ตอนที่ 18 รู้ทัน

1741 Words
“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” เอสเอ่ยถามโมนาทันทีเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเพราะสีหน้าเธอตอนนี้ดูตื่นเต้นไม่น้อย “หนูแค่รู้สึกแปลกๆ ที่ได้มาห้องคนอื่นแบบนี้” โมนาตอบเอสไปตามตรง “หมายความว่าหนูไม่เคยเข้าห้องผู้ชายหรอครับ” “จะเคยเข้าได้ไงคะ หนูเคยมีแฟนที่ไหนเล่า ขนาดห้องของมาร์เวลหนูยังไม่เข้าเลย” โมนาพูดขึ้นเสียงดังใส่เอสเมื่อเห็นเขาทำหน้ากวนๆ ใส่ “ต่อไปนี้จะได้เข้าบ่อยๆ แน่นอนครับ เชิญครับคุณผู้หญิง” เอสพูดขึ้นพร้อมกับเปิดประตูห้องแล้วผายมือโค้งตัวให้โมนาด้วยรอยยิ้ม “ชิ ทำแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยล่ะสิท่า” โมนาพูดขึ้นพร้อมกับมองค้อนใส่เขาแล้วเดินเข้าห้องไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเอสก็เดินตามเข้าไปในห้องเมื่อปิดประตูแล้วร่างสูงก็เดินไปอุ้มคนตัวเล็กในท่าเจ้าสาวทำเอาโมนาถึงกับร้องตกใจ “ว้ายย! พี่เอส ปล่อยหนูเลยนะ มาอุ้มหนูทำไม ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะ” โมนาพูดโววายใส่เอสทันทีเมื่อโดนเขาอุ้มในท่าเจ้าสาวจนต้องรีบเอามือคล้องคอหนาไว้เพราะกลัวตก “หนูคิดว่าพี่จะเป็นคนใจง่ายยอมให้ผู้หญิงเข้าห้องง่ายๆ หรอครับ” เอสพูดขึ้นขณะที่อุ้มโมนาโดยไม่เดินไปไหน “แล้วมันใช่มั้ยล่ะคะ ก็พี่บอกเองว่าเมื่อก่อนพี่นอนกับผู้หญิงหลายคนนิ” โมนาพูดเถียงเอสกลับอย่างไม่ยอม “ถูกครับที่พี่นอนกับผู้หญิงหลายคน แต่พี่ไม่เคยพาใครเข้าห้องพี่เลยสักคน เพราะผู้หญิงที่พี่จะพาเข้าห้องต้องเป็นเมียพี่คนเดียวเท่านั้นครับ” โมนาเงยหน้ามองเอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “หนูไม่ใช่เมียพี่สักหน่อย แล้วทำไมถึงให้หนูเข้ามาล่ะคะ” โมนาพูดขึ้นเสียงเบาเพราะเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อแต่แค่แกล้งถามเขา “มั่นใจว่าไม่เข้าใจความหมายที่พี่พูด หืม ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่แต่ไม่นานยังไงหนูก็ต้องเป็นเมียพี่ ไปกันครับ พาพี่ไปแต่งตัวในห้องนอนหน่อยนะครับ” เอสพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่โมนาจากนั้นก็อุ้มเธอเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที “อร๊ายย! ไม่เอานะพี่เอส หนูไม่เข้าไปด้วยนะ ปล่อยหนูลงเลย หนูจะรอข้างนอก” โมนาพูดโวยวายพร้อมกับดิ้นไปมาเมื่อรู้ว่าเอสจะพาเธอเข้าห้องนอน “ถ้าหนูขัดขืนพี่จะทำมากกว่าให้หนูนั่งรอเฉยๆ นะครับ” “พี่จะทำอะไรหนู อื้ออ” โมนาถามเอสกลับด้วยความไม่พอใจแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเอสนั้นโน้มหน้ามาจูบเธอแต่ไม่ได้สอดลิ้นเข้ามาจากนั้นก็ผละจูบออกทำเอาโมนาถึงกับนิ่งเพราะยังตกใจอยู่ “ถ้าหนูยังดื้อขัดขืนพี่ก็จะทำมากกว่าจูบจนเราสองคนอาจจะไม่ได้ไปเรียนเลยล่ะครับ ไม่เชื่อหนูก็ลองดิ้นดูสิ” เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะอยากแกล้งเธอ แต่ดูเหมือนจะแกล้งตัวเองมากกว่าเพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกปวดหนึบท่อนเอ็นที่กำลังแข็งตัวขึ้นมาอย่างหนัก ส่วนโมนาเมื่อได้ยินคำขู่ของเขาก็นิ่งไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวเขาจะทำจริงๆ จนเอสที่ข่มอารมณ์ตัวเองได้แล้วถึงกับกระตุกยิ้มชอบใจเมื่อคนตัวเล็กแน่นิ่งในอ้อมกอดเขาไม่ยอมขยับตัว “หึ น่ารักมากครับ” เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วอุ้มโมนาเดินเข้าห้องนอนทันที เมื่อเข้ามาในห้องนอนแล้วก็วางเธอให้นั่งลงที่ปลายเตียงนอนของเขาอย่างเบามือ “หนูไม่ได้ดิ้น ไม่ได้ขัดขืน พี่ห้ามผิดคำพูดนะคะ” โมนารีบพูดขึ้นทันทีเมื่อเอสวางเธอนั่งลงบนเตียงนอนแล้ว “ว้า! อยากผิดคำพูดจัง” “พี่เอส!” โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดกวนๆ ของเขา “ล้อเล่นครับ ไม่ต้องห่วงพี่ไม่ทำอะไรหนูแน่นอนถ้าหนูไม่เต็มใจ” เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ทนได้จริงๆ หรอคะ ที่ต้องมารอหนูพร้อมแบบนี้ หรือว่าพี่ยังไปมีอะไรกับคนอื่นเพื่อรอหนู” โมนาถามเอสไปตามตรงด้วยความอยากรู้ “พี่ไม่ได้เป็นคนหื่นขนาดนั้นครับ ปกติพี่ก็ไม่ถึงเนื้อถึงตัวกับใครอยู่แล้วยกเว้นหนู ถ้าวันไหนที่พี่มีอารมณ์จนทนไม่ได้เดี๋ยวพี่ใช้มือแทนก็ได้ครับ หนูสบายใจได้พี่ไม่มีใครแน่นอน ถ้าหนูสงสารพี่ก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่แล้วยอมให้พี่กินเร็วๆ สิครับ” ขณะที่โมนากำลังจะซึ้งก็ต้องมองค้อนใส่เขาทันทีเมื่อได้ยินประโยคหลังของเขา “คนเจ้าเล่ห์ เกือบซึ้งแล้วค่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว รีบไปแต่งตัวเลยนะคะ จะสายแล้วเนี่ย” “รับทราบครับเมีย” “เมียอะไรเล่าไปเลย” เอสหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดกวนโมนาได้จากนั้นก็เดินหยิบชุดนักศึกษาที่รีดไว้เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำทันทีเพราะไม่อยากให้เธออึดอัดเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วเอสก็พาโมนาขับรถมาที่มหาลัยใช้เวลาไม่นานก็มาถึง “น้องโมนาครับ หนูลืมอะไรรึเปล่า” โมนาที่เดินลงจากรถแล้วตั้งท่าจะเดินไปเรียนก็ต้องหยุดชะงักแล้วหันหลังไปหาเอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “ลืมอะไรคะ” โมนาถามเอสกลับด้วยความสงสัย “ลืมนี่ไงครับ” เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มกวนๆ แล้วชูโทรศัพท์ของโมนาที่เธอทำตกไว้ในรถขึ้นให้เธอดู “งืออ ขอบคุณค่ะ วันนี้ต้องใช้โทรศัพท์เรียนด้วย” โมนาพูดขอบคุณเอสแล้วเดินกลับไปเอาโทรศัพท์จากเขา แต่ก็ต้องมองเอสอย่างไม่พอใจเมื่อเขาดันยื่นมือที่ถือโทรศัพท์ขึ้นสูงจนสุดแขน “พี่เอส อย่าแกล้ง เอาโทรศัพท์มาค่ะใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วนะ” โมนาพูดกับเอสอย่างไม่พอใจแล้วกระโดดจะเอาโทรศัพท์คืนแต่ก็ไม่ถึงเพราะความสูงเธอกับเอสนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง ทางด้านเอสเมื่อเห็นเธอกระโดดจะเอาโทรศัพท์ก็ยืดตัวสูงขึ้นมืออีกข้างก็คอยตั้งท่าจะประคองเธอไว้กันเธอเสียหลักล้ม “อยากเอาโทรศัพท์ต้องหอมแก้มพี่ก่อนครับ ไม่งั้นไม่ให้นะ” เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนโมนาหยุดกระโดดแล้วเงยหน้าไปมองค้อนใส่เขา “นิสัยไม่ดี ทำไมเจ้าเล่ห์แบบนี้คะ หนูเปลี่ยนไม่ให้จีบได้มั้ยเนี่ย” โมนาพูดใส่เอสอย่างไม่พอใจ “พี่แค่อยากได้กำลังใจก่อนไปเรียนเองครับ พี่เจ้าเล่ห์ตรงไหน” เอสพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้ม “มาขอกำลังใจอะไรตรงนี้คะ ที่นี่มหาลัยนะไม่ใช่ที่บ้านที่จะหอมจะจูบกันได้” โมนาตอบเอสกลับอย่างเขินอาย “อย่าลืมสิครับ ว่าพี่เป็นคนไม่เลือกสถานที่ เร็วสิครับ ถ้าไม่รีบหอมแก้มพี่ หนูจะไปเรียนไม่ทันนะ” เอสพูดกับโมนาพร้อมกับยิ้มกวนๆ ใส่เธอ “งืออ ไอ้พี่บ้า ไอ้คนเจ้าเล่ห์ ก้มหน้ามาสิคะ ยืนตัวตรงแบบนี้หนูจะหอมถึงรึไง” โมนาบอกเอสด้วยความไม่พอใจ เอสจึงรีบโน้มหน้าลงมาใกล้เธอโมนาจึงตั้งท่าจะตบเขาแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อโดนเอสพูดดักไว้ก่อน “รอบนี้ถ้าหนูตบพี่อีก พี่จับหนูจูบตรงนี้จริงๆ นะครับ” เอสพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มเมื่อเห็นโมนากำลังขบกรามใส่เขาด้วยความไม่พอใจเพราะเขาดันรู้ทันเธอก่อน “ฝากไว้ก่อนเถอะ ฟอดด เอามาเลยค่ะ” พูดจบโมนาก็หอมแก้มเอสหนึ่งครั้งแล้วแย่งโทรศัพท์จากมือเขาจากนั้นก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีเขาก็ต้องชะงักเมื่อโดนเอสดึงแขนไว้ก่อน “อะไรของพี่อีกเนี่ย จับหนูไว้ทำไมอีก” โมนาหันไปพูดใส่เอสด้วยความไม่พอใจแต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เอสก็นั่งในท่าชันเข่าหนึ่งข้างต่อหน้าเธอ จากนั้นก็ก้มผูกเชือกรองเท้าผ้าใบที่หลุดให้เธอทำเอาโมนาถึงกับใจเต้นแรงรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อเห็นการกระทำที่อ่อนโยนและใส่ใจของเขาแบบนี้ “ผูกเชือกรองเท้าแน่นๆ หน่อยสิครับ เกิดเดินไปแล้วสะดุดล้มจะทำยังไง” เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะที่ผูกเชือกร้องเท้าให้เธออยู่ ส่วนโมนาก็ยืนนิ่งๆ ให้เขาทำอย่างว่าง่ายพร้อมกับมองเขาไม่วางตาอย่างหลงใหล เมื่อผูกเชือกรองเท้าเสร็จแล้วเอสก็ยืนขึ้น “เรียบร้อยครับ ตั้งใจเรียนนะครับเมีย” เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นมือไปลูบผมเธออย่างเอ็นดู “งืออ เมียเมออะไร แฟนก็ยังไม่ได้เป็นจะข้ามให้เป็นเมียเลยหรอคะ ขี้ตู่จริงๆ” โมนาพูดใส่เอสทันทีแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรเขา “หึ เขินจนแก้มแดงหมดแล้ว หมั่นเขี้ยว” เอสพูดขึ้นพร้อมกับบีบจมูกเธอเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “อะไร ใครเขินคะ ไม่คุยด้วยแล้ว” พูดจบโมนาก็รีบวิ่งไปเรียนทันทีด้วยความเขิน ทำเอาเอสได้แต่ยิ้มกว้างชอบใจกับความเขินของเธอจากนั้นก็เดินไปเรียนทันทีโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาที่ทำกับโมนานั้นตกอยู่ในสายตาของบริ๊งมาตลอด “ยัยโมนา แกเองหรอที่เป็นสาเหตุให้พี่เอสเมินฉัน” บริ๊งพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ การกระทำของเอสที่ดูใส่ใจโมนาทำเอาเธอถึงกับรู้สึกเกลียดโมนาขึ้นมาทันทีและยิ่งทำให้เธออยากได้เอสมาครอบครองมากกว่าเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD