“โอ๊ยย!”
เอสถึงกับร้องเจ็บออกมาแล้วกลับมายืนตัวตรงเมื่อโดนโมนาตบแก้มเขาอย่างแรง
“ไหนบอกจะหอมแก้มครับ ทำไมมาตบพี่ได้ล่ะ”
เอสเอ่ยถามโมนาพร้อมกับจับแก้มตัวเองข้างที่โดนโมนาตบ
“หนูก็หอมแล้วไงคะ แต่ใช้มือหอมแทน”
โมนาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ
“แสบจังนะครับ อย่าเผลอนะ โดนเอาคืนแน่”
“ทำไมคะ พี่จะตบหนูคืนรึไง”
โมนาถามเอสกลับพร้อมกับมองเอสอย่างไม่เกรงกลัว
“ใช่ครับ แต่พี่ไม่ใช้มือตบนะ จะใช้ปากตบแทน จุ๊บ”
โมนาเบิกตากว้างตกใจทันที เพราะเอสพูดจบก็ก้มมาจุ๊บปากเธออย่างเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทันเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ เมื่อเอสก้มจุ๊บโมนาก็ผละออกแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างชอบใจ
“งือ ไอ้พี่บ้า”
“โอ๊ยๆ ตัวเล็กๆ ทำไมมือหนักจังครับเนี่ย”
เอสร้องเจ็บทันทีเมื่อโมนาตีเข้าที่แขนเขาอย่างแรงหลายครั้งเพราะโกรธที่โดนเขาจุ๊บปาก
“คนนิสัยไม่ดี ทำไมเป็นคนแบบนี้ มาจูบคนอื่นทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนี้ได้ยังไงคะ งืออ หนูอุตส่าห์เก็บจูบแรกไว้ให้คนที่หนูรักในอนาคตแท้ๆ”
โมนาพูดโวยวายใส่เอสด้วยความโกรธเมื่อโดนเขาฉวยโอกาสอีกแล้ว
“ก็พี่ไงครับคนที่หนูรักในอนาคตอีกอย่างเมื่อกี๊เค้าเรียกว่าจุ๊บไม่ได้จูบซะหน่อย”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“จุ๊บกับจูบมันก็เหมือนกันนั่นล่ะค่ะ”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับมองค้อนใส่เอสเมื่อเห็นเขายิ้มกวนใส่เธอ
“ไม่เหมือนกันนะครับ”
“ไม่เหมือนกันยังไงคะ”
โมนาถามเอสกลับด้วยความสงสัย
“ถ้าจูบต้องเป็นแบบนี้ครับ”
พูดจบเอสก็โน้มหน้าไปจูบโมนามือหนาล็อคคอเธอไว้ไม่ให้เธอผละหนีทำเอาโมนาถึงกับตกใจ จังหวะที่โมนาอ้าปากจะพูดเอสก็สอดลิ้นเข้าไปในปากเธอทันที มือเล็กจากที่พยายามดันอกแกร่งเขาไว้ก็เปลี่ยนมากำเสื้อเขาแทนเพราะเริ่มเคลิ้มกับรสจูบที่เอสมอบให้ ทางด้านเอสเมื่อเห็นโมนาไม่ขัดขืนเอสก็ปล่อยมือจากคอเธอแล้วย้ายมากอดเอวเล็กไว้ จูบแลกลิ้นสักพักเอสก็ผละจูบออกมือหนายื่นมาเกลี่ยปากเธออย่างเบามือพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาหลงใหลจนโมนาได้แต่หลบสายตาเขาเพราะเขินที่ยอมให้เขาจูบอย่างว่าง่ายจนเอสได้แต่ยิ้มเอ็นดูกับความเขินของเธอ
“ปากนี้พี่จองแล้วนะครับ ห้ามให้ใครได้แตะต้องเด็ดขาดเพราะพี่หวง”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ได้ยินที่บอกมั้ยครับ”
เอสพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นโมนายืนนิ่งไม่พูดอะไร
“พี่ทำแบบนี้กับผู้หญิงที่จีบทุกคนเลยหรอคะ”
โมนาตัดสินใจถามเอสไปตรงๆ ทันที เพราะอยากรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนรึเปล่า
“พี่ไม่เคยจีบใครก่อนครับ”
