับประทานอาหาร เขาบอกว่ามีประชุมกับพนักงาน อาจไม่ได้อยู่ดูแลในช่วงเช้า ไม่มีใครรั้งเขาอยู่แล้ว พรรณวษาโล่งใจไม่น้อย ที่ไม่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับธรณ์ให้นานไปกว่านั้น           ไอลดาไถหน้าจอไปมาแล้วค่อยวางลง เมื่อแอบเข้าไปส่องดูไอจีของธรณ์ ภาพวิวสวย ๆ พร้อมแฮชแท็ก #Iamalreadytorn บาดใจเธอเหลือเกิน           “พี่ธรณ์ยังลืมด้าไม่ได้เลย ไม่อยากเชื่อเลยเนอะพรรณ”           ได้ยินเพื่อนรำพึงรำพันออกมาแบบนั้น ก็ถอนลมหายใจเบา ๆ ถามตรง ๆ “ลืมไม่ได้แล้วยังไง ด้าจะเลิกกับคุณเอสแล้วกลับไปหาเขาอย่างนั้นหรือ”           ไอลดาลดโทรศัพท์ลง มองเพื่อนอย่างเคือง ๆ บางทีพรรณวษาก็ชอบพูดตรง ๆ แบบนี้เสมอ แต่ไอลดาไม่เคยมองว่าไม่ดี เพราะที่พูดมานั้นจี้ใจดำเธอนัก           “ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก” คนที่พัวพันกับรักสองสามคน บอกแบ่งรับแบ่งสู้           “พรรณไม่ห้ามด้านะ เรื่องแบบนี้ห้ามกันไม่ได้ พรรณรู้ ที่พรรณจะทำก็แค่อยากเตือนสติด้า ว่ามันเหมาะสมไหม แล้วแฟนเก่าด้า เขาจะไม่มีใครไปแล้วหรือป่านนี้ ไม่ใช่ว่าทำตัวอกหัก คอยรักจากด้า แต่ที่จริงก็ฟาดผู้หญิงไปทั่ว”           “หูย แรงอะพรรณ” ไอลดาบ่นหน้าม่อยลงเลยคราวนี้ แววตามั่นอกมั่นใจหายวับไปด้วย           “เท่านี้ไม่แรงหรอกด้า พรรณพูดในอีกมุมให้ด้าคิดตามเท่านั้น บอกแล้วไงว่าพรรณจะไม่ห้ามเรื่องส่วนตัวของด้า แค่อยากให้ด้าคิดดูให้ดี ๆ ก่อน”           “พูดขนาดนี้ ไม่ห้ามเลยหรือคะคุณแม่ขา” ไอลดาแกล้งเย้ากลับ           สองสาวเต็มอิ่มกับบรรยากาศแล้ว ค่อยพากันเข้าห้องเพื่อพักผ่อน ไอลดาหลับยาวตั้งแต่บ่าย พรรณวษาเปิดประตูรับธรณ์สองรอบแล้ว แต่ไอลดาก็ยังไม่ตื่น จนเย็นนู่นเลยกว่าไอลดาจะลืมตาขึ้นได้           “สบายดีแน่นะ” ร้องทักเพื่อนเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงห่วง ๆ เมื่อเห็นว่าไอลดาขยับตัว ลืมตาขึ้นแล้ว           “แค่ง่วง ๆ น่ะพรรณ สงสัยกินเยอะเกินไป แล้วนี่พี่ธรณ์เลิกประชุมหรือยังไม่รู้เนอะ”           “เดินมาตามตั้งสองรอบแล้ว แต่ด้าหลับลึกมาก เสียงเขาถามที ดังคับห้องจะตาย ดีแล้วที่ด้าไม่สะดุ้งตื่น” พรรณวษาบ่นอย่างไม่พอใจเท่าไรนักกับความไร้มารยาทของธรณ์           “จริงหรือ งั้นเราออกไปเดินเล่นกัน ไม่ต้องรอพี่ธรณ์มาตามหรอก”           พรรณวษาคล้อยตามแล้วพากันออกไปที่หาด ที่ตอนนี้มีคนบางตาลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ไอลดามองนิ่งที่ทะเลเบื้องหน้า พบว่าวันนี้คลื่นสูงกว่าทุกวัน แล้วก้าวเท้าไว ๆ ไปยืนป้องปากตะโกนเรียกตรงด้านหน้า           “วู้ว พี่ธรณ์คะ”           เลยมองตามสายตาของเพื่อนไปยังทะเล พบธรณ์กำลังเล่นเซิร์ฟบอร์ดโชว์อยู่ เขาไม่ได้สวมเสื้อ มีแต่กางเกงสีดำตัวเดียว เลยได้เห็นแผงอกที่ทั้งขาว ทั้งแน่น เด่นหราดึงสายตาของใครต่อใคร           พรรณวษาเลิกสนใจมอง แล้วเลือกที่นั่งใกล้ ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นกดดูอะไรในนั้น จึงไม่เห็นว่าธรณ์หยุดเล่นและเดินขึ้นมาถึงตรงที่พวกเธออยู่กันแล้ว ไอลดายิ้มร่า ยืนรอจนอีกฝ่ายเดินเข้ามาสมทบก็ว่ายิ้ม ๆ           “กล้ามแน่นกว่าเดิมอีกนะคะเนี่ย ไม่รู้จะอ่อยกันไปถึงไหน เดี๋ยวกลับไปนี่นะ ด้าจะหย่ากับสามีเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”           พรรณวษาอดไม่ไหว ต้องเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมองคนทั้งคู่ ถึงได้เห็นสายตาของธรณ์หมองหม่นลง พร้อมเสียงเอ่ยแบบซึม ๆ           “ด้าพูดอะไรไม่นึกถึงใจพี่เลย” ธรณ์บ่นจบ โยนบอร์ดเก็บเข้าที่ของมัน ไอลดายิ้มค้าง ถามพร้อมออกอาการงงงันเล็กน้อย           “อ้าว ด้าพูดอะไรผิดหรือคะ”           “เราพูดเล่น แต่ถ้าพี่เอาจริงขึ้นมา จะทำยังไง”           “ด้าก็เลิกจริง”           “พี่จะไม่โดนสามีด้า ยิงแสกหัวใช่ไหม”           “ใครควรจะกลัวใครกันแน่ แชมป์ยิงปืนน่ะ ไม่ใช่ยืนอยู่ตรงหน้าด้านี่หรอกหรือยังไงคะ”           “อวยเก่งน่ะเรา”           พรรณวษาส่ายหน้าเบา ๆ เอือมและเอียน เลิกสนใจชายหญิงตรงหน้า ตามองแต่จอโทรศัพท์อย่างเดิม หยอดกันไปมาแบบนี้ ประเดี๋ยวก็ได้เรื่องจนได้ แล้วถึงได้ยินเสียงเรียกของคนที่ตามหลังมาจากทะเล          “สวัสดีครับด้า” ธรณ์พยักหน้าให้เพื่อนที่แวะมาเล่นเซิร์ฟด้วยกัน ทั้งสามพอคุ้นเคยกันมาก่อน เพราะเมื่อเห็นไอลดาอยู่ที่นั่นด้วย อีกฝ่ายก็มองธรณ์ด้วยสายตาอย่างที่รู้อะไร ๆ กันเป็นอย่างดี “สวัสดีค่ะพี่แจ็ค” ไอลดาทักเพื่อนสนิทของธรณ์ด้วยรอยยิ้มสดใสน่ารัก           “นี่ใช่ถ่านไฟเก่ายังร้อน รอวันรื้อฟื้นหรือเปล่าครับ ว่ายังไงคุณธรณ์ อย่างนี้ก็ไม่ ‘ออลเลดี้’ ทอน แล้วดิวะ” แจ็คถามยิ้ม ๆ ธรณ์รีบแก้ต่างให้หญิงสาวอดีตคนรัก “ใช่ที่ไหน ด้าเขาแวะมาเที่ยวกับเพื่อนเขา” “อ้อ อย่างนั้นหรอกหรือ แล้วข่าวที่เขาลือกันก็คงไม่จริง เอ๊ะ! หรือว่าจริง” ธรณ์รู้ว่าเพื่อนปากมากกำลังจะพล่ามเรื่องอะไร ข่าวของไอลดากับหัสดินทร์ลือกันหนาหูมาก เขาเองก็ยังได้ยินข่าวนั้น เลยตบไหล่เพื่อนแรง ๆ อย่างต้องการเตือนให้ระวังปากเอาไว้ คนถูกเตือนเอียงหน้าคุยอีกที “อย่างนั้นผมเชียร์คุณนะธรณ์ คนเพื่อนจะได้ว่าง” คนพูดชำเลืองตาไปทางคนที่นั่งเงียบ ไม่ได้เข้าร่วมสนทนาด้วย ธรณ์มองตามสายตาแจ็ค ก็พูดเสียงลอดไรฟันกับเพื่อน “น้ำแข็งขนาดนั้น ใครจะกะเทาะเปลือกออกได้”           “คุณธรณ์ นี่มึงพูดกั๊กหรือเปล่าครับ”           “กูจะทำแบบนั้นเพื่อ?”           “ก็เพื่อที่มึงจะได้เอาไว้เองไงวะทั้งสองคน” แจ็คชูนิ้วขึ้นสองนิ้วประกอบคำตอบของตัวเอง ธรณ์ส่ายหัวเบา ๆ กับความคิดของเพื่อน กระนั้นก็นิ่งไป ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วผลักไหล่แจ็ค ไล่สำทับ           “กลับได้แล้ว เมียมึงมาตามแล้วนู่น”           แจ็คหุบยิ้มฉับลงแทบทันที เมื่อหันไปเห็นแฟนสาวยืนกอดอกมองมา “เออ งั้นกูกลับก่อน ไหนมึงบอกว่ารีสอร์ตจะเจ๊ง”           “ช่วงนี้ทัวร์ลงพอดี เลยไม่ว่าง มึงพักที่โรงแรมพี่ย้อยน่ะดีแล้ว พรุ่งนี้เช้าก่อนกลับ แวะมาเอาของฝากให้แม่กับป้ามึงด้วย กูซื้อจากคนบนเกาะไว้ให้แล้ว อย่าลืมล่ะ”           ธรณ์ไม่ลืมย้ำเพื่อน เวลาไปไหนธรณ์จะต้องหอบของไปฝากผู้ใหญ่เสมอ ทั้งรู้จักพูดรู้จักอ้อน จนแม่และป้าของแจ็คหลงธรณ์ เอ็นดูธรณ์กันแทบทั้งนั้น ชมไม่ขาดปากว่าอัธยาศัยดี มีน้ำใจ เข้ากับผู้ใหญ่เก่ง           “กูไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมแม่กูไม่รักกูเลย เพราะมึงแบบนี้ไงธรณ์ เออ ขอบใจมาก กลับห้องแล้วนะเว้ย” แจ็คโบกมือลาทุกคน เดินไปหาแฟนสาวที่ยืนหน้ามุ่ยรออยู่ ธรณ์นึกได้ หันมาบอกกับไอลดาว่า “พี่บอกด้าหรือยัง ว่าพรุ่งนี้พี่ต้องกลับแล้ว”           “จริงหรือคะ งั้นด้ากลับด้วย”           พรรณวษาค่อยเหลือบตามองทางเพื่อน ทีเธอชวนกลับไม่กลับ ได้ยินทั้งสองคนนัดแนะเวลาเดินทางเรียบร้อย มื้อเย็นเลยนั่งกินอะไรกันตรงหน้าหาด ดื่มด่ำบรรยากาศเป็นวันสุดท้าย มองเก็บบรรยากาศไปเรื่อย ๆ ก่อนจะได้กลับสู่โลกของตัวเองในวันพรุ่งนี้                                        “ไหวไหมด้า แวะหาหมอหน่อยดีไหม”           ถามจบ มองหน้าไอลดาที่ซีดจนผิดตากว่าทุกวัน เจ้าตัวพิงศีรษะกับเบาะรถ ไม่พูดจาสนุกสนานแบบทุกครั้ง ก็ยิ่งเป็นห่วงไปกันใหญ่ “ด้าว่านะ ด้าต้องเมาบกเหมือนพรรณแน่ ๆ เลย แต่มันคงดีเลย์ไง เพิ่งมามีอาการ” พรรณวษาเห็นพ้องด้วย ยอมรับว่าตัวเองก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร “นี่พรรณก็ยังรู้สึกโคลง ๆ อยู่เหมือนกันนะ ถ้ารู้ว่าไปแล้วจะไม่สบายตัวแบบนี้ ไม่น่าไปเลย”           “ไม่ได้ดำน้ำนานแล้วนี่นา ตั้งสี่ปีแล้ว” ไอลดานึกถึงแล้วก็ให้โหยหาไม่หยุด สี่ปีที่เลิกราจากธรณ์ เธอไม่เคยได้ลงดำน้ำหรือทำกิจกรรมผาดโผนอีกเลย เพราะหัสดินทร์ไม่ใช่ผู้ชายแนวผจญภัยแบบธรณ์ เธอเคยชวนเขา ขานั้นก็ยอมไปแค่ช่วงแรก ๆ ที่ตกลงคบหากัน แต่พอหลังแต่งงาน หัสดินทร์ไม่ไปด้วยอีกเลย เขาอ้างเรื่องงานที่ตารางแน่นแทบตลอดเวลา           ยิ่งนึกถึงสามีก็ยิ่งผะอืดผะอม ร้องขอเพื่อน           “มีอะไรเปรี้ยว ๆ ไหมพรรณ ด้าอยากเอามาเคี้ยวหน่อย เผื่อจะดีขึ้น”           “เดี๋ยวนะ พรรณลงไปดูให้”           พรรณวษาลงจากรถอย่างยากลำบากอยู่บ้าง เพราะเป็นรถคันสูง ที่เธอไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรนัก ปกตินั่งแต่รถสาธารณะเสียส่วนใหญ่ รถของไอลดาก็เป็นรถเก๋งแบบเล็ก ๆ ไม่สูงเท่านี้ เนื่องจากเช้านี้ไอลดาอาเจียนตลอด ทั้งยังบ่นเวียนศีรษะ หน้าซีดมากด้วย ธรณ์จึงให้ทุกคนย้ายไปขึ้นรถของเขา ส่วนรถของไอลดา ชายหนุ่มให้คนของเขาขับตามไปส่งให้ทีหลัง           ธรณ์ที่เสร็จจากงานด้านในแล้ว เตรียมเดินทาง สวนออกมาพอดี เห็นเธอปิดประตูรถ เดินไปอีกทางก็ร้องทัก           “ไปไหนน่ะคุณ”           หันไปหาเขา บอกเสียงเรียบ “อยากได้ผลไม้เปรี้ยว ๆ ไว้ติดรถหน่อยค่ะ” “ขึ้นรถเถอะ เดินไปเดินมา เกิดเป็นลมหน้ามืด ไม่เรียกแอมบูแลนซ์ให้นะ เดี๋ยวทิ้งไว้นี่เลย”           พรรณวษากลอกตาอย่างเซ็ง ๆ นึกในใจว่ากลัวตายล่ะ แล้วหันกลับไปที่รถ เธอไม่ได้กลัวคำขู่ของธรณ์สักนิด แต่เพราะอาการเมาบกยังไม่หายดีต่างหาก นานราวห้านาทีได้ กว่าที่ธรณ์จะกลับมาพร้อมถุงหูหิ้วในมือ           “พี่ธรณ์ได้อะไรมาบ้างเนี่ย” ไอลดาร้องทักเสียงใส           “ในครัวมีเท่านี้เอง เอานี่คุณ เปรี้ยวพอไหม” ธรณ์ชูของในมือบอก แล้วส่งมาทางด้านหลังที่เธอนั่งอยู่ ไอลดายิ้มเผล่ ยื่นมือออกไปรับมาถือไว้เอง           “ด้าเองแหละค่ะที่อยากกิน ขอบคุณมากนะคะทุกคน”           เมื่อพร้อมแล้วจึงได้เดินทางกลับตอนเกือบจะเที่ยงวันอยู่รอมร่อ พารถลงเรือข้ามฟากได้ ขึ้นฝั่งแล้วก็ยิงยาว ไม่ได้จอดแวะรายทาง           ธรณ์ขับรถไป ตาเหลือบมองหญิงสาวอดีตคนรักที่เบาะด้านข้างไปพลางด้วยแววตาลึกซึ้ง พรรณวษาเห็นแล้วก็ได้แต่เมินหน้าหนี นึกเป็นกังวลแทน ขืนได้ใกล้ชิด ได้วนเวียนใกล้กันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็รังแต่จะทำให้เรื่องวุ่นวายมากขึ้นไปอีก           ไอลดาทะเลาะกับสามี มีเรื่องไม่เข้าใจกันอยู่ แล้วธรณ์ก็ดันโผล่เข้ามาในช่วงจังหวะเวลานี้พอดี ได้แต่หวังว่าเพื่อนของเธอจะไม่ประสบปัญหาหนักหัวใจไปเสียก่อนนะ           เลื่อนสายตามองนอกรถ หยิบหูฟังยัดใส่หู ฟังเพลงเพลิน ๆ อยู่เป็นนาน มองไปด้านหน้าอีกครั้งเพราะรถชะลอความเร็วลง จอดรอสัญญาณไฟจราจรเบื้องหน้า           สารถีเข้าเกียร์แล้วเหลือบมองทางไอลดา เธอเลยมองตามบ้าง ถึงได้เห็นว่าเพื่อนหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่เบาะตรงหน้านี่เอง พอหันไปมองที่ธรณ์ ก็เห็นเขามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย ไร้อารมณ์ไม่ต่างกัน           พอดีกับที่ไฟจราจรเปลี่ยนสี ธรณ์จึงหันกลับไปขับรถ ไอลดาขยับตัวตื่น ค่อยได้ยินธรณ์ถาม เมื่อขับรถข้ามเขตเข้ามาในมหานครมาแล้ว           “ให้พี่ไปส่งใครที่ไหนบ้าง”           “ไปบ้านพรรณเลยค่ะ”           “บอกทางพี่แล้วกัน”           พรรณวษานั่งเงียบฟังสองคนทางหน้ารถคุยกันต่อจากนั้น ด้วยสารพัดเรื่องที่จะงัดออกมาคุยได้ กระทั่งหนทางกลับบ้านพักของเธอเอง ก็ปล่อยให้ไอลดาเป็นคนบอก           แม้การจราจรจะแน่นขนัด แต่ธรณ์ก็พารถแหวกออกตามช่องทางจนถึงหน้าบ้านของเธอช่วงพลบค่ำพอดี           อาการผะอืดผะอมที่รบกวนไอลดาตอนขามาหายไปแล้ว ไอลดาเอียงหน้า ปรึกษากับเจ้าของบ้าน           “ด้าชวนพี่ธรณ์เข้าไปดื่มน้ำข้างในได้ไหมพรรณ”           เธอใช่คนไร้มารยาท ใจจืดใจดำที่ไหนกัน จึงพยักหน้า แต่ไม่พูดอะไรกลับไป เมื่อไอลดาเอ่ยขอเธอก่อนเข้าบ้าน           “พรรณเขาเคร่งมารยาทน่ะค่ะ แล้วก็หวงบ้านหลังน้อยนี้มาก”           ธรณ์ไม่ได้พูดอะไร เขาทำแค่ช่วยขนของไปส่งในบ้าน แล้วขอตัวกลับทันที เพราะลูกน้องที่ให้ขับรถตามมาไปรอที่บ้านเขาแล้ว ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเอารถมาส่งให้ สองสาวนั่งรื้อข้าวของเสื้อผ้าออกมากองรอซัก หาอะไรกินจนอิ่มท้อง ค่อยแยกย้ายกันไปพักผ่อนในเวลาต่อมา    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD