“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
เอสเอ่ยถามโมนาทันทีเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเพราะสีหน้าเธอตอนนี้ดูตื่นเต้นไม่น้อย
“หนูแค่รู้สึกแปลกๆ ที่ได้มาห้องคนอื่นแบบนี้”
โมนาตอบเอสไปตามตรง
“หมายความว่าหนูไม่เคยเข้าห้องผู้ชายหรอครับ”
“จะเคยเข้าได้ไงคะ หนูเคยมีแฟนที่ไหนเล่า ขนาดห้องของมาร์เวลหนูยังไม่เข้าเลย”
โมนาพูดขึ้นเสียงดังใส่เอสเมื่อเห็นเขาทำหน้ากวนๆ ใส่
“ต่อไปนี้จะได้เข้าบ่อยๆ แน่นอนครับ เชิญครับคุณผู้หญิง”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับเปิดประตูห้องแล้วผายมือโค้งตัวให้โมนาด้วยรอยยิ้ม
“ชิ ทำแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยล่ะสิท่า”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับมองค้อนใส่เขาแล้วเดินเข้าห้องไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเอสก็เดินตามเข้าไปในห้องเมื่อปิดประตูแล้วร่างสูงก็เดินไปอุ้มคนตัวเล็กในท่าเจ้าสาวทำเอาโมนาถึงกับร้องตกใจ
“ว้ายย! พี่เอส ปล่อยหนูเลยนะ มาอุ้มหนูทำไม ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะ”
โมนาพูดโววายใส่เอสทันทีเมื่อโดนเขาอุ้มในท่าเจ้าสาวจนต้องรีบเอามือคล้องคอหนาไว้เพราะกลัวตก
“หนูคิดว่าพี่จะเป็นคนใจง่ายยอมให้ผู้หญิงเข้าห้องง่ายๆ หรอครับ”
เอสพูดขึ้นขณะที่อุ้มโมนาโดยไม่เดินไปไหน
“แล้วมันใช่มั้ยล่ะคะ ก็พี่บอกเองว่าเมื่อก่อนพี่นอนกับผู้หญิงหลายคนนิ”
โมนาพูดเถียงเอสกลับอย่างไม่ยอม
“ถูกครับที่พี่นอนกับผู้หญิงหลายคน แต่พี่ไม่เคยพาใครเข้าห้องพี่เลยสักคน เพราะผู้หญิงที่พี่จะพาเข้าห้องต้องเป็นเมียพี่คนเดียวเท่านั้นครับ”
โมนาเงยหน้ามองเอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“หนูไม่ใช่เมียพี่สักหน่อย แล้วทำไมถึงให้หนูเข้ามาล่ะคะ”
โมนาพูดขึ้นเสียงเบาเพราะเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อแต่แค่แกล้งถามเขา
“มั่นใจว่าไม่เข้าใจความหมายที่พี่พูด หืม ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่แต่ไม่นานยังไงหนูก็ต้องเป็นเมียพี่ ไปกันครับ พาพี่ไปแต่งตัวในห้องนอนหน่อยนะครับ”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่โมนาจากนั้นก็อุ้มเธอเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
“อร๊ายย! ไม่เอานะพี่เอส หนูไม่เข้าไปด้วยนะ ปล่อยหนูลงเลย หนูจะรอข้างนอก”
โมนาพูดโวยวายพร้อมกับดิ้นไปมาเมื่อรู้ว่าเอสจะพาเธอเข้าห้องนอน
“ถ้าหนูขัดขืนพี่จะทำมากกว่าให้หนูนั่งรอเฉยๆ นะครับ”
“พี่จะทำอะไรหนู อื้ออ”
โมนาถามเอสกลับด้วยความไม่พอใจแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเอสนั้นโน้มหน้ามาจูบเธอแต่ไม่ได้สอดลิ้นเข้ามาจากนั้นก็ผละจูบออกทำเอาโมนาถึงกับนิ่งเพราะยังตกใจอยู่
“ถ้าหนูยังดื้อขัดขืนพี่ก็จะทำมากกว่าจูบจนเราสองคนอาจจะไม่ได้ไปเรียนเลยล่ะครับ ไม่เชื่อหนูก็ลองดิ้นดูสิ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะอยากแกล้งเธอ แต่ดูเหมือนจะแกล้งตัวเองมากกว่าเพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกปวดหนึบท่อนเอ็นที่กำลังแข็งตัวขึ้นมาอย่างหนัก ส่วนโมนาเมื่อได้ยินคำขู่ของเขาก็นิ่งไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวเขาจะทำจริงๆ จนเอสที่ข่มอารมณ์ตัวเองได้แล้วถึงกับกระตุกยิ้มชอบใจเมื่อคนตัวเล็กแน่นิ่งในอ้อมกอดเขาไม่ยอมขยับตัว
“หึ น่ารักมากครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วอุ้มโมนาเดินเข้าห้องนอนทันที เมื่อเข้ามาในห้องนอนแล้วก็วางเธอให้นั่งลงที่ปลายเตียงนอนของเขาอย่างเบามือ
“หนูไม่ได้ดิ้น ไม่ได้ขัดขืน พี่ห้ามผิดคำพูดนะคะ”
โมนารีบพูดขึ้นทันทีเมื่อเอสวางเธอนั่งลงบนเตียงนอนแล้ว
“ว้า! อยากผิดคำพูดจัง”
“พี่เอส!”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดกวนๆ ของเขา
“ล้อเล่นครับ ไม่ต้องห่วงพี่ไม่ทำอะไรหนูแน่นอนถ้าหนูไม่เต็มใจ”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่ทนได้จริงๆ หรอคะ ที่ต้องมารอหนูพร้อมแบบนี้ หรือว่าพี่ยังไปมีอะไรกับคนอื่นเพื่อรอหนู”
โมนาถามเอสไปตามตรงด้วยความอยากรู้
“พี่ไม่ได้เป็นคนหื่นขนาดนั้นครับ ปกติพี่ก็ไม่ถึงเนื้อถึงตัวกับใครอยู่แล้วยกเว้นหนู ถ้าวันไหนที่พี่มีอารมณ์จนทนไม่ได้เดี๋ยวพี่ใช้มือแทนก็ได้ครับ หนูสบายใจได้พี่ไม่มีใครแน่นอน ถ้าหนูสงสารพี่ก็ตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่แล้วยอมให้พี่กินเร็วๆ สิครับ”
ขณะที่โมนากำลังจะซึ้งก็ต้องมองค้อนใส่เขาทันทีเมื่อได้ยินประโยคหลังของเขา
“คนเจ้าเล่ห์ เกือบซึ้งแล้วค่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว รีบไปแต่งตัวเลยนะคะ จะสายแล้วเนี่ย”
“รับทราบครับเมีย”
“เมียอะไรเล่าไปเลย”
เอสหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดกวนโมนาได้จากนั้นก็เดินหยิบชุดนักศึกษาที่รีดไว้เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำทันทีเพราะไม่อยากให้เธออึดอัดเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วเอสก็พาโมนาขับรถมาที่มหาลัยใช้เวลาไม่นานก็มาถึง
“น้องโมนาครับ หนูลืมอะไรรึเปล่า”
โมนาที่เดินลงจากรถแล้วตั้งท่าจะเดินไปเรียนก็ต้องหยุดชะงักแล้วหันหลังไปหาเอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ลืมอะไรคะ”
โมนาถามเอสกลับด้วยความสงสัย
“ลืมนี่ไงครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มกวนๆ แล้วชูโทรศัพท์ของโมนาที่เธอทำตกไว้ในรถขึ้นให้เธอดู
“งืออ ขอบคุณค่ะ วันนี้ต้องใช้โทรศัพท์เรียนด้วย”
โมนาพูดขอบคุณเอสแล้วเดินกลับไปเอาโทรศัพท์จากเขา แต่ก็ต้องมองเอสอย่างไม่พอใจเมื่อเขาดันยื่นมือที่ถือโทรศัพท์ขึ้นสูงจนสุดแขน
“พี่เอส อย่าแกล้ง เอาโทรศัพท์มาค่ะใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วนะ”
โมนาพูดกับเอสอย่างไม่พอใจแล้วกระโดดจะเอาโทรศัพท์คืนแต่ก็ไม่ถึงเพราะความสูงเธอกับเอสนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง ทางด้านเอสเมื่อเห็นเธอกระโดดจะเอาโทรศัพท์ก็ยืดตัวสูงขึ้นมืออีกข้างก็คอยตั้งท่าจะประคองเธอไว้กันเธอเสียหลักล้ม
“อยากเอาโทรศัพท์ต้องหอมแก้มพี่ก่อนครับ ไม่งั้นไม่ให้นะ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนโมนาหยุดกระโดดแล้วเงยหน้าไปมองค้อนใส่เขา
“นิสัยไม่ดี ทำไมเจ้าเล่ห์แบบนี้คะ หนูเปลี่ยนไม่ให้จีบได้มั้ยเนี่ย”
โมนาพูดใส่เอสอย่างไม่พอใจ
“พี่แค่อยากได้กำลังใจก่อนไปเรียนเองครับ พี่เจ้าเล่ห์ตรงไหน”
เอสพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้ม
“มาขอกำลังใจอะไรตรงนี้คะ ที่นี่มหาลัยนะไม่ใช่ที่บ้านที่จะหอมจะจูบกันได้”
โมนาตอบเอสกลับอย่างเขินอาย
“อย่าลืมสิครับ ว่าพี่เป็นคนไม่เลือกสถานที่ เร็วสิครับ ถ้าไม่รีบหอมแก้มพี่ หนูจะไปเรียนไม่ทันนะ”
เอสพูดกับโมนาพร้อมกับยิ้มกวนๆ ใส่เธอ
“งืออ ไอ้พี่บ้า ไอ้คนเจ้าเล่ห์ ก้มหน้ามาสิคะ ยืนตัวตรงแบบนี้หนูจะหอมถึงรึไง”
โมนาบอกเอสด้วยความไม่พอใจ เอสจึงรีบโน้มหน้าลงมาใกล้เธอโมนาจึงตั้งท่าจะตบเขาแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อโดนเอสพูดดักไว้ก่อน
“รอบนี้ถ้าหนูตบพี่อีก พี่จับหนูจูบตรงนี้จริงๆ นะครับ”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มเมื่อเห็นโมนากำลังขบกรามใส่เขาด้วยความไม่พอใจเพราะเขาดันรู้ทันเธอก่อน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฟอดด เอามาเลยค่ะ”
พูดจบโมนาก็หอมแก้มเอสหนึ่งครั้งแล้วแย่งโทรศัพท์จากมือเขาจากนั้นก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีเขาก็ต้องชะงักเมื่อโดนเอสดึงแขนไว้ก่อน
“อะไรของพี่อีกเนี่ย จับหนูไว้ทำไมอีก”
โมนาหันไปพูดใส่เอสด้วยความไม่พอใจแต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เอสก็นั่งในท่าชันเข่าหนึ่งข้างต่อหน้าเธอ จากนั้นก็ก้มผูกเชือกรองเท้าผ้าใบที่หลุดให้เธอทำเอาโมนาถึงกับใจเต้นแรงรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อเห็นการกระทำที่อ่อนโยนและใส่ใจของเขาแบบนี้
“ผูกเชือกรองเท้าแน่นๆ หน่อยสิครับ เกิดเดินไปแล้วสะดุดล้มจะทำยังไง”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะที่ผูกเชือกร้องเท้าให้เธออยู่ ส่วนโมนาก็ยืนนิ่งๆ ให้เขาทำอย่างว่าง่ายพร้อมกับมองเขาไม่วางตาอย่างหลงใหล เมื่อผูกเชือกรองเท้าเสร็จแล้วเอสก็ยืนขึ้น
“เรียบร้อยครับ ตั้งใจเรียนนะครับเมีย”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นมือไปลูบผมเธออย่างเอ็นดู
“งืออ เมียเมออะไร แฟนก็ยังไม่ได้เป็นจะข้ามให้เป็นเมียเลยหรอคะ ขี้ตู่จริงๆ”
โมนาพูดใส่เอสทันทีแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรเขา
“หึ เขินจนแก้มแดงหมดแล้ว หมั่นเขี้ยว”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับบีบจมูกเธอเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“อะไร ใครเขินคะ ไม่คุยด้วยแล้ว”
พูดจบโมนาก็รีบวิ่งไปเรียนทันทีด้วยความเขิน ทำเอาเอสได้แต่ยิ้มกว้างชอบใจกับความเขินของเธอจากนั้นก็เดินไปเรียนทันทีโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาที่ทำกับโมนานั้นตกอยู่ในสายตาของบริ๊งมาตลอด
“ยัยโมนา แกเองหรอที่เป็นสาเหตุให้พี่เอสเมินฉัน”
บริ๊งพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ การกระทำของเอสที่ดูใส่ใจโมนาทำเอาเธอถึงกับรู้สึกเกลียดโมนาขึ้นมาทันทีและยิ่งทำให้เธออยากได้เอสมาครอบครองมากกว่าเดิม