“ตัดไซส์พี่ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะ...อื้อออ”
โมนาพูดยังไม่ทันจบก็โดนเอสจูบปากก่อน ทำเอาเธอถึงกับตกใจเพราะโดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว ส่วนเอสเมื่อจูบปากเธอแล้วก็รีบกอดเธอไว้แน่นแล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเธออย่างชำนาญจนคนที่ประสบการณ์น้อยอย่างโมนาถึงกับเคลิ้มตามจากที่ดิ้นขัดขืนก็หยุดนิ่งแล้วหลับตารับรสจูบที่เขามอบให้มือเล็กจากที่ทุบอกแกร่งก็เปลี่ยนมากอดคอเขาแทน
“อืม”
เอสครางในลำคออย่างพอใจเมื่อโมนาเริ่มจูบตอบเขา จากที่จูบแลกลิ้นเบาๆ ก็เปลี่ยนเป็นรุนแรงเร่าร้อนขึ้นเพราะอารมณ์ของเขากำลังพลุ่งพล่านหนักขึ้น ร่างสูงรีบช้อนมืออุ้มคนตัวเล็กลุกขึ้นเดินไปยังเตียงขณะที่ปากทั้งสองยังจูบแลกลิ้นกันอยู่ เมื่อเดินมาถึงเตียงแล้วเอสก็วางโมนาลงเตียงพร้อมกับโน้มตัวไปคร่อมเธอไว้เพราะเขาไม่ยอมผละจูบออกทำเอาโมนาถึงกับรู้สึกใจเต้นแรงไม่น้อยเมื่อโดนมือหนาเขาลูบไล้ตามเอวบางแถมยังโดนเขาจูบไม่ปล่อย นับว่าเป็นการจูบที่นานกว่าครั้งแรกมากเลยทีเดียว เมื่อจูบเธอจนพอใจเอสก็ผละจูบออกแล้วเอาปลายจมูกถูจมูกเธอไปมาเบาๆ พร้อมกับมองเธออย่างหลงใหลจนโมนาต้องหลบตาด้วยความเขิน
“เมื่อไหร่หนูจะยอมเป็นแฟนกับพี่ พี่เริ่มจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วนะครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระเส่าเพราะต้องใช้ความอดทนกับอารมณ์กระสันของตัวเองขณะที่จมูกยังถูไถกับจมูกเธอไปมา ที่เขาไม่ยอมทำต่อเพราะอยากให้เธอยอมเป็นแฟนกับเขาก่อนและอยากให้เธอรู้ว่าเขานั้นจริงจังกับเธอไม่ได้คิดจะทำเรื่องนั้นอย่างเดียวเท่านั้น
“รู้ว่าจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วจะมาเข้าใกล้หนูทำไมคะ พี่ก็อยู่ห่างหนูไว้สิ”
โมนาพูดขึ้นแล้วเอียงหน้าหนีเขาเพราะเอสนั้นเอาจมูกถูกับจมูกเธอไม่หยุด
ฟอดดด
“อื้ออ พี่เอส”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสทันทีเมื่อโดนเขาหอมแก้ม
“ก็หนูทำตัวน่ารักขนาดนี้จะให้พี่คุมอารมณ์ตัวเองอยู่ได้ยังไงล่ะครับ ขนาดทำหน้างอนยังน่าฟัดเลย หมั้นเขี้ยว”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับบีบจมูกเธอเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่ต้องมาพูดเลย สรุปต่อให้หนูหน้าบูดหน้าบึ้งยังไงพี่ก็คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะคะ”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับมองค้อนใส่เขา
“ใช่ครับ ไม่ว่าหนูจะทำอะไร จะทำหน้าแบบไหนก็ทำให้พี่มีอารมณ์ตลอดนั่นล่ะ เฮ้ออ โคตรทรมาน แข็งจนปวดไปหมดแล้วเนี่ย”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเหยเกทรมานจนโมนาได้แต่ตกใจเพราะเขาตั้งใจทิ้งตัวลงมาให้ท่อนเอ็นที่แข็งตัวของเขามาโดนขาของเธอ
“อร๊ายยย ถอยออกไปเลยนะไอ้พี่บ้า ไอ้คนหื่น ไอ้โรคจิต”
โมนาด่าเอสเป็นชุดด้วยความตกใจเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับสิ่งนั้น
“คำก็หื่น สองคำก็โรคจิต เดี๋ยวพี่ก็เป็นจริงๆ ซะเลยนิ”
พูดจบเอสก็แกล้งโน้มหน้าไปซุกไซ้ซอกคอของเธอไปมา ทำเอาโมนาถึงกับหัวเราะเพราะรู้สึกจักจี้
“ฮ่าๆๆ พี่เอส พอแล้วค่ะ อย่าแกล้งหนู มันจักจี้ ฮ่าๆ”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับดิ้นไปมาเพราะโดนเอสทั้งซุกไซ้ซอกคอทั้งเอามือจี้เอวเธอจนเธอหัวเราะออกมาเสียงดัง
“หมั่นเขี้ยวจริงๆ”
เอสหยุดแกล้งโมนาแล้วทิ้งตัวนอนลงข้างเธอโดยหันข้างมากอดเอวบางไว้อย่างอารมณ์ดี
“เกลียดพี่จริงๆ ทำหนูหัวเราะจนปวดท้องแล้วเนี่ย”
โมนาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่พี่ได้เล่นได้แกล้งคนที่รักแบบนี้ รู้สึกดีชะมัด”
โมนาถึงกับหันไปมองหน้าเอสเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ที่ผ่านมาคงกดดันมากเลยใช่มั้ยคะ”
โมนาเอ่ยถามเอสเสียงเบา
“ครับ กดดันมากเลยแต่ก็พูดกับใครไม่ได้ ที่ผ่านมานอกจากไอ้คินก็ไม่มีใครรู้ว่าพี่เป็นยังไง คนส่วนมากก็มักคิดว่าพี่เป็นแค่ลูกคนรวยที่อารมณ์ดี เจ้าชู้ ขี้เล่นแค่นั้นล่ะครับ แต่พี่ก็ว่าดีนะที่เขามองพี่แบบนั้นเพราะอย่างน้อยความขี้เล่นของพี่มันก็ทำให้พี่สามารถลืมเรื่องกดดันตัวเองได้ชั่วคราว”
เอสพูดกับโมนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะที่นอนหันข้างกอดเธอไว้อยู่ ก็ต้องชะงักตกใจเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆ โมนาก็หันข้างมากอดเขา
“เลิกพูดเรื่องที่ทำให้เครียดเถอะค่ะ นอนดีกว่านะคะ หนูรู้ว่าตัวหนูจะทำให้พี่สบายใจเพราะฉะนั้นวันนี้จะนอนกอดทั้งคืนเลยแล้วกัน ถือว่าเป็นรางวัลที่ออกแบบชุดได้ถูกใจ”
โมนาพูดขึ้นขณะที่หลับตาลง คำพูดของเธอทำให้เอสยิ้มกว้างขึ้นทันทีจึงสอดแขนให้เธอนอนหนุนโดยที่โมนาก็ขยับตัวนอนหนุนแขนเขาอย่างว่าง่าย
“ขอบคุณครับ เป็นรางวัลที่ดีมากเลยจริงๆ ฝันดีนะครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับกระชับกอดแน่นขึ้น
“ฝันดีค่ะ”
โมนาตอบเอสกลับด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็กอดตอบเขาทันที การกระทำของเธอทำให้เอสรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยจึงหลับตาลงตามเธอ ตั้งแต่เสียแม่ไปนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้นอนหลับอย่างสบายใจและหลับลึกโดยไม่ฝันร้ายอะไรเลย เช้าวันต่อมาเอสลืมตาขึ้นมาอย่างรู้สึกดีเพราะได้นอนเต็มอิ่มแต่ก็ต้องรีบลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจเมื่อไม่เห็นโมนานอนอยู่ข้างๆ จึงรีบเดินออกจากห้องลงไปข้างล่างก็เห็นโมนากำลังเตรียมอาหารเช้าบนโต๊ะอยู่โดยเธอนั้นอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว เอสจึงเดินไปกอดเธอจากข้างหลังทันทีเพราะเหมือนในบ้านจะมีแค่เธอคนเดียว
“อุ้ย! พี่เอส ตกใจหมดเลย มากอดทำไมคะปล่อยหนูเลยนะ”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับดิ้นไปมาเมื่อเอสนั้นมากอดเธอไว้
“ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกครับ หนีลงมาคนเดียวได้ไง แบบนี้ต้องโดนทำโทษ ฟอดด”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหอมแก้มเธอ
