เมื่อโมนาเข้ามาในห้องนอนแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงที่นอนมือเล็กยกขึ้นมาแตะปากตัวเองเมื่อนึกถึงตอนที่จูบกันกับเอส
“ไอ้พี่บ้า ชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อยเลย”
โมนาบ่นอุบอิบให้เอสเมื่อโดนเขาฉวยโอกาสอยู่หลายครั้งแต่กลับไม่รู้สึกโกรธเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงเรื่องเอสสักพักก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาดูหนังจนผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีเอสก็โทรหาเธอ
“พี่รหัสสุดหล่อ ช่างกล้าบันทึกชื่อตัวเองไว้แบบนี้เนาะ”
โมนาพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นชื่อเบอร์ที่โทรเข้าขึ้นว่า ‘พี่รหัสสุดหล่อ’ เพราะเอสเป็นคนบันทึกเบอร์ตัวเองให้เธอ เมื่อรู้ว่าใครโทรมาโมนาจึงกดรับสายทันที
(ฮัลโหลครับที่รัก)
“ใครที่รักพี่ โทรผิดหรอคะ”
(ไม่ผิดหรอกครับ เพราะพี่บันทึกเบอร์นี้ว่าที่รัก หรือจะให้เปลี่ยนเป็นเมียดีครับ)
“เมียอะไร จะบันทึกเบอร์หนูว่าเมียไม่กลัวคนอื่นเข้าใจผิดหรอคะ”
(ไม่ครับ เพราะพี่อยากได้หนูเป็นเมียจริงๆ นิ)
“ไอ้พี่บ้า ที่โทรมาแค่จะมาพูดแกล้งหนูรึไงเนี่ย”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสแก้เขินเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
(พูดหยอดไว้เผื่อหนูเคลิ้มตาม จริงๆ จะโทรมาบอกว่าพี่ถึงคอนโดแล้วนะครับ)
“พี่นอนคอนโดหรอคะ”
โมนาเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะคิดว่าเขานอนที่บ้านตัวเอง
(ครับ พี่นอนคอนโด xxx ห้อง 1510 ชั้น 15 ครับ)
“บอกมาซะละเอียดเชียว”
(บอกไว้เผื่อหนูอยากมาหาพี่ไงครับ)
“ใครจะอยากไปหาพี่กันคะ หนูวางนะง่วงแล้ว”
(เดี๋ยวก่อนครับ)
“มีอะไรคะ”
(พรุ่งนี้พี่ไปรับหนูไปเรียนได้มั้ยครับ)
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเกรงใจ”
(แต่พี่อยากไปรับ นะครับ ไปด้วยกันหนูจะได้ประหยัดค่ารถไง)
“ถ้าจะดื้อมารับให้ได้จะขอทำไมคะ อย่ามารับช้าแล้วกัน ถ้าทำหนูเข้าเรียนสายหนูโกรธจริงๆ ด้วย”
(ไม่สายแน่นอนครับ งั้นหนูนอนพักเถอะ ฝันดีนะครับที่รักของพี่ จุ๊บ)
“เอ้า! นี่วางไปดื้อๆ แบบนี้เลยหรอเนี่ย ไอ้พี่บ้า ขยันหยอดจริงๆ แล้วแบบนี้จะทนได้กี่วันล่ะเนี่ย ไอ้ใจที่ก็ขยันเต้นแรงจริงๆ”
โมนาบ่นให้ตัวเองทันทีเมื่อคุยกับเอสหัวใจเธอก็เต้นแรงไม่หยุด เมื่อเอสวางสายแล้วเธอจึงเข้านอนทันที เช้าวันต่อมาโมนาเดินลงมาจากห้องด้วยชุดนักศึกษาตรงเข้าไปหาแม่ตัวเองที่กำลังทำอาหารเช้าให้เธออยู่
“มาร์เวลไปเรียนแล้วหรอคะ”
โมนาเอ่ยถามผู้เป็นแม่เมื่อเห็นมีจานข้าวที่กินแล้ว
“ใช่ลูก พ่อเค้าพึ่งไปส่งเมื่อกี๊นี่เอง”
ขวัญใจพูดกับโมนาขณะที่กำลังตักอาหารใส่จานอยู่ เพราะตั้งแต่รู้ว่ามาร์เวลโดนนักเลงรีดไถเงินมนตรีจึงตัดสินใจไปส่งลูกไปเรียนทุกวัน
“แล้ววันนี้แม่ต้องเอาชุดไปส่งลูกค้าที่ไหนมั้ยคะ”
โมนาเอ่ยถามผู้เป็นแม่ขณะที่ช่วยแม่ถือจานอาหารมาวางบนโต๊ะเพราะที่บ้านเธอนั้นเปิดร้านตัดเย็บชุด ไม่ว่าจะซ่อมแซมชุดเก่า หรือตัดตามแบบที่ลูกค่าต้องการ
“วันนี้ไม่ได้ไปส่งจ้า เพราะยังตัดไม่เสร็จ แล้ววันนี้ลูกไม่รีบไปขึ้นรถเมล์หรอ เห็นปกติไปตั้งแต่หกโมงเช้า นี่เจ็ดโมงแล้วนะจะทันรถหรอลูก”
ขวัญใจถามลูกสาวด้วยความสงสัยเมื่อเห็นโมนาออกจากห้องช้ากว่าทุกวัน
“วันนี้พี่เอสจะมารับค่ะแม่”
“พ่อเอสจะมารับหรอลูก งั้นแม่ไปเตรียมอาหารเช้าให้พ่อเอสดีกว่า”
ขวัญใจพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อรู้ว่าเอสจะมารับโมนา
“ไม่ต้องหรอกค่ะแม่ เมื่อกี๊หนูโทรถามพี่เอส พี่เค้าพึ่งจะออกจากคอนโดคงกินไม่ทันหรอกค่ะ”
โมนาบอกผู้เป็นแม่ไปตามตรงเพราะพอเอสมาถึงเธอก็จะออกไปทันทีเพราะกลัวไม่ทันเรียน
“งั้นแม่ทำข้าวกล่องให้แทนก็ได้”
พูดจบขวัญใจก็เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อรีบทำข้าวกล่องให้เอส
“มาบ้านแค่วันเดียวกลายเป็นลูกรักของแม่ซะแล้ว ชิ”
โมนาพูดพึมพำคนเดียวพร้อมกับเบะปากหมั่นไส้เมื่อเอสกลายเป็นลูกรักของแม่ตัวเองไปแล้ว เมื่อโมนากินข้าวอิ่มก็ได้ยินเสียงรถของเอสมาถึงพอดี
“พี่เอสมาแล้ว หนูไปก่อนนะคะแม่”
โมนาพูดกับผู้เป็นแม่แล้วตั้งท่าจะเดินออกจากบ้าน
“เดี๋ยวก่อนลูก แม่ไปด้วย”
“แม่จะไปไหนคะ”
โมนาเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย
“แม่จะเอาข้าวกล่องไปให้ลูกเขยแม่”
“แม่!”
พูดจบขวัญใจก็ถือข้าวกล่องเดินออกไปหน้าบ้านอย่างอารมณ์ดีจนโมนาได้แต่เรียกแม่ตัวเองเสียงดังเมื่อได้ยินแม่ตัวเองเรียกเอสว่าลูกเขยแล้วรีบเดินตามแม่ไปทันที ทางด้านเอสเมื่อมาถึงบ้านโมนาแล้วก็จอดรถไว้หน้าบ้านเดินลงจากรถเพื่อจะไปกดกริ่งหน้าบ้านแต่ก็เห็นขวัญใจแม่ของโมนาเดินออกจากบ้านมาพร้อมกับโมนาที่เดินตามแม่มาติดๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านขวัญใจก็เปิดประตูแล้วเดินไปหาเอสทันที
“สวัสดีครับคุณแม่”
เอสยกมือไหว้ทักทายขวัญใจอย่างสุภาพ
“สวัสดีพ่อเอส กินข้าวเช้ามายังลูก”
ขวัญใจเอ่ยถามเอสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทำเอาเอสรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนจากแม่ของโมนา
“ยังเลยครับ พอดีผมไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าสักเท่าไหร่ครับ”
เอสตอบขวัญใจไปตามตรงเพราะเขาทำอาหารไม่เป็นตอนเช้าจึงไม่ค่อยได้กินอะไรนอกจากกาแฟเท่านั้น
“ดีเลย แม่ทำข้าวกล่องให้พ่อเอสด้วย เอาไว้กินก่อนเรียนนะลูกจะได้มีแรงเรียน ”
ขวัญใจพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นข้าวกล่องให้เอส
“ขอบคุณครับคุณแม่ ผมจะกินให้หมดเลยครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วรับข้าวกล่องจากขวัญใจทันที
“ชิ หมั่นไส้”
เอสหันไปมองโมนาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของโมนาพร้อมกับเบะปากมองบนใส่เขา
“อิจฉาหรอครับ เดี๋ยวแบ่งให้กินก็ได้อะ”
เอสพูดกับโมนาอย่างกวนๆ จนโมนาได้แต่มองค้อนใส่เขา
“อิจฉาอะไร แม่ก็เตรียมให้หนูเหมือนกันแถมยังได้กินก่อนพี่อีก หนูไปเรียนก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ”
โมนาพูดกับเอสแล้วหันไปบอกผู้เป็นแม่จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถของเอสทันที จนเอสได้แต่ยิ้มเอ็นดูกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของเธอ
“ลูกสาวแม่ค่อนข้างจะหงุดหงิดง่าย ขี้งอนเก่งนะลูกเขย”
เอสหันไปมองขวัญใจด้วยความตกใจเมื่อได้ยินท่านเรียกตัวเองว่าลูกเขย
“คุณแม่ดูออกด้วยหรอครับว่าผมกำลังจีบลูกสาวคุณแม่อยู่”
เอสเอ่ยถามขวัญใจด้วยความสงสัย
“จูบกันขนาดนั้นจะไม่รู้ได้ไงล่ะจ้ะ”
ขวัญใจพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทำเอาเอสถึงกับตกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของขวัญใจ
“ผมขอโทษนะครับคุณแม่ที่ล่วงเกินน้องโมนาแต่ผมอยากบอกคุณแม่ว่าผมรักน้องโมนาและผมจริงจังกับน้องจริงๆ นะครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยนำเสียงจริงจังบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นออกมาจากใจจริงๆ จนขวัญใจยิ้มกว้างมากกว่าเดิมได้แต่คิดว่าเธอดูคนไม่ผิดจริงๆ เพราะเอสนั้นสื่อความจริงใจออกมาให้เธอเห็นทั้งหมด
“แม่เชื่อจ้ะ จีบลูกสาวแม่ได้เต็มที่เลยนะ เอาให้อยู่หมัด ถ้าโมนาเล่นตัวก็รวบหัวรวบหางเลย อิอิ”
ขวัญใจพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีทำเอาเอสถึงกับหลุดขำเห็นแม่ของโมนาเปิดทางให้เขาขนาดนี้
“ผมถือว่าคุณแม่อนุญาตแล้วนะครับ ผมทำจริงๆ นะครับ”
เอสก้มไปกระซิบกับขวัญใจด้วยรอยยิ้ม
“จัดเลยลูกเขย อิอิ”
เอสและขวัญใจต่างก็หัวเราะใส่กันอย่างเข้าขาจนโมนาต้องลดกระจกตะโกนถามขึ้น
“คุยอะไรกันคะ กระซิบกระซาบอะไรกัน”
“เปล่า/เปล่า”
เอสและขวัญใจตอบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายทำเอาโมนาถึงกับคิ้วขมวดมากกว่าเดิม
“มีพิรุธมากเลยนะคะ ไปเรียนได้แล้วค่ะพี่เอส จะสายแล้วนะ”
“ค้าบบ ผมไปก่อนนะครับคุณแม่ สวัสดีครับ”
“จ้ะลูก”
เมื่อขวัญใจตอบแล้วเอสก็ขึ้นรถทันที
“ฝากหน่อยครับ”
เอสยื่นข้าวกล่องให้โมนาทันทีเมื่อขึ้นรถมาแล้ว โมนาก็รับมาวางไว้บนตักตัวเองอย่างว่าง่าย
“คุยอะไรกับแม่หรอคะ ทำไมดูแม่อารมณ์ดีจัง”
โมนาเอ่ยถามเอสทันทีเมื่อเขาขับรถออกจากบ้านแล้ว
“คุณแม่บอกว่าถ้าหนูเล่นตัวนานให้พี่รวบหัวรวบหางหนูได้เลยครับ”
เอสพูดขึ้นอย่างกวนๆ
“อย่ามาแกล้ง แม่ไม่มีทางพูดแบบนั้นแน่นอน แม่หวงหนูจะตาย”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“พี่พูดจริงนะเนี่ย ก็คุณแม่บอกแบบนั้นจริงๆ คุณแม่เปิดทางให้พี่จีบหนูเรียบร้อยแถมพี่ยังได้ตำแหน่งลูกเขยแล้วด้วย พี่ว่าเรามาเป็นแฟนกันเลยเถอะครับ คุณแม่อุตส่าห์เรียกพี่ลูกเขยแล้วนะ”
เอสพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“อย่ามาเนียนค่ะ พึ่งเจอหนูแค่สองวันอย่าหวังว่าหนูจะยอมเป็นแฟน อีกอย่างหนูเปลี่ยนใจแล้วว่าจะไม่ให้พี่พิสูจน์ตัวเองหนึ่งอาทิตย์แต่จะเปลี่ยนเป็นหนึ่งเดือนแทนเพราะหนึ่งอาทิตย์มันดูเร็วไป ตกลงนะคะ”
“เดี๋ยวสิครับ ทำไมยืดเวลาไปนานจังครับ”
เอสพูดค้านโมนาทันทีเมื่อเธอนั้นยืดเวลาไปนานกว่าเดิม
“แค่หนึ่งอาทิตย์พี่อาจจะทำดีกับหนูแค่พอนานไปใครจะรู้ล่ะคะ เอาเป็นว่าหนึ่งเดือนถ้าพี่ยังเหมือนเดิมกับหนู หนูก็จะยอมเป็นแฟนพี่ค่ะ ตามนั้นนะคะ”
โมนาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ก็ได้ครับ พี่จะทำให้หนูเห็นว่าพี่จริงใจกับหนูจริงๆ”
เอสพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้ม จนโมนาได้แต่ยิ้มตามเมื่อเขายอมทำตามเธออย่างว่าง่าย