โมนาเงยหน้ามองเอสทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรรอฟังเขาพูดต่อ
“ก่อนที่พี่จะเจอหนู พี่นอนกับผู้หญิงมาหลายคนแต่ไม่มีสถานะ เรียกว่าแค่เล่นสนุกพอเสร็จก็แยกย้าย พี่ไม่เคยเข้าหาใครก่อน มีแต่ผู้หญิงเข้ามาหาพี่เองและพี่ก็จะบอกผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาหาพี่ก่อนเสมอว่าพี่จะไม่ให้สถานะอะไรเป็นแค่คู่นอนแค่นั้น ถ้ารับได้ก็ไปต่อถ้าไม่โอเคก็หยุด ที่พี่ทำแบบนั้นเพราะพี่รู้ว่าผู้หญิงที่เข้ามาหาพี่เค้าก็แค่อยากได้ตัวพี่เท่านั้นและเค้าก็ไม่ได้มีพี่แค่คนเดียว”
เอสบอกโมนาไปตามตรงโดยไม่ปิดบัง
“พี่รู้ว่าหนูไม่ชอบคนเจ้าชู้แล้วทำไมถึงยังกล้าบอกเรื่องนี้กับหนู ไม่กลัวหนูจะปฏิเสธพี่หรอคะ”
โมนาเอ่ยถามเอสขึ้นเมื่อได้ยินเขาบอกถึงตัวตนของเขา
“พี่ยอมบอกหนูตรงๆ ดีกว่าให้หนูรู้จากปากคนอื่นทีหลัง ถามว่ากลัวโดนหนูปฏิเสธมั้ยพี่ก็กลัวนะ แต่ก่อนที่หนูจะปฏิเสธไม่ยอมคบกับพี่ พี่แค่อยากจะบอกว่าพี่ชอบหนูจริงๆ และพร้อมจะปรับปรุงตัวเองจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแน่นอน พี่จะไม่สัญญาแต่จะทำให้หนูเห็น หนึ่งอาทิตย์นี้อย่าพึ่งปฏิเสธพี่ได้มั้ยครับ ขอพี่พิสูจน์ตัวเองให้หนูเห็นก่อนได้มั้ย”
เอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสายตามองโมนาอย่างจริงใจเพื่อบ่งบอกว่าเขานั้นพูดออกจากใจจริง ทำเอาโมนาได้แต่ยืนนิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของเขาในใจรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อเขานั้นกล้าพูดตรงๆ กับเธอ
“ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกันนะคะ”
เอสยิ้มกว้างขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของโมนาเพราะบ่งบอกว่าเธอนั้นให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเองอยู่
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่หนูยอมเป็นแฟนพี่แล้ว”
เอสพูดขึ้นแล้วอ้าแขนตั้งท่าจะกอดโมนาแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อโดนโมนาห้ามไว้ก่อน
“หยุดเลยนะคะ อย่าคิดจะมาฉวยโอกาสหนูอีกเด็ดขาด อีกอย่างใครบอกว่าหนูยอมเป็นแฟนพี่แล้ว หนูแค่ให้โอกาสพี่จีบหนูแค่นั้นค่ะ อย่ามาเนียน”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับชี้หน้าห้ามเอสอย่างคาดโทษ จนเอสได้แต่ยกมือขึ้นยอมแพ้ด้วยรอยยิ้ม
“นึกว่าจะเคลิ้มเหมือนตอนจูบซะอีก โอ๊ย! ฮ่าๆ ตีแก้เขินหรอครับ”
“ไอ้พี่บ้า กลับบ้านไปเลยนะ กลับไปเลย”
โมนาตีเข้าที่แขนเอสอย่างแรงพร้อมกับแว๊ดเสียงใส่เมื่อโดนเขาพูดแกล้ง
“ไปก็ได้ครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วขึ้นรถตัวเองแต่ก็ต้องลดกระจกลงเมื่อโมนานั้นเคาะกระจกรถเขา
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
เอสเอ่ยถามโมนาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเธอเคาะกระจกรถเขา
“ขับรถดีๆ นะคะ ถึงแล้วก็โทรบอกหนูด้วย”
เอสถึงกับชะงักเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดที่ดูห่วงจากเธอแบบนี้
“ครับผม งั้นพี่กลับก่อนนะครับ”
เอสพูดตอบโมนาด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอพยักหน้าตอบเอสก็ขับรถออกจากบ้านเธอไปทันที การกระทำทุกอย่างทำเอามนตรี ขวัญใจและมาร์เวลถึงกับยิ้มชอบใจเพราะทั้งสามนั้นแอบดูเอสกับโมนาคุยกันอยู่
“แม่ สงสัยเราจะได้พ่อเอสเป็นลูกเขยแน่ๆ”
มนตรีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ได้ก็ดีสิพ่อ แม่ล่ะถูกชะตากับพ่อเอสมากเลยนะ ตอนที่เห็นพ่อเอสจูบลูกสาวแม่แทบจะชวนพ่อยกขันมากไปขอพ่อเอสแล้วนะ”
ขวัญใจพูดกับสามีอย่างอารมณ์ดี
“นี่พ่อกับแม่ไม่คิดจะหวงลูกสาวเลยหรอครับ นี่ลูกสาวโดนจูบเลยนะนั่น”
มาร์เวลเอ่ยถามพ่อกับแม่ด้วยความสงสัยเพราะตอนที่เห็นเอสจูบโมนาพ่อกับแม่ของเขานั้นเอาแต่ยิ้มเขินเหมือนกำลังดูหนังไม่มีผิด
“หวงทำไม ก็พ่อกับแม่อยากได้พ่อเอสมาเป็นลูกเขยนิ หรือลูกไม่อยากได้พ่อเอสเป็นพี่เขยหรอ”
มนตรีเอ่ยถามลูกชายด้วยความอยากรู้
“อยากสิครับ แต่ผมแค่สงสัยตอนที่ผมโทรหาพี่เอส พี่เอสบอกผมว่ามีคนที่ชอบแล้ว แถมบอกว่าสวยด้วยนะพ่อ”
มาร์เวลพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้
“แล้วไม่คิดว่าคนที่พ่อเอสบอกจะเป็นพี่สาวของลูกเลยรึไง”
ขวัญใจถามมาร์เวลกลับ
“ไม่ครับ ก็พี่เอสบอกว่าคนที่ชอบสวยมากด้วย พี่โมไม่เห็นสวยเลย โอ๊ย!”
“แกว่าใครไม่สวยกันห๊ะ มาร์เวล”
มาร์เวลร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนโมนาตีเข้าที่หลัง เพราะเธอเดินเข้ามาได้ยินตอนที่มาร์เวลพูดว่าเธอไม่สวยพอดี ทำเอาทุกคนถึงกับทำหน้าเลิ่กลักเมื่อเห็นโมนาเดินเข้ามาในบ้านแล้ว
“ผมเปล่านะพี่ พี่หูฝาดแล้ว”
มาร์เวลรีบปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นสายตาคาดโทษของพี่สาว
“ฉันได้ยินเต็มสองหูว่าแกว่าฉันไม่สวย คุยเรื่องอะไรกันคะทำไมถึงโยงมาเรื่องหนู”
โมนาหันไปถามพ่อกับแม่ทันทีด้วยความอยากรู้
“ไม่มีอะไร ไม่ได้คุยอะไรกันเลย แม่ปวดหัวใช่มั้ยเดี๋ยวพ่อพาไปพักบนห้องดีกว่าเนาะ”
มนตรีพูดขึ้นพร้อมกับแกล้งประคองเมียตัวเอง
“ใช่จ้ะพ่อ แม่รู้สึกปวดหัวมากเลย พาแม่ไปนอนหน่อยนะ”
เมื่อขวัญใจพูดจบมนตรีก็พยุงเมียตัวเองเดินไปทันที
“ผมก็ปวดท้อง ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
เมื่อเห็นพ่อกับแม่ชิ่งหนีแล้วมาร์เวลก็พูดขึ้นแล้ววิ่งหนีโมนาไปอีกคน
“เอ้า! ไปกันหมดเลย มีพิรุธมากเลยนะเนี่ย”
โมนาตะโกนพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นทุกคนต่างก็เดินหนีเธอเหมือนกับทำอะไรผิดไว้ เมื่อเห็นทุกคนหนีเข้าห้องหมด โมนาจึงตัดสินใจขึ้นไปบนห้องตัวเองเหมือนกัน