“อร๊าย! ไอ้พี่บ้า ฉวยโอกาสอีกแล้ว”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสแล้วตีแขนเขาอย่างแรงจนเอสต้องปล่อยกอดออก
“ตีอีกแล้ว เจ็บนะครับ”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับแกล้งทำหน้าเจ็บใส่โมนา
“ไม่ต้องมาสำออยเลยค่ะ ตีเบาๆ เอง นี่พี่อาบน้ำแปรงฟันยังคะเนี่ย”
โมนาเอ่ยถามเอสทันทีเมื่อนึกขึ้นได้
“ยังครับ ตื่นขึ้นมาแล้วตกใจไม่เห็นหนูเลยรีบลงมาดู”
“อี๋ น้ำก็ไม่อาบฟันก็ไม่แปรง เหม็นอะ ไปอาบน้ำแปรงฟันเลยนะคะ”
โมนาพูดแกล้งเอสพร้อมกับเอามือปิดจมูกตัวเอง
“เกินไปมั้ยครับ พี่ว่าพี่ไม่ได้เหม็นขนาดนั้นนะ หนูลองมาดมดูสิ”
เอสตอบโมนาแล้วโน้มหน้าไปใกล้เธออย่างกวนๆ
“ไม่เอา ไปเลยนะคะ ไปอาบน้ำเลย จะได้ไปเรียน พี่ต้องไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดพี่อีกนะ”
“หนูจะไปคอนโดกับพี่ใช่มั้ยครับ”
เอสถามโมนากลับด้วยรอยยิ้ม
“ถึงไม่อยากไปพี่ก็ลากหนูไปด้วยอยู่ดีล่ะค่ะ รีบไปอาบน้ำจะได้มากินข้าว เดี๋ยวไม่ทันเรียนนะคะ”
“ค้าบผม”
เอสตอบโมนาด้วยรอยยิ้มแล้วขึ้นไปอาบน้ำทันทีจากนั้นก็ลงมาโดยใส่ชุดกีฬาของมาร์เวลเพราะจะกลับไปเปลี่ยนที่คอนโดจากนั้นก็ลงมากินข้าวกับเธอ
“คุณพ่อคุณแม่ไปไหนหรอครับ มาร์เวลด้วย”
เอสเอ่ยถามโมนาด้วยความสงสัยขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเธอ เพราะตั้งแต่เขาตื่นยังไม่เห็นใครเลยสักคน
“พ่อกับแม่เอาชุดไปส่งลูกค้าค่ะเลยไปส่งมาร์เวลด้วย”
โมนาตอบเอสแล้วตักอาหารให้เขา
“ขอบคุณครับ พี่นี่แย่จังตื่นสายกว่าทุกคนเค้าเลย”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับหน้ารู้สึกผิด
“อยู่ที่นี่ไม่เคร่งครัดเรื่องเวลาหรอกนะคะ พี่ไม่ต้องคิดมาก ถ้าเป็นวันหยุดทุกคนก็ตื่นสายเหมือนกัน”
โมนาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนเอสได้แต่ยิ้มกว้างให้เธอ จากนั้นก็กินข้าวต่อหลังจากกินข้าวอิ่มเอสก็พาโมนาไปที่คอนโดเขาทันที
“หนูขอรอในรถนะคะ”
โมนาพูดขึ้นเมื่อเอสพาเธอมาถึงคอนโดแล้ว
“ขึ้นไปรอบนห้องดีกว่าครับ พี่แต่งตัวนานนะ”
“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวพี่จะหาเรื่องฉวยโอกาสหนู ไปเรียนสายพอดี”
โมนารีบพูดค้านขึ้นอย่างรู้ทันเอส
“หึ ถ้าพี่อยากทำพี่ไม่เลือกสถานที่นะครับ ตรงนี้พี่ก็ทำได้ ถ้าหนูไม่ยอมขึ้นไปบนห้องกับพี่ พี่จะจูบหนูตรงนี้นะ”
เอสพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่โมนาจากนั้นก็โน้มหน้าไปใกล้เธอ
“งืออ ไปด้วยก็ได้”
พูดจบโมนาก็รีบลงรถไปอย่างเร็วเพราะกลัวเขาจะทำจริงๆ จนเอสได้แต่กระตุกยิ้มชอบใจเมื่อเห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดของเธอ
#กลับมาแล้วค่า ต้องขอโทษคุณรี๊ดที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าพอดีเมื่อวานไรท์ไข้ขึ้นสูงนอนทั้งวันเลย แต่ตอนนี้ไข้ลดแล้วแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็น คุณสาเลยอยากให้งดปั่นนิยายแล้วให้พักอีก ไรท์เลยขอมาอัพตอนให้ก่อนค่า ต้องขออภัยคุณรี๊ดด้วยนะคะเดี๋ยวไรท์จะค่อยๆ ไล่ตอบเม้นน๊า