ภครัฐที่จำต้องแบกข้าวของเต็มไม้เต็มมือ แถมเงินที่บิดาให้มาพามุกอันดาเที่ยวก็แทบจะหมดลง เขาไม่เคยต้องคำนวณเงินในการใช้จ่ายเท่านี้มาก่อนเลย
“กลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่าไหม” อยากกลับเต็มแก่ แต่คนไม่อยากกลับกระทืบเท้าเร่าๆ
“ไม่เอาค่ะ มุกจะกินร้านนี้ อยากกินๆ ๆ นะๆ ๆ พี่รัฐ พามุกไปกินหน่อย”
แค่พาเธอมาเที่ยวห้างฯ เขาก็แทบอยากตาย นี่จะให้เขาต้องมาทนนั่งกินอะไรกับเธอในที่สาธารณะแบบนี้อีกน่ะเหรอ
“มุกอยากกิน ไม่งั้นจะฟ้องคุณพ่อ”
“ก็ได้” ภครัฐตอบอย่างจำใจ เพียงแค่เดินเข้าไป คนก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน ดีที่สวมแว่นและหมวก ใส่เสื้อตัวใหญ่ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงต้องอับอายอย่างแน่นอน เขาพยายามแต่งตัวให้ซอมซ่อที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เอาอันนี้ค่ะ น่ากินๆ” มุกอันดาชี้ไปที่รูปอาหาร แล้วหันมาส่งตาปิ๊งๆ ให้ชายหนุ่มตรงหน้า
ภครัฐเบือนหน้าหนี เขาแทบไม่หิว บอกตรงๆ ว่ากินไม่ลง
“เอาน้ำแร่อุณหภูมิห้อง” เขาสั่งอย่างจำใจ
‘กินน้ำแร่เลยเหรอ ชิส์!’ มุกอันดาแอบเบ้ปาก
“ว่าอะไรนะ” คนหูดีเอ่ยถาม
“เปล่าค่ะ จะถามว่าพี่รัฐดื่มน้ำแร่แล้วหล่อ ผิวดีแบบนี้หรือเปล่า มุกจะได้กินบ้าง” มุกอันดาแกล้งยื่นมือดำๆ ของเธอจับกับมือขาวของชายหนุ่ม ภครัฐสะบัดออกเหมือนโดนไฟช็อร์ต มุกอันดาแอบขำท่าทางของอีกฝ่าย
“ฉันชอบดื่มน้ำแร่น่ะ” เสียงแข็งเอ่ยบอก
“แล้วไม่สั่งอะไรมากินเหรอคะ”
“ฉันไม่ชอบอาหารเลี่ยนๆ แบบนี้น่ะ” จริงๆ เขากินไม่ลงเสียมากกว่า
“อ๋อ... เหรอคะ” ไม่ชอบกินอาหารเลี่ยนๆ รักสุขภาพว่างั้นเถอะ เห็นเมื่อคืนเทเหล้าเข้าปากยังกะน้ำเปล่า เธอแอบค่อนขอดในใจ
“น่าอร่อยจังเลย” มุกอันดาตักสปาเก็ตตี้แล้วดูดเป็นเส้นยาวเข้าปาก
“กินดีๆ หน่อย” ภครัฐกระซิบกระซาบอย่างอับอายเมื่อโต๊ะข้างๆ หันมามอง
“อะไรนะคะ พี่รัฐอยากกินด้วยเหรอ ได้เลยค่ะ” มุกอันดาทำท่าจะตักสปาเก็ตตี้ยื่นไปที่ปาก แต่แกล้งตวัดช้อนจนกระเด็นไปโดนหน้าเต็มๆ
“เฮ้ย!!!” ภครัฐสะดุ้งตกใจ
“ว้าย ตายแล้วพี่รัฐ มุกขอโทษค่ะ” มุกอันดารีบขอโทษขอโพย เธอหยิบทิชชู่ไปเช็ดให้เขาคล้ายสำนึกผิด
“ไม่ต้อง” ภครัฐปัดมือออก โชคดีที่ยังมีแว่นตา ไม่เช่นนั้นคงกระเด็นเข้าตาแน่นอน เขาหยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าด้วยตัวเอง ร่างสูงผุดลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างอับอาย
มุกอันดาหันไปหัวเราะคิกคัก ก่อนจะวิ่งตามไปรออยู่หน้าห้องน้ำ เธอไม่ให้เขาหนีไปไหนได้หรอก
ภครัฐที่ออกมาจากห้องน้ำ เขาคิดว่าจะชิ่งหนีกลับบ้านไปก่อน ทิ้งให้ยัยนั่นเคว้งคว้างอยู่ในห้างฯ แต่ปรากฏว่าพอออกมา เจ้าหล่อนก็ยืนยิ้มฟันดำอยู่ด้านหน้า คนในห้องน้ำชายที่ออกมามองกันแล้วหัวเราะรูปลักษณ์ของมุกอันดา เธอรีบเข้ามาเกาะแขนเกาะขาชายหนุ่ม ฉีกยิ้มกว้างอย่างชอบใจ ภครัฐแทบแทรกแผ่นดินหนี ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะกัดฟันพูดเสียงแข็ง
“กลับบ้าน”
มุกอันดาหัวเราะคิกคัก เดินตามไปอย่างสบายอารมณ์ เมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของชายหนุ่ม
กลับถึงบ้านเกียรติกำจาย หญิงสาวก็โทร.ไปเล่าวีกรรมให้เพื่อนรักอย่างฉัตรวดีฟัง อีกฝ่ายอดหัวเราะตามไม่ได้ แต่ก็ปรามเพื่อนเอาไว้อย่าทำอะไรเกินไปนัก ฟังแล้วอดสงสารพ่อหนุ่มเพลย์บอยเสียไม่ได้
ตื่นเช้ามามุกอันดาคิดอะไรแผลงๆ ได้อีก จึงลุกเข้าครัวแต่เช้า เหล่าคนใช้พอจะรู้ฐานะที่แท้จริงของหญิงสาวผู้เป็นแขก แม้จะรังเกียจแต่ไม่มีใครกล้าขัดใจเมื่อหญิงสาวคิดอยากจะทำอาหารปักษ์ใต้เอาใจว่าที่สามีและว่าที่แม่สามี แต่เธอไม่ได้ทำเอง แค่ใช้ให้แม่ครัวปรุงตามที่บอกเท่านั้น
“คุณแม่ขา... ลงมาแล้วเหรอคะ มุกน่ะลงทุนเข้าครัวทำอาหารเองกับมือเลยนะคะ”
เพียงแค่ได้ยินแบบนั้น คุณกาญจนาถึงกับผวา พอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร ได้กลิ่นอาหารก็อยากจะอ้วก
“พี่รัฐมาพอดี มามะ มานั่งใกล้ๆ กับน้องมุก วันนี้มุกลงทุนเข้าครัวเองเลยนะคะ ตักข้าวๆ เร็วๆ สิ” มุกอันดาหันไปสั่งสาวใช้ อีกฝ่ายรีบกุลีกุจอตักข้าวในทันที จึงโดนสายตาเขียวปั้ดของคุณกาญจนาตวัดมองอย่างไม่สบอารมณ์ ทำให้สาวใช้เกร็งในทันที
“เร็วๆ สิ ตักเลยๆ นี่ค่ะคุณแม่ ปลาส้มทอด น้ำพริกแมงดานรก สะตอดอง น้ำบูดูก็มีนะคะ โอ้โห... แซ่บเว่อร์ๆ ค่ะคุณแม่ขา พี่รัฐชิมดูสิคะ” มุกอันดายื่นช้อนที่ตักกับข้าวไปที่ปากของชายหนุ่ม
“ไม่ อื้อ...” ทันทีที่อ้าปากจะปฏิเสธ มุกอันดาก็ยัดช้อนเข้าไปในปากชายหนุ่มแทบจะทันที ภครัฐสำลักวิ่งไปอาเจียนแทบไม่ทัน
“อ้าว พี่รัฐเป็นอะไรคะคุณแม่” มุกอันดาตีหน้าซื่อตาใส คุณกาญจนาเองก็พะอืดพะอม เห็นลูกชายอ้วกก็ตามไปอ้วกด้วยเพราะเหม็นปลาส้ม สะตอดอง กลิ่นน้ำบูดูก็คละคลุ้งไปหมด
“ไปหมดแล้ว ของอร่อยๆ ทั้งนั้น คนบ้านนี้โง่ชะมัดยาดเลย”
มุกอันดาหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหันไปทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ได้สนใจสองแม่ลูกที่หาความจริงใจนั้นไม่ได้เลยสักนิด
“เอาอีกแล้วเหรอครับคุณแม่ ผมจะบ้าตาย จะให้ผมพายัยนั่นออกมาหาอะไรกินเหรอ ไม่เอาหรอกครับ ให้ผมตายซะดีกว่า” ภครัฐเสียงดังใส่มารดา
“ทำไมล่ะลูก”
“คุณแม่ยังจะมาถามอีกเหรอครับ ยัยนั่นใช้เงินมือเติบจะตาย ซื้อข้าวของไม่คิด ผมจะเอาเงินที่ไหน เงินที่คุณพ่อให้ก็หมดแล้ว นอกจากจะซื้อของแพงแล้ว ยังกินอาหารแพงๆ อีกด้วย แล้วก็ทำให้ผมขายหน้าจนจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว”
“เอาอย่างนี้ แม่จะพูดกับมันเอง มันรวยจะตาย ลูกก็ให้มันใช้เงินตัวเองสิ จะไปยากอะไร มันบอกสิบล้านก็มากอยู่นะ พ่อมันไม่ให้เงินลูกสาวบ้านนอกๆ ของมันติดตัวมาบ้างเลยหรือไง ลูกไม่ต้องพกเงินติดตัวไปอีกแล้ว เดี๋ยวแม่จะจัดการเอง” คุณกาญจนากระซิบกระซาบ ภครัฐถึงกับถอนใจพรืด เข้าใจความอึดอัดก็ตอนนี้เอง
“หนูมุกจ๊ะ”
มุกอันดาหันมายิ้มยิงฟันดำให้สองแม่ลูก เธอแอบได้ยินสองแม่ลูกพูดคุยอยู่เมื่อครู่ อยากให้เธอออกเงินเลี้ยงอย่างนั้นเหรอ งานนี้มันแน่มุกอันดาเอ๊ย!!! รับรองว่าจะเลี้ยงให้อย่างถึงใจเลยทีเดียวเชียว
“ว่าไงคะคุณแม่” เสียงหวานชวนขนลุกทำให้สองแม่ลูกลอบมองหน้ากันแล้วกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ
“คือว่าหนูมุกก็รู้ว่าบ้านเรากำลังลำบาก ถ้าวันนี้จะพาหนูมุกไปเที่ยวข้างนอก คุณแม่รบกวนหนูมุกช่วยออกเงินหน่อยนะคะ ถือว่าแชร์ๆ กันไง เมื่อวานพี่รัฐออกให้แล้ว ซื้อของให้หนูเยอะแยะเลย วันนี้หนูออกบ้าง ดีไหมลูก”
“ได้สิคะคุณแม่ พี่รัฐ เดี๋ยวมุกจะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีเลยค่ะ”
กาญจนาและภครัฐมีสีหน้าดีขึ้น โดยไม่รู้ว่ามุกอันดาแอบสังเกตสังกาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่สองแม่ลูกไม่ทันได้เห็น
หึหึ! เดี๋ยวมุกอันดาคนสวยจะเลี้ยงให้กระอักเลยพี่ภครัฐว่าที่สามีสุดหล่อขา...
ภครัฐแทบบ้าตายเสียให้ได้ เมื่อต้องออกจากบ้านมากับมุกอันดา เขาปลอมตัวใส่แว่นใส่หมวก สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบเดิมเพื่อไม่ให้ใครสังเกต ที่สำคัญเดินให้ห่างแม่ว่าที่เจ้าสาวที่แสนจะเชยเฉิ่มอัปลักษณ์ให้ไกลห่าง แต่เจ้าหล่อนกลับเกาะติดเขาแจเหมือนตังเม
“กินร้านนี้เหรอ” ภครัฐแทบเมินกับร้านอาหารที่เธอเลือก เขาปาดเหงื่อที่หน้าผากออกอย่างอ่อนแรง ตอนนี้แทบไม่มีแรงเดิน เพราะทัวร์ของเธอทำให้เขาเกือบตาย จะหนีกลับก็ไม่ได้ ดันไม่มีตังค์สักกะบาท รู้แบบนี้พกเงินมาบ้างก็ดี ไม่น่าเชื่อมารดาเสียทุกอย่างเลยจริงๆ ทีเขาจะชวนเธอเข้าไปกินในร้านหรูๆ กลับไม่ยอม ดันมากินร้านข้างทางข้างถนนที่แสนสกปรก
พอทีของเขา เธอเลือกร้านอาหารแพงๆ พอทีของเธอ เธอเลือกร้านอาหารถูกๆ ให้เขากิน มันน่าเจ็บใจนัก
“กินร้านนี้ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเขาน่าอร่อยมากๆ เลยนะคะ มุกบอกแล้วไงว่าจะเลี้ยงให้เต็มที